กรุงเทพฯ--21 พ.ค.--โทเทิล ควอลิตี้ พีอาร์
มหาวิทยาลัยเซนต์จอร์จและมหาวิทยาลัยนอร์ทัมเบรียประกาศเดินหน้าพัฒนาโปรแกรมแพทย์ ที่จะเปิดโอกาสให้นักเรียนได้เข้ามาศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยเป็นระยะเวลามากสุดถึง 2 ปี โดยการศึกษาดังกล่าวเป็นการศึกษาระดับพรีคลีนิคและการแพทย์และจะทำการเรียนการสอนในประเทศอังกฤษ
"มหาวิทยาลัยเซนต์จอร์จมีนักศึกษาและคณาจารย์จากกว่า 140 ประเทศทั่วโลก" กล่าวโดย ดร. จี ริชาร์ด โอลด์ส ประธานมหาวิทยาลัยเซนต์จอร์จ "สำหรับนักศึกษาหลายคนของเรา ประเทศอังกฤษนับได้ว่าเป็นประเทศที่สะดวกสบายและเหมาะสำหรับที่จะมาศึกษา ความร่วมมือครั้งนี้กับทอร์ทัมเบรียจะเอื้อในเรื่องของเวลาการศึกษามากยิ่งขึ้น และยังแน่ใจได้ว่าบรรดานักศึกษาจะได้รับการศึกษาชั้นเยี่ยมเปรียบเสมือนได้รับการศึกษาจากเกรนาดา"
ภายใต้ข้อตกลงการขยายขอบเขตด้านการศึกษา นักศึกษาของมหาวิทยาลัยเซนต์จอร์จ มหาวิทยาลัยการแพทย์นานาชาติ และนักศึกษาแพทย์ของมหาวิทยาลัยนอร์ทัมเบรียหลักสูตร 5 ปี กว่า 33,000 คนที่ศึกษาอยู่วิทยาเขตนอร์ทัมเบรียและอยู่ในประเทศอังกฤษ จะสามารถยืดระยะเวลาการศึกษาออกไปได้มากสุดถึง 2 ปี การศึกษาจะพัฒนารากฐานของหลักการทางด้านเวชศาสตร์คลีนิก โดยจะเรียนตามหลักสูตรกับวิทยาเขตเซนต์จอร์จในเกรนาดา ไม่ว่าจะเป็นพรีคลินิคศึกษาและหลักการทางการแพทย์ขั้นพื้นฐาน นักศึกษายังจะได้ประกาศนียบัตรเพื่อรับรองการศึกษาขั้นสูงในสาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์ที่มหาวิทยาลัยนอร์ทัมเบรียอีกด้วย
ก่อนที่จะทำการหมุนเวียนศึกษาฝึกปฏิบัติงานในสาขาต่าง ๆ ต่ออีกไป 2 ปี นักศึกษาแพทย์ต้องสำเร็จการศึกษาหลักสูตร 1 ปี ในสาขาหลักการเวชศาสตร์คลีนิกในเกรนาดาก่อน และสลับหมุนเวียนที่เรียนโดยใช้เวลามากสุดถึง 6 เดือนในประเทศอังกฤษ และที่เหลือในสหรัฐอเมริกาหรือแคนาดา
โปรแกรมร่วมทุนของมหาวิทยาลัยเซนต์จอร์จและมหาวิทยาลัยนอร์ทัมเบรียก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2550 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อปูเส้นทางการศึกษาให้กับนักศึกษาผู้ทรงคุณวุฒิจากทั่วทุกมุมโลกได้ศึกษาทางด้านการแพทย์แผนปัจจุบันในมาตรฐานระดับสากล นักศึกษากว่า 1,700 คน เริ่มต้นฝึกฝนการเป็นแพทย์กับมหาวิทยาลัยเซนต์จอร์จที่วิทยาเขตนอร์ทัมเบรีย
ผู้สำเร็จการศึกษาจากโปรแกรมของเราจะได้รับสิทธิ์ในการสมัครเพื่อเข้าร่วมโปรแกรมการเข้าถึงการฝึกอบรมการแพทย์เฉพาะทาง (Widening Access to Specialty Training หรือ WAST) ซึ่งเป็นโครงการริเริ่มโดยองค์กรสุขศึกษาแห่งสหราชอาณาจักร (Health Education England หรือ HEE) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของบริการสาธารณสุขแห่งชาติ (National Health Service หรือ NHS) และยังปูทางไปยังการลงทะเบียนเรียนในอังกฤษผ่านทางเทรนนิ่งของบันฑิตวิทยาลัยหลังจากจบการฝึกงาน การเทรนนิ่งของบันฑิตวิทยาลัยได้รับการยอมรับในอังกฤษ สหภาพยุโรป และประเทศต่างๆ
"เรามุ่งมั่นที่จะผลักดันให้ผู้สำเร็จการศึกษาของเราทุกคนเดินทางไปถึงเป้าหมายและได้ทำงานในสถาบันที่พวกเขาวางไว้มากที่สุด" กล่าวโดยโอลด์ส "นักศึกษาของเราที่สำเร็จการศึกษาไปนั้นมีความสามารถและครบครัน ซึ่งพร้อมรองรับปัญหาการขาดแคลนบุคคลากรทางการแพทย์ในอังกฤษและทั่วโลกได้"
"ทางเรามีความตื่นเต้นยินดีที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ของเรากับมหาวิทยาลัยนอร์ทัมเบรียและบริการสาธารณสุขแห่งชาติ (National Health Service หรือ NHS)" ดร. เจมส์ โคอี้ ผู้ช่วยคณบดีวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐานที่มหาวิทยาลัยเซนต์จอร์จและผู้นำทางการศึกษาที่นิวคาสเซิล กล่าวและเสริมว่า "ความสัมพันธ์ระหว่างมหาวิทยาลัยเซนต์จอร์จและมหาวิทยาลัยนอร์ทัมเบรียช่วยให้นักศึกษาของเราได้รับประสบการณ์จากระบบสุขภาพในเกรนาดา อังกฤษ สหรัฐ อเมริกา และอีกหลายสถาบัน ผมจึงมั่นใจว่าผู้สำเร็จการศึกษาของเราจะไม่เพียงแต่เด่นอย่างไร้ผู้เทียบเท่าเมื่อพวกเขาได้รับการสัมภาษณ์สำหรับตำแหน่งในแต่ละที่ แต่ยังจะพัฒนาเป็นแพทย์ที่ดีเลิศที่มีมุมมองในระดับสากลอีกด้วย"
"ความสัมพันธ์ระหว่างมหาวิทยาลัยเซนต์จอร์จกับมหาวิทยาลัยของเรานั้นมีมาอย่างยาวนาน และการที่จะได้ร่วมงานกับทางมหาวิทยาลัยด้วยการมอบโปรแกรมร่วมทุนทางการแพทย์ที่ได้รับการปรับปรุงเพื่อจะมีส่วนร่วมในการให้การศึกษานายแพทย์ชั้นนำในอนาคต ยิ่งทำให้เราตื่นเต้นเป็นอย่างมาก" กล่าวโดย ศาสตราจารย์ปีเตอร์ ฟรานซิส รองประธานแห่งมหาวิทยาลัยนอร์ทัมเบรีย"
"นับว่าเป็นโอกาสที่ยอดเยี่ยมของพวกเราทุกคนที่จะได้ต้อนรับนักศึกษาเพิ่มมากขึ้นจากทั่วทุกมุมโลกมาที่นิวคาสเซิล การที่นักศึกษามีระยะเวลาการเรียนกับเรายาวนานขึ้น จะทำให้พวกเขาได้รับประโยชน์จากบุคคลากรทางการศึกษาระดับโลก รวมถึงวิธีการเรียนการสอนที่ที่เน้นข้อมูลการวิจัย รวมไปถึงสิ่งอำนวยความสะดวกชั้นเลิศ และยังได้รับประสบการณ์ชีวิตอันน่าตื่นตาตื่นใจที่เมืองนิวคาสเซิลอีกด้วย"