ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจะปิดให้บริการ ลานจอดรถโซน 1 เริ่ม 17 มิถุนายน นี้

ข่าวทั่วไป Monday June 10, 2019 11:18 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--10 มิ.ย.--ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) จะปิดให้บริการลานจอดรถโซน 1 ตั้งแต่วันที่ 17 มิถุนายน 2562 เวลา 08.00 น. เพื่อดำเนินการก่อสร้างอาคารสำนักงานสายการบินและที่จอดรถด้านทิศตะวันออก (เริ่มก่อสร้างวันที่ 24 มิถุนายน 2562) โดยการก่อสร้างอาคารสำนักงานสายการบินจะใช้ระยะเวลา 18 เดือน และการสร้างที่จอดรถจะใช้ระยะเวลา 12 เดือน นายอนันต์ หวังชิงชัย รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (สายบำรุงรักษา) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) เปิดเผยว่า ทสภ. จะปิดให้บริการที่จอดรถด้านตะวันออก (ลานจอดรถโซน 1) ตั้งแต่วันที่ 17 มิถุนายน 2562 เวลา 08.00 น. เพื่อดำเนินการก่อสร้างอาคารสำนักงานสายการบินและที่จอดรถด้านทิศตะวันออก ตามแผนโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิระยะที่ 2 ซึ่งอาคารสำนักงานสายการบิน จะแล้วเสร็จในเดือนธันวาคม 2563 และที่จอดรถจะแล้วเสร็จในเดือนมิถุนายน 2563 โดยก่อนปิดให้บริการ ทสภ. จะยังคงเปิดให้บริการช่องทางขาออกเพื่อระบายรถที่จอดค้างจนถึงวันที่ 24 มิถุนายน 2562 เวลา 08.00 น. ในระหว่างที่ ทสภ. มีการปิดพื้นที่เพื่อก่อสร้างดังกล่าว ผู้ใช้บริการสามารถใช้บริการอาคารและลานจอดรถยนต์ 2, 3 และ 4 ซึ่งอยู่ด้านหน้าอาคารผู้โดยสารได้ตามปกติ ซึ่งจะสามารถรองรับรถยนต์ได้ ประมาณ 4,857 คัน นอกจากนี้ยังมีพื้นที่จอดรถยนต์โซนอื่นๆ ที่อยู่โดยรอบ ได้แก่ ลานจอดรถยนต์ 5 บริเวณด้านข้างโรงแรมโนโวเทล รองรับได้ประมาณ 455 คัน และลานจอดรถ 6 และ 7 บริเวณด้านหน้าฝั่งตรงข้ามโรงแรมโนโวเทลสุวรรณภูมิสามารถรองรับรถยนต์ได้ประมาณ 782 คัน และลานจอดรถยนต์ระยะยาว (Long Term Parking) บริเวณโซน A และ C ที่อยู่ใกล้กับศูนย์การขนส่งสาธารณะ (Bus Terminal) สามารถจอดรถได้ประมาณ 1,341 คัน ทั้งนี้ ยังได้จัดให้มีรถ Shuttle bus วิ่งให้บริการรับ – ส่ง ผู้โดยสารระหว่างลานจอดรถยนต์ ไปอาคารผู้โดยสารตลอด 24 ชั่วโมง ทสภ. ขออภัยในความไม่สะดวก หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ AOT Contact Center หมายเลข 1722 ตลอด 24 ชั่วโมง อนึ่ง เมื่อโครงการก่อสร้างอาคารสำนักงานสายการบินและที่จอดรถด้านทิศตะวันออกแล้วเสร็จจะเป็นอาคารสูง 5 ชั้น พื้นที่ใช้สอยรวมทั้งหมด 35,190 ตร.ม. และพื้นที่จอดรถสามารถจอดรถได้ จำนวน 1,011 คัน ซึ่งจะทำให้สามารถรองรับรถยนต์ได้เพิ่มขึ้นจากเดิมจำนวนอีก 484 คัน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ