กระทรวงอุตสาหกรรม โชว์ผลสำเร็จ 151 โรงงานนำร่อง ดัน SMEs ไทยสู่ตลาดโลก

ข่าวทั่วไป Wednesday February 13, 2008 18:05 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--13 ก.พ.--กระทรวงอุตสาหกรรม
กระทรวงอุตสาหกรรมโชว์ความสำเร็จ SMEs นำร่อง 151 แห่งทั่วประเทศ คัดเลือก 17 สถานประกอบการดีเด่นในโครงการ 1 จังหวัด 1 อุตสาหกรรมแปรรูปการเกษตร ที่ได้รับการพัฒนาศักยภาพสามารถลดต้นทุนการจัดการและการผลิต ทั้งเพิ่มประสิทธิภาพในด้านต่างๆ เฉลี่ยร้อยละ 75 พร้อมดัน SMEs ไทยสู้การแข่งขันในตลาดโลก
นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า หลังจากที่กระทรวงอุตสาหกรรมได้ดำเนินโครงการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมส่วนภูมิภาค 1 จังหวัด 1 อุตสาหกรรมแปรรูปการเกษตร มาตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2550 เป็นระยะเวลากว่า 6 เดือน โดยมุ่งเน้นพัฒนาศักยภาพทั้งด้านการจัดการและด้านการผลิตของโรงงาน SMEs แปรรูปสินค้าเกษตร ซึ่งเป็นรากฐานของเศรษฐกิจไทย มีโรงงานนำร่องเข้าร่วมโครงการฯ 151 แห่ง จากจังหวัดทั่วประเทศ โดยหลังการดำเนินโครงการฯ ผู้ประกอบการเกินกว่าร้อยละ 60 สามารถลดต้นทุนด้านพลังงานกว่า 3 - 5 แสนบาทต่อเดือน รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพในด้านต่างๆ เฉลี่ยร้อยละ 75 พร้อมลดต้นทุนการผลิต ยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรม พึ่งพาตนเอง สร้างงาน สร้างรายได้ ทดแทนการนำเข้าและส่งขายยังตลาดต่างประเทศได้ นอกจากนี้สถานประกอบการหลายแห่งสามารถเพิ่มมูลค่าการผลิตจำนวนมาก เช่น สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่จำหน่ายในตลาด อาทิ การผลิตข้าวฮางซึ่งเป็นข้าวที่นำไปนึ่งก่อนขัดสีเพียงครั้งเดียวทำให้เป็นข้าวที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงและสามารถป้องกันมะเร็งลำไส้ได้ โดยคิดเป็นมูลค่าเพิ่มกว่า 100.8 ล้านบาทต่อปี บางรายได้ปรับเปลี่ยนอุปกรณ์การผลิตเพียงเล็กน้อยแต่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าวเปลือกได้ 720 ตันข้าวเปลือกต่อปี คิดเป็นมูลค่า 14.4 ล้านบาทต่อปี และบางรายสามารถลดต้นทุนด้านพลังงานและมูลค่าของเสีย รวมทั้งสิ้น มูลค่ากว่า25 ล้านบาทต่อปี
“การดำเนินโครงการฯ ที่ผ่านมา กระทรวงอุตสาหกรรม ได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย ที่เกี่ยวข้องเป็นอย่างดี ส่งผลให้การดำเนินโครงการฯ ประสบผลสำเร็จตามเป้าหมาย โดยสามารถช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต และแปลงความสูญเปล่าเป็นผลกำไรได้อย่างเป็นรูปธรรมในระดับที่น่าพอใจ และสามารถก้าวสู่เวทีการแข่งขัน ในตลาดโลกได้”นายวิฑูรย์ กล่าว
โดยสัดส่วนการพัฒนายกระดับผู้ประกอบการจาก 3 ใน 5 แผนงาน พบว่า การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เป็นแผนงานที่ผู้ประกอบการหรือโรงงาน ต้องการเสริมศักยภาพมากที่สุดจำนวน 120 ราย แผนการลดต้นทุนทรัพยากรและพลังงาน จำนวน 100 ราย และแผนบริหารจัดการวัตถุดิบและโลจิสติกส์ จำนวน 97 ราย ตามลำดับ
นอกจากนี้ยังมีการมอบรางวัลสถานประกอบการดีเด่นหรือ Best Practice รวม 17 แห่ง ที่สามารถพัฒนาและปรับใช้แผนงานในด้านต่างๆ ได้ดี ซึ่งสถานประกอบการส่วนใหญ่ได้ดำเนินการพัฒนากิจการ และมีผลสัมฤทธิ์เป็นรูปธรรมในด้านการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และการลดต้นทุนการใช้พลังงาน ทั้งนี้สถานประกอบการดีเด่นมีรายชื่อ ดังนี้ ห้างหุ้นส่วนจำกัด สหมิตรแป้งมัน จ.ชลบุรี, นายทวี สิทธิสาครศิลป์ (ทวีไข่เค็ม) จ.นนทบุรี, บริษัท แอกโกร-ออน จำกัด จ.สุพรรณบุรี, บริษัท จันทบุรีผลิตผลเครื่องดื่ม จำกัด จ.จันทบุรี, บริษัท เครื่องหอมไทย-จีน จำกัด จ.พระนครศรีอยุธยา, บริษัท อาภาผลอุตสาหกรรมอาหารไทย จำกัด จ.ราชบุรี, บริษัท จุลอินเตอร์ซิล จำกัด จ.เพชรบูรณ์, บริษัท ไทยเอเชียไรซ์โปรดักซ์ จำกัด จ.แพร่,โรงงานอำไพพรรณการเกษตร จ.เชียงใหม่, บริษัท สยามไชน์เปเปอร์ จ.อุตรดิตถ์,บริษัท เค.เอ็ม.ไอ ฟอเรสต์ จำกัด จ.บุรีรัมย์, ห้างหุ้นส่วนจำกัด โรงสีรุ่งชัยกิจ จำกัด จ.กาฬสินธุ์, สหกรณ์การเกษตรเกษตรวิสัย จำกัด จ.ร้อยเอ็ด, บริษัท เอเชี่ยนน้ำมันปาล์ม จำกัด จ.กระบี่, บริษัท เมธีภูเก็ต จำกัด จ.ภูเก็ต, บริษัท อุตสาหกรรมทวีวงษ์ จำกัด จ.สงขลา และ บริษัท ตรังไม้ยางพารา จำกัด โดยสถานประกอบการดีเด่นทั้ง 17 รายนั้น สามารถนำคำแนะนำ ขั้นตอนการพัฒนามาประยุกต์ใช้และเกิดผลสัมฤทธิ์เป็นรูปธรรมมากที่สุด พร้อมทั้งสามารถนำองค์ความรู้ที่ได้รับจากการเข้าร่วมโครงการฯ ไปพัฒนาสถานประกอบการของตนได้ในอนาคต
สถานประกอบการนำร่อง 151 โรงงานนำร่องจะถูกนำไปใช้เป็นกรณีศึกษาในเรื่ององค์ความรู้เพื่อให้ผู้ประกอบการที่ประกอบกิจการแบบเดียวกันได้นำไปประยุกต์ใช้ต่อไป ซึ่งโครงการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมส่วนภูมิภาค หรือ โครงการ 1 จังหวัด 1 อุตสาหกรรมแปรรูปการเกษตร เป็นโครงการต่อเนื่องระยะ 3 ปีระหว่างปี พ.ศ. 2551-2553 เพื่อพัฒนาศักยภาพของ SMEs ไทยที่เติบโตอย่างมีประสิทธิภาพและอย่างยั่งยืน โดยปี 2551 มีเป้าหมายดำเนินการใน 250 โรงงาน และเพิ่มแผนงานด้านการปรับปรุงคุณภาพและพัฒนางาน นายวิฑูรย์กล่าวเสริมท้าย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ