GECS จับมือภาครัฐ-เอกชน ดึงไต้หวัน ร่วมจัด “TWO WHEELS ASIA 2019” งานแสดงสินค้าและสัมมนาธุรกิจด้านพาหนะสองล้อและพาหนะไฟฟ้าแห่งเอเชีย

ข่าวยานยนต์ Friday May 17, 2019 09:33 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--17 พ.ค.--โกลบอล เอ็กซิบิชั่น แอนด์ คอนเวนชั่น เซอร์วิส GECS จับมือภาครัฐ-เอกชน ดึงไต้หวัน ร่วมจัด "TWO WHEELS ASIA 2019" งานแสดงสินค้าและสัมมนาธุรกิจด้านพาหนะสองล้อและพาหนะไฟฟ้าแห่งเอเชีย วันที่ 23-25 พ.ค. นี้ ที่ ไบเทค บางนา เล็งดึงส่วนแบ่งตลาดโลก มูลค่ากว่า 25,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ตั้งเป้ายกระดับอุตสาหกรรมขึ้นเป็นผู้นำกลุ่ม CLMV บริษัท โกลบอล เอ็กซิบิชั่น แอนด์ คอนเวนชั่น เซอร์วิส จำกัด ร่วมกับ บริษัท อินโฟเทรด จำกัด ประเทศไต้หวัน, สำนักงานส่งเสริมการจัดการประชุมและนิทรรศการ(องค์การมหาชน), มูลนิธิสถาบันการเดินและการจักรยานไทย, สมาคมยานยนต์ไฟฟ้า และ บริษัท พีอีเอ เอ็นคอม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด แถลงข่าวการจัดงาน "TWO WHEELS ASIA 2019" งานแสดงสินค้าและสัมมนาธุรกิจพาหนะสองล้อ และพาหนะไฟฟ้าแห่งเอเชีย ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ ระหว่างวันที่ 23-25 พฤษภาคม 2562 ณ ฮอลล์ EH-105 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา นางลัดดา มงคลชัยวิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกลบอล เอ็กซิบิชั่น แอนด์ คอนเวนชั่น เซอร์วิส จำกัด หรือ GECS บริษัทชั้นนำด้านการจัดงานนิทรรศการแสดงสินค้า การประชุม และสัมมนาในกลุ่มประเทศ CLMV กล่าวว่า งาน TWO WHEELS ASIA 2019 ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐและภาคเอกชน รวมถึง พันธมิตรจากประเทศไต้หวัน ได้แก่ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ, มูลนิธิสถาบันการเดินและการจักรยานไทย, สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย, บริษัท พีอีเอ เอ็นคอม จำกัด ภายใต้การดูแลของ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และ บริษัท อาแวนซ่า จำกัด พันธมิตรการจัดงานจากประเทศไต้หวัน นอกจากนี้ยังมีนิตยสาร ไบซิเคิล ยูไนเต็ด แม็กกาซีน เอเชีย และ นิตยสารไซคลิง มาเลเซีย ร่วมสนับสนุนการจัดงาน สำหรับวัตถุประสงค์การจัดงานครั้งนี้ บริษัทฯ มุ่งหวังในการยกระดับภาคการผลิต การส่งออกอุตสาหกรรมพาหนะสองล้อและพาหนะไฟฟ้าของไทยให้กลายเป็นศูนย์กลางของธุรกิจในภูมิภาคเอเชีย ทั้งมอเตอร์ไซค์, มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า, สกู๊ตเตอร์, สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า, จักรยาน,จักรยานไฟฟ้า รวมถึงอะไหล่ อุปกรณ์ตกแต่ง ตลอดจนบริการด้านการดูแลรักษา-ซ่อมแซม การจัดงานครั้งนี้ จึงถือเป็นความท้าทายในการสร้างโอกาสขยายธุรกิจให้แก่ผู้ประกอบการไทย และนักธุรกิจหน้าใหม่ที่สนใจลงทุนในธุรกิจนี้ โดยภายในงาน ประกอบไปด้วยส่วนสำคัญต่างๆ อาทิเช่น ส่วนงานแสดงสินค้า ซึ่งมีผู้เข้าร่วมแสดงงานจากประเทศไทย ไต้หวัน จีน สิงคโปร์ ร่วมกันกว่า 120 บูธ นอกจากนี้ยังมีพื้นที่จัดแสดงเทคโนโลยีด้านชิ้นส่วนอะไหล่ใหม่ล่าสุดสำหรับมอเตอร์ไซค์และจักรยานรวมถึงถึงพาหนะไฟฟ้าใน Innovation Pavilion และ Taiwan Products ร่วมกับ การสัมมนาด้านทิศทางพาหนะไฟฟ้าของประเทศ จาก สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย และ รูปแบบการพัฒนาประเทศสู่การเดินทางโดยใช้พาหนะสองล้อ โดยได้รับเกียรติร่วมการบรรยายจาก Mr. Marcio Deslandes ตำแหน่ง Velo-city Series and Global Policies Director ตัวแทนจาก European Cyclists' Federation นอกจากนี้ยังมีส่วนการนัดหมายเจรจาธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมทั้งไทยและต่างชาติซึ่งเหมาะกับสำหรับนักธุรกิจในอุตสาหกรรมรวมถึงผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่สนใจเป็นร่วมเป็นตัวแทนจัดจำหน่ายพาหนะสองล้อและพาหนะไฟฟ้า ซึ่งถือเป็นอุตสาหกรรมที่กำลังขยายตัวไปทั่วโลกในขณะนี้ นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ กล่าวว่า ประเทศไทยถือเป็นศูนย์กลางธุรกิจไมซ์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นศูนย์กลางเชื่อมต่อและการเข้าถึงตลาด ASEAN และ CLMV ซึ่งการสนับสนุนการจัดงาน TWO WHEELS ASIA 2019 เป็นไปตามแผนงานของทีเส็บในการสร้างรายได้จากกิจกรรมไมซ์ เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศสำหรับตลาดภูมิภาคเอเชีย ในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่และอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะที่เกี่ยวกับพาหนะสองล้อและพาหนะไฟฟ้า ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมเป้าหมายตามนโยบายรัฐบาล (S-curve) โดยคาดว่าจะมีนักธุรกิจในตลาดดังกล่าวกว่า 10,000 คน ซึ่งเป็นนักธุรกิจจากกลุ่มประเทศ CLMV/GMS กว่า 800 คน สามารถสร้างรายได้จากนักเดินทางเฉพาะกลุ่มไมซ์ต่างประเทศกว่า 30 ล้านบาท และกลุ่มไมซ์ในประเทศกว่า 32 ล้านบาท ด้าน Mr. Kelvin Chu ผู้อำนวยการ บริษัท อาแวนซ่า จำกัด ประเทศไต้หวัน มืออาชีพด้านการส่งเสริมการค้าและการจับคู่เจรจาธุรกิจ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญทั้งตลาดไต้หวันและต่างประเทศ มีประสบการณ์มากกว่า 20 ปี ในอุตสาหกรรมพาหนะสองล้อ นอกจากนี้ ยังเป็นผู้ให้บริการประชาสัมพันธ์ฐานรายชื่อผู้ซื้อ-ผู้ขาย บนอินเทอร์เน็ตในเวบไซด์ IMB2B กล่าวว่า ในครั้งนี้ บริษัท อินโฟเทรด จำกัด ได้รับการสนับสนุนจาก TAICHUNG IMPORTERS & EXPORTERS CHAMBER OF COMMERCE, CHANGHUA COUNTY INDUSTRIAL ASSOCIATION, TAINAN IMPORTERS & EXPORTERS CHAMBER OF COMMERCE และ TAIWAN EXTERNAL TRADE DEVELOPMENT COUNCIL หรือ TAITRA ในการนำผู้ประกอบการจากไต้หวัน จำนวนกว่า 70 บูธ ในกลุ่มจักรยานยนต์และจักรยานเข้าร่วมแสดงงานและร่วมเจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการไทยและผู้เข้าชมงานในกลุ่มประเทศ CLMV ในครั้งนี้ คุณฉันทกร เดวิชญ์จำศิลป์ ประธานคณะทำงานประชาสัมพันธ์และรณรงค์การใช้ยานยนต์ไฟฟ้า สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย หรือ EVAT กล่าวว่า ในปี 2018 อินเดีย จีน อินโดนีเซีย เวียดนาม และไทย เป็นผู้ผลิตรถมอเตอร์ไซค์อับดันต้นๆ โดยไทยมีจำนวนมอเตอร์ไซค์ที่จดทะเบียนภายในประเทศ 21 ล้านคัน แต่เป็นรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเพียง 1,110 คัน ทั้งที่อดีตมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเคยจดทะเบียนสูงสุดถึง 8,000 คัน ซึ่งสาเหตุที่ลดลง เนื่องจากมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่ออกสู่ตลาดยังไม่ตอบโจทย์ผู้บริโภค โดยเฉพาะเรื่องสมรรถนะ แรงบิดและราคา สมาคมจึงเร่งผลักดันและส่งเสริมให้เกิดการผลิต การจดทะเบียนนำมาใช้ให้แพร่หลายมากยิ่งขึ้น ซึ่งสมาคมได้เสนอแนวคิดให้ภาครัฐแก้กฎหมายข้อบังคับที่ล้าสมัย เพื่อเปิดช่องให้รถสามล้อไฟฟ้ารับจ้างและส่วนบุคคล หรือรถตุ๊กตุ๊กจดทะเบียนได้อย่างเสรีและถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งจะทำให้มีการใช้รถดังกล่าวแพร่หลาย อันจะเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว และลดต้นทุน นายทิตติ ตระกูลสินทอง ผู้จัดการหน่วยธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า บริษัท พีอีเอ เอ็นคอม จำกัด ภายใต้การดูแลของ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) กล่าวว่า พาหนะไฟฟ้าสามารถลดมลพิษและลดการนำเข้าพลังงานได้อย่างมหาศาล ที่ผ่านมา กฟภ.ทั้ง 74 จังหวัด ได้นำร่องใช้รถยนต์ไฟฟ้า 210 คัน ประหยัดค่าใช้จ่ายได้ 20-30% นอกจากนี้ ยังมีแนวคิดโมเดลธุรกิจให้เช่ารถยนต์ไฟฟ้าแบบระยะยาวสำหรับองค์กรภายนอกที่สนใจ ซึ่งที่ผ่านมาได้เปิดตลาดพาหนะไฟฟ้าหลายประเภท อาทิ รถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้า, รถตู้ไฟฟ้า, รถบัสไฟฟ้า และรถฟอมม์ และล่าสุดกำลังเดินหน้าขยายตลาดจึงมองหาผู้ประกอบการที่มีศักยภาพเพื่อร่วมเป็นพันธมิตรมากขึ้น ทั้งนี้ ในส่วนของรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้าขณะนี้มีวิ่งให้บริการเฉพาะในจังหวัดเชียงใหม่ เนื่องจากกฎหมายควบคุมการจดทะเบียนรถสามล้อรับจ้างและสามล้อส่วนบุคคล ทำให้ในจังหวัดอื่นๆยังไม่สามารถจดทะเบียนรถตุ๊กตุ๊กเพิ่มได้ ยกเว้นจังหวัดเชียงใหม่ที่อนุญาตให้จดทะเบียนรถตุ๊กตุ๊กเพิ่มแต่ต้องเป็นรถไฟฟ้าเท่านั้น แต่หากภาครัฐเข้ามาให้การสนับสนุนในเรื่องของข้อกฎหมายก็จะทำให้รถสามล้อรับจ้างทั่วประเทศเปลี่ยนมาใช้รถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้ามากขึ้น และเพื่อรองรับการเติบโตของผู้บริโภคที่จะหันมาใช้พาหนะไฟฟ้าในอนาคต กฟภ.ได้เตรียมแผนก่อสร้างสถานีบริการชาร์จแบตเตอรี่ไฟฟ้าบนถนนสายหลักทั่วประเทศ ซึ่งคาดว่าภายในปี 2564 จะสามารถเปิดนำร่องใช้งานได้ โดยระยะแรกจะเป็นการก่อสร้างในทุก 100 กิโลเมตร ภายในงานครั้งนี้ บริษัท พีอีเอ เอ็นคอม จำกัด จะนำระบบชาร์จแบตเตอรี่ไฟฟ้าซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของบริษัทมาร่วมจัดแสดง เพื่อให้ความรู้กับผู้เข้าชมงานทั่วไป ร่วมกับ รถไฟฟ้าฟอมม์ พร้อมโปรโมชั่นพิเศษมากมายภายในงาน นายจำรูญ ตั้งไพศาลกิจ ประธานมูลนิธิสถาบันการเดินและการจักรยานไทย กล่าวว่า ในยุคที่ต้องเผชิญมลพิษ PM 2.5 ทำให้สังคมเกิดความตื่นตัวในการใช้จักรยานเพื่อการเดินทางในระยะสั้น ซึ่งภายในงานได้จัดสัมมนาถ่ายทอดประสบการณ์จากผู้ใช้จักรยาน โดยเชิญผู้แทนจาก European Cyclists' Federation ร่วมสัมมนาและแบ่งปันประสบการณ์การใช้จักรยานในยุโรป เพื่อเป็นแนวทางให้ผู้เข้าร่วมงานจากหลายประเทศได้นำไปปรับใช้ นอกจากนี้ในวันที่ 24 พ.ค. จะมีการพาตัวแทนจากองค์กรต่างๆ นั่งรถไฟ และ ร่วมปั่นจักรยานที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์การใช้พาหนะสองล้อร่วมกันอีกด้วย ขณะที่ ดร.กตัญญู กลับสุวรรณ นายกสมาคมสมาร์ทซิตี้ไทยแลนด์ กล่าวว่า สมาคมจะนำนวัตกรรรมแพลตฟอร์มเรื่องระบบความปลอดภัยบนท้องถนน และการดูแลพฤติกรรมผู้ใช้รถใช้ถนนเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุมาโชว์ภายในงานเพื่อให้หน่วยงานหรือองค์กรต่างๆสามารถนำไปใช้เพื่อประโยชน์ต่อไปได้ นอกจากการแสดงนวัตกรรมภายในงานแล้ว ผู้เข้าชมงานยังมีโอกาสจับจองพาหนะสองล้อและพาหนะไฟฟ้าในราคาโปรโมชั่นพิเศษ จากธนาคารกรุงศรีฯ และผู้ประกอบการอย่าง Deco ที่ขน มอเตอร์ไซค์และและจักรยานไฟฟ้ารวม 5 รุ่น ดีไซน์ทันสมัย รูปทรงกระทัดรัดถอดแบตเตอรี่ชาร์จภายในบ้านได้ประหยัดพลังงาน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมาจำหน่าย รวมถึงแบรนด์TaninและRITที่นำจักรยานและมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าซึ่งผลิตโดยคนไทยคุณภาพเทียบเท่าแบรนด์ต่างประเทศ แต่ราคาถูกกว่า และ แบรนด์ Trinx รถจักรยานไฟฟ้านำเข้าจากจีน อีกทั้งอะไหล่ อุปกรณ์ และยางรถยนต์ราคาพิเศษ จากบริษัทฮั้วฟงรับเบอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน)พร้อมลุ้นรับรางวัลจักรยาน และมอเตอร์ไซค์ ตลอดการจัดงาน สำหรับผู้เข้าชมงานที่ไม่ต้องการขับรถมา ผู้จัดงานฯ ร่วมกับ แอพ GET แอพพลิเคชั่นที่ให้บริการเรียกรถ รับส่งพัสดุ ส่งอาหารและบริการออนดีมานด์อื่นๆ แจกโค้ดส่วนลดบริการมอเตอร์ไซค์รับจ้าง GET WIN สำหรับผู้เข้าร่วมงาน ในวันที่ 23-25 พ.ค. 62 ณ ไบเทค บางนา เพียงลงทะเบียน GET แอพพลิเคชั่น สามารถรับส่วนลดนั่งวินฟรี 50 บาทถึง 5 ครั้ง โดยไม่ต้องกรอกโค้ด โดยสามารถใช้ได้ภายในระยะเวลา 7 วันนับจากวันลงทะเบียน ส่วนผู้ใช้เดิม รับส่วนลดนั่งวินฟรี 35 บาท 2 ครั้ง เพียงใส่โค้ด GET2WHEELS โดยสามารถใช้ภายในวันใดก็ได้ของการเข้าร่วมงาน งาน "TWO WHEELS ASIA 2019" จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 23-25 พ.ค. 2562 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา กรุงเทพฯ สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บริษัท โกลบอล เอ็กซิบิชั่น แอนด์ คอนเวนชั่น เซอร์วิส จำกัด โทร. 02-0263583

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ