ทายาท'เนสกาแฟ’เดินหน้าโครงการคอนโดฯ เร่งสร้าง’เดอะเนสท์ สุขุมวิท71’รับยอดขายกว่า70%

ข่าวอสังหา Wednesday July 10, 2019 13:30 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--10 ก.ค.--เดอะเนสท์ พร็อพเพอร์ตี้ " เดอะเนสท์ สุขุมวิท71 " ฉลุยยอดขายกระฉูด พร้อมคิกออฟก่อสร้างตามแผน บิ๊กทายาทเนสกาแฟ "อุษณา มหากิจศิริ " โชว์ฟอร์มเทพรันโปรเจกต์สำเร็จทุกโครงการ ด้าน " แคปปิตอล วัน " เอเจนท์อันดับต้นเมืองไทย ชี้ทำเลพระโขนงมาแรงราคาโดน อัตราผลตอบแทนดี มั่นใจปิดโครงการไตรมาส 3 นี้ นางสาว อุษณา มหากิจศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดอะเนสท์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า "อุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ของไทย ในกลุ่มลูกค้าในประเทศมีการชะลอตัวทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ทั้งการเลือกตั้งที่เพิ่งเกิดขึ้นในปีนี้ รวมถึงภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างฉบับที่คาดว่าจะประกาศใช้ในปี 2563 ยังคงอยู่ขั้นตอนการวางแผนและยังไม่เสร็จสิ้น ทั้งมาตรการควบคุมสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ( LTV ) ที่เข้มงวดมากขึ้น การกำหนดวงเงินดาวน์สูงขึ้น ทำให้ตลาดที่พักอาศัยชะลอตัวลง ขณะที่ ความต้องการจากนักเก็งกำไรและนักลงทุน ที่ซื้อเพื่อปล่อยเช่าจะลดลงจากความต้องการภายในประเทศที่ลดลง ส่งผลให้ผู้พัฒนาโครงการหันไปโฟกัสที่ผู้ซื้อต่างชาติที่ใช้เงินทุนของตนเองในการซื้อคอนโดมิเนียม "เทรนด์ที่อยู่อาศัยในอนาคตกำลังเดินเข้าสู่ภาวะการ "ปรับเปลี่ยน" ด้วยปัจจัยหลากหลาย ทั้งการเข้ามาลงทุนของต่างชาติ และเทคโนโลยีที่มีบทบาทในการพัฒนาโครงการเพิ่มมากขึ้น เพื่อรองรับทั้งกลุ่มลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติ" โดยบริษัทฯมีความเชื่อมั่น สภาพตลาดที่อยู่อาศัยบนทำเลศักยภาพ ที่แนวโน้มมูลค่าที่ดินเพิ่มสูงขึ้นตลอดเวลานั้น ยังคงมีดีมานด์ที่ต่อเนื่อง จากที่มุ่งมั่นพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ประเภทคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ เดอะเนสท์ ที่ประสบความสำเร็จ จากโครงการเดอะเนสท์เพลินจิต และ เดอะเนสท์ สุขุมวิท 22 มูลค่ารวมกว่า 2,000 ล้านบาท ดังนั้นจากประสบการณ์ที่ผ่านมาบริษัทฯ มั่นใจว่าโครงการ เดอะเนสท์ สุขุมวิท 71 นี้ บริษัททุ่มทุนกว่า 2,000 ล้านบาท จะตอบรับความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงใจ ทั้งนี้ โครงการ เดอะเนสต์ สุขุมวิท71 ได้ผลตอบรับเป็นอย่างดีทั้งลูกค้าชาวไทยและต่างชาติ เนื่องจากราคาขายค่อนข้างต่ำ เฉลี่ยแสนต้นๆ ทำให้ยอดขายได้ 70%แล้ว ส่วนการก่อสร้างตนเองได้เร่งเพื่อให้เสร็จตามแผนที่วาง โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณปลายปี 2563 นายวิทย์ กุลธนวิภาส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) บริษัท แคปปิตอลวัน เรียลเอสเตท จำกัด ( CAPITAL ONE Real Estate ) บริษัทตัวแทนด้านอสังหาริมทรัพย์และที่ปรึกษาด้านการบริการตลาดด้านอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย มีพอร์ตกว่า 30,000 ล้านบาท เปิดเผยว่า เมื่อราคาคอนโดมิเนียมโซนทองหล่อ– เอกมัย ราคาต่อตารางเมตร(ตร.ม.) สูงกว่า 200,000 บาทต่อตร.ม. แทบจะเป็นเรื่องปกติแล้ว ซึ่งเกิน 'กำลังซื้อ' ของคนทำงานส่วนใหญ่สุดท้ายต้องหาทำเล (Location ) รองลงมา จะเป็นส่วนต่อขยายหรือชานเมืองตามงบประมาณของแต่ละคน ทำให้โครงการเดอะเนสท์สุขุมวิท 71 เป็นโครงการที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงกลุ่ม ทั้งมีจุดเด่นที่อยู่ใกล้ทางด่วนถึง 2 สาย ทั้งทางด่วนฉลองรัช (รามอินทราอาจณรงค์) ใกล้เพียง 500 เมตรทางด่วนเฉลิมมหานคร (สีน้ำเงิน) 2.7 ก.ม. สามารถเชื่อมทุกการเดินทางไม่ว่าจะเดินทางไปพัฒนาการ, พระราม9, ประชาอุทิศ– เหม่งจ๋าย– ทาวน์อินทาวน์, ลาดพร้าวพระราม 3, ดาวคะนอง, พระราม 4 สะดวกทุกเส้นทางหรือการเดินทางโดยไม่ใช้รถยนต์ส่วนตัวโครงการจะมีรถ Shuttle Bus รับส่งไปที่ BTS พระโขนงการออกแบบ Mood&Tone ของอาคารจะเป็นสีขาว White Tone ดูสบายตารูปทรงตัวอาคารที่เราจะเห็นว่ามีการบิดส่วนของผนังให้มีองศาเอียงหน่อยซึ่งในส่วนนี้จะอยู่ในห้องนอนทั้งหมดเพื่อได้เอฟเฟคเป็นBay Window เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวจากมุมมองภายนอกและช่วยให้มุมมองจากภายในบิดองศาในการมองวิวที่ดูโดดเด่นเพิ่มมากขึ้น โครงการ เดอะเนสต์ สุขุมวิท 71 คอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ ( Low Rise) ความสูง 8 ชั้น มี 5 อาคาร จำนวน515 ยูนิต พื้นที่จอดรถรวมจอดซ้อนคันประมาณ 50 % มาพร้อมพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่พื้นที่สีเขียวในโครงการนี้นับรวมกันประมาณ 1 ไร่มี Wooden Nest Lounge, ClubHouse ติดกับห้องออกกำลังกาย, ลานโยคะ , สระว่ายน้ำระดับฮาล์ฟโอลิมปิค , สวนหย่อมรอบโครงการ , Lounge/ห้องสมุด , พื้นที่ซักรีดและยังได้ Wi Fi ในพื้นที่ส่วนกลางภายในห้องพักให้เฟอร์นิเจอร์Fully Furnished ทั้งเฟอร์นิเจอร์ Built-In และเฟอร์ฯลอยตัวให้ชุดครัวเตาไฟฟ้า– เครื่องดูดควัน รวมถึงเครื่องปรับอากาศทั้งภายในห้องนอนและห้องนั่งเล่นครบครันทั้งพื้นที่ส่วนกลางและภายในห้องพัก ผนวกกับศักยภาพทำเลที่ยังสามารถไปต่อได้บนราคาที่เหมาะสม ทำให้อัตราผลตอบแทน( Yeild ) ที่ได้รับคุ้มค่ากับการลงทุน โซนพระโขนงเป็นทำเลทองที่น่าจับตามองและมีอนาคต จึงทำให้ลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ที่ผ่านมาสามารถทำยอดขายได้มากกว่า 70% เชื่อว่าโครงการนี้จะสามารถปิดโครงการ Sold out ได้ภายในไตรมาส 3 ปีนี้.

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ