เดอะ แพลทินัม กรุ๊ป เผยผลงานไตรมาส 1 ปี 62 รายได้ 604 ล้านบาท กำไร 201 ล้านบาท

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday May 17, 2019 15:02 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--17 พ.ค.--IR PLUS โครงการเดอะมาร์เก็ต เฟส 2 จะเริ่มก่อสร้างในช่วงไตรมาส 4/62 คาดเปิดให้บริการครบทุกส่วน ภายในไตรมาส4/64 ซึ่งจะทำให้ปี 65 คาดว่ารายได้จะแตะระดับ 5,000 ล้านบาท นายอธิพงศ์ อมาตยกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เดอะ แพลทินัม กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ PLAT ผู้ประกอบธุรกิจพัฒนาศูนย์การค้าส่งและค้าปลีกเพื่อการพาณิชย์ และธุรกิจโรงแรม เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/2562 มีรายได้ที่ขยายตัวตามแผน สะท้อนการวางกลยุทธ์ทางธุรกิจที่มีประสิทธิภาพ โดยมีรายได้รวม 604 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันปีก่อนนี้ที่มีรายได้อยู่ที่ 531 ล้านบาท ทั้งนี้ มาจากธุรกิจหลักคือ ธุรกิจให้เช่าและบริการ และธุรกิจโรงแรม ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ งวดไตรมาส 1 ปี 2562 ( สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2562) โดยเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันปี 2561 มีรายละเอียด ดังนี้ - รายได้รวม 604 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 73 ล้านบาท หรือ 14% - กำไรขั้นต้นจากธุรกิจหลักรวม 330 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7 ล้านบาท หรือ 2% - กำไรสุทธิรวม 201 ล้านบาท ลดลง 2 ล้านบาท หรือ 1% ปัจจัยที่สนับสนุนการเติบโตของรายได้ที่เพิ่มขึ้นในงวดไตรมาส 1 ปี 2562 ประกอบด้วยรายละเอียด ดังนี้ - รายได้จากการให้เช่าและบริการ เพิ่มขึ้นจำนวน 73 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 14% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการเปิดโครงการใหม่คือ โครงการ เดอะ มาร์เก็ต แบงคอก รวมถึงการขยายต่อเนื่องของโครงการ เดอะ นีออน ไนท์ บาร์ซาร์ เฟส 2 ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังสามารถเพิ่มรายได้จากการบริหารจัดการพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ เดอะ แพลทินัม แฟชั่น มอลล์ ให้สูงขึ้นจาก การจัดกิจกรรม (Event) และส่วนงานสนับสนุนทางการตลาด (Marketing Sponsorship) ส่งผลให้รายได้ส่วนนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 7 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 16 เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน นอกจากนี้บริษัทฯ ได้ขยายช่วงเวลาการเปิดให้บริการของโครงการ เดอะ นีออน ไนท์ บาซาร์ ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2560 จากเดิมที่เปิดให้บริการเพียง 5 วัน เป็นเปิดให้บริการทุกวัน จึงมีการปรับเพิ่มราคาค่าเช่าพื้นที่ดังกล่าว และเปิดให้บริการทุกวัน ตลอดจนเดือนมีนาคม 2562 บริษัทฯ ได้มีการขยายพื้นที่และเพิ่มจำนวนร้านค้าเพื่อเปิดให้บริการโครงการ เดอะ นีออน ไนท์ บาซาร์ เฟส 2 ส่งผลให้บริษัทฯ มีรายได้ จากการให้เช่าและบริการเพิ่มมากขึ้น - รายได้จากการประกอบกิจการโรงแรม อยู่ที่ 111 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 1 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 1% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันปีก่อน ซึ่งมาจากรายได้การขายอาหารและเครื่องดื่มที่เพิ่มขึ้นจำนวน 2 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้นร้อยละ 8 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากบริษัทฯได้มีการเปลี่ยนแปลงรายการอาหารและเครื่องดื่มให้มีความหลากหลายทั้งบุฟเฟ่ต์และแพ็คเกจอาหารและเครื่องดื่มสำหรับกลุ่มลูกค้าที่มาประชุมสัมมนา จึงส่งผลให้บริษัทฯมีรายได้จากการขายอาหารและเครื่องดื่มเพิ่มสูงขึ้น ในขณะเดียวกันบริษัทฯ มีรายได้ค่าห้องพักลดลงจำนวน 1 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 1 เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากบริษัทฯมีอัตราค่าเช่าห้องพักเฉลี่ยสำหรับไตรมาสที่ 1 ของปี 2562 เท่ากับ 3,472 บาท/ห้อง/คืน ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนซึ่งเท่ากับ 3,523 บาท/ห้อง/คืน อย่างไรก็ตามบริษัทฯยังคงมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยอยู่ที่อัตราร้อยละ 95 (ไตรมาสที่ 1 ของปี 2561 อัตราร้อยละ 94) นายอธิพงศ์ กล่าวเพิ่มเติมถึงความคืบหน้าโครงการต่างๆ ของบริษัทฯ ว่าได้เปิดตัว ศูนย์การค้า เดอะ มาร์เก็ต แบงคอก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการมิกซ์ยูสในโปรเจค เดอะ มาร์เก็ต แบงคอก ที่ตั้งอยู่ ใจกลางย่านราชประสงค์ บนถนนราชดำริ ด้วยพื้นที่ 21 ไร่ มูลค่าโครงการรวม 9,000 ล้านบาท ประกอบด้วย ศูนย์การค้า เดอะ มาร์เก็ต แบงคอก / โรงแรม 2 อาคาร บริหาร โดย แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล ได้แก่ ม็อกซี่ โฮเทล แบงคอก ราชประสงค์ / โรงแรม แฟร์ฟิลด์ บาย แมริออท แบงคอก ราชประสงค์ / และอาคารสำนักงาน เดอะ แพลทินัม ทาวเวอร์ สำหรับศูนย์การค้า เดอะ มาร์เก็ต แบงคอก เฟสแรก ซึ่งเปิดให้บริการเมื่อวันที่ 14 ก.พ.2562 ที่ผ่านมา "ขณะที่โครงการเดอะมาร์เก็ต เฟส 2 จะเริ่มก่อสร้างในช่วงไตรมาส 4/62 ทั้งหมดที่เราทำอยู่ ไม่ว่าจะเป็นศูนย์การค้า เดอะมาร์เก็ต แบงคอก โรงแรมม็อกซี่ โฮเทล แบงคอก ราชประสงค์ โรงแรมแฟร์ฟิลด์ บาย แมริออท แบงคอก ราชประสงค์ และอาคารสำนักงาน เดอะ แพลทินัม ทาวเวอร์ คาดจะเปิดให้บริการครบทุกส่วนภายในไตรมาส4/64 ซึ่งจะทำให้ปี 65 คาดว่ารายได้จะแตะระดับ 5,000 ล้านบาทได้ ด้านธุรกิจโรงแรมในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมาของปี 2562 มีอัตราการเข้าพักมากกว่า 90% จากภาพรวมทั้งปี 61 อยู่ที่ 91% ในปีนี้คาดว่าจะมากกว่าปีก่อน แต่อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามสถานการณ์ ในครึ่งปีหลัง เพราะยังมีปัจจัยที่ต้องติดตามต่อเนื่องจากสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจและรวมถึงรัฐบาลชุดใหม่ ว่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างไรออกมาหรือไม่" นายอธิพงศ์ กล่าวสรุป

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ