อัคคีปราการเซ็นสัญญาบริหารเตาเผาขยะบางปู คาดหนุนรายได้ BWG ปีนี้โต 20-30% จากปีก่อน

ข่าวทั่วไป Monday February 11, 2008 11:01 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--11 ก.พ.--เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน
กรมโรงงานอุตสาหกรรมได้ฤกษ์เซ็นสัญญากับ อัคคีปราการ ให้บริหารโครงการเตาเผาขยะอุตสาหกรรมบางปู เตาเผาอุณหภูมิสูงแห่งเดียวในประเทศไทย เป็นระยะเวลา 20 ปี ตามมติ ครม.แล้ว "สุวัฒน์ เหลืองวิริยะ" คาดเริ่มเดินเครื่องกำจัดขยะได้ภายในไตรมาสที่ 3/51 เป็นต้นไปประเดิมปีแรก 1 หมื่นตัน สร้างรายได้ประมาณ 100-150 ลบ. จากความสามารถในการเผาขยะปีละเกือบ 2 หมื่นตัน ตั้งเป้าปีแรกมุ่งเจาะลูกค้ากลุ่มอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ โรงพยาบาล ในเขต กทม.และปริมณฑล มั่นใจปีแรกหนุนรายได้ BWG โต 20-30%
นายสุวัฒน์ เหลืองวิริยะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน จำกัด (มหาชน) หรือ BWG เปิดเผยถึงการเข้าดำเนินการบริหารและประกอบการ โครงการศูนย์บริหารจัดการวัสดุเหลือใช้อุตสาหกรรม (เตาเผาขยะอุตสาหกรรม) บางปู จังหวัดสมุทรปราการ หลังจากที่ บริษัท อัคคีปราการ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ BWG ถือหุ้น คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 93.99 ได้ลงนามกับ กรมโรงงานอุตสาหกรรม เพื่อเข้าใช้สิทธิดำเนินการบริหารและประกอบการในโครงการดังกล่าวตามมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2551 ว่า โครงการเตาเผาขยะอุตสาหกรรมบางปู เป็นเตาเผาขยะอันตรายที่เป็นเตาเผาอุณหภูมิสูงแห่งเดียวในประเทศไทย มีมูลค่าโครงการสูงถึง 1,486 ล้านบาท อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของภาครัฐ โดยกรมโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งการเซ็นสัญญาครั้งนี้ บริษัท อัคคีปราการ จะได้รับสิทธิในการบริหารและประกอบการเป็นระยะเวลา 20 ปี นับตั้งแต่วันลงนามในสัญญา และมีสิทธิยื่นคำร้องขอต่อสัญญาได้อีก โดยบริษัทจะเริ่มให้บริการกำจัดของเสียได้ภายในเวลา 6 เดือนนับจากนี้
"คาดว่าทาง อัคคีปราการ จะเริ่มให้บริการกำจัดขยะพิษได้ตั้งแต่ไตรมาสที่ 3/2551 เป็นต้นไป ซึ่งถือว่าเป็นไปตามสัญญาที่ระบุว่าจะต้องเริ่มดำเนินการภายใน 6 เดือนนับตั้งแต่วันที่เซ็นสัญญากับกรมโรงงาน โดยลูกค้ากลุ่มเป้าหมายจะเป็นกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมทั่วประเทศที่มีของเสียอันตราย โดยเฉพาะโรงงานอุตสาหกรรมในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี อุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ และโรงพยาบาล ซึ่งในเบื้องต้นจะเน้นลูกค้าในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลก่อน หลังจากนั้นจึงจะขยายพื้นที่บริการให้กว้างขวางขึ้น"
นายสุวัฒน์กล่าวอีกว่า เนื่องจากระยะที่เริ่มให้บริการจำกัดขยะเป็นช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี ดังนั้น จึงคาดว่าในปี 2551 จะสามารถกำจัดขยะได้ประมาณ 1,000 ตันจากความสามารถในการเผาทำลายวันละ 48 ตัน หรือปีละกว่า 17,000 ตัน และสามารถเพิ่มความสามารถในการเผาทำลายเพิ่มได้อีก 30-50% ในขณะเดียวกันขี้เถ้าที่เกิดจากการเผาขยะในเตาเผาดังกล่าว ก็จะจัดส่งให้ BWG รับไปดำเนินการกำจัดตามกระบวนการที่ถูกต้องต่อไป ซึ่งถือเป็นกระบวนการจัดการกำจัดขยะแบบครบวงจร โดยไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม เพราะของเสียทุกส่วนจากทุกขั้นตอนได้ถูกนำไปกำจัดอย่างถูกวิธี ในขณะที่เตาเผาขยะบางปู ได้รับการรับรองและยืนยันจากกรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าของโครงการว่ามีระบบควบคุมที่รัดกุมและและปลอดภัยต่อสภาพสิ่งแวดล้อม มีระบบฟอกอากาศที่ทันสมัยภายในระบบการทำงานของเตา ก่อนจะปล่อยอากาศออกสู่ภายนอก จึงถือเป็นธุรกิจที่เกิดขึ้นเพื่อดูแลสิ่งแวดล้อมและชุมชนอย่างแท้จริง
เขากล่าวอีกว่า คาดว่าในปีแรกของการบริหารเตาเผาขยะบางปู จะสร้างรายได้ประมาณ 100-150 ล้าน เนื่องจากเพิ่งเริ่มดำเนินการในไตรมาสที่ 3 ของปี ซึ่งจะหนุนให้รายได้ของ BWG เติบโตเพิ่มขึ้นจากปี 2550 ประมาณ 20-30% อย่างไรก็ตาม คาดว่าปีต่อไปรายได้จะเติบโตได้อย่างโดดเด่น เนื่องจากเตาเผาขยะบางปูสามารถให้บริการได้เต็มกำลังในขณะที่ธุรกิจให้บริการจำกัดกากอุตสาหกรรมอย่างครบวงจรของ BWG ก็เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ตามนโยบายของรัฐบาลที่หันมาออกกฎระเบียบให้โรงงานอุตสาหกรรมทั่วประเทศต้องกำจัดกากอุตสาหกรรมตามกระบวนการที่ถูกต้อง ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบธุรกิจกำจัดกากอุตสาหกรรมอย่างชัดเจน
นอกจากนั้น ในอนาคตภาครัฐ โดยกรมโรงงานอุตสาหกรรม จะพิจารณาให้การสนับสนุนด้านนโยบาย ภายใต้ความเห็นชอบของกระทรวงอุตสาหกรรมเกี่ยวกับการออกกฎระเบียบการบริหารจัดการขยะอุตสาหกรรม สำหรับการนำมากำจัดในเตาเผาของโครงการนี้ และพิจารณาสนับสนุนให้มีการสร้างผลผลิตที่ต่อเนื่องกัน เช่น การนำพลังงานความร้อนจากการเผาขยะไปใช้ผลิตกระแสไฟฟ้า และผลประโยชน์อื่นๆ ซึ่งจะสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับโครงการนี้ได้ในอนาคต
"การได้เข้าบริหารเตาเผาขยะบางปูทำให้ BWG เป็นผู้ประกอบการรายเดียวในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่บริหารจัดการขยะอุตสาหกรรมได้อย่างครบวงจร ทั้งการฝังกลบ การรีไซเคิล การนำกลับมาใช้ประโยชน์ในรูปของพลังงานทดแทนและวัตถุดิบทดแทน และมีเทคโนโลยีการกำจัดขยะขั้นสุดท้ายที่เหมาะสม และปลอดภัยสูงสุดต่อสิ่งแวดล้อม และเรามั่นใจว่าด้วยการบริการที่ครบวงจรจะสามารถตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้อย่างเพียงพอ จึงเชื่อมั่นว่าสิ่งเหล่านี้จะสามารถสร้างศักยภาพให้ BWG โดดเด่นเหนือคู่แข่งและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล" นายสุวัฒน์กล่าวในที่สุด
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2551 คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้ความเห็นชอบให้กลุ่มผู้ร่วมค้าบีวายเอสซีเข้าดําเนินการบริหารและประกอบการโครงการศูนย์บริหารและจัดการวัสดุเหลือใช้อุตสาหกรรม (เตาเผาขยะอุตสาหกรรม) บางปู จังหวัดสมุทรปราการ โดยกลุ่มผู้ร่วมค้า บี วาย เอส ซี ได้จัดตั้งเป็นนิติบุคคลใหม่ ใช้ชื่อว่า บริษัท อัคคีปราการ จำกัด มีทุนจดทะเบียน 110 ล้านบาท โดยบริษัท เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน จำกัด (มหาชน) (BWG ) ถือหุ้นจำนวน 10,339,300 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 93.99 บริษัท ยามาเซ็น โฮลดิ้งส์ จำกัด ถือหุ้นจำนวน 550,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 5 บริษัท ซียูบี จำกัด ถือหุ้นจำนวน 110,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 1 และบุคคลอื่น ถือหุ้นจำนวน 700 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 0.01
สอบถามรายเอียดเพิ่มเติมได้ที่:
จุฬารัตน์ เจริญภักดี (ฟ้า) 02-5549395 , 089-4888337

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ