กรุงเทพฯ--23 ส.ค.--ก.ล.ต.
ก.ล.ต. เปิดรับฟังความเห็นร่างแนวทางการปฏิบัติงานของผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ที่ให้บริการเกี่ยวกับการซื้อขายตามแผนจัดสรรการลงทุน (Portfolio Advisory) หรือกลยุทธ์การลงทุน (Program Trading) ซึ่งจัดทำโดยสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย เพื่อวางมาตรฐานในการประกอบธุรกิจ และยกระดับการบริการด้านการซื้อขายผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน
หลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ออกหลักเกณฑ์ให้ผู้ประกอบธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ หรือตัวแทนสัญญาซื้อขายล่วงหน้าสามารถให้บริการซื้อขายผลิตภัณฑ์ในตลาดทุนตามแผน Portfolio Advisory และ Program Tradingได้ โดยไม่ถือเป็นการประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทจัดการกองทุนส่วนบุคคล หรือผู้จัดการเงินทุนสัญญาซื้อขายล่วงหน้าตามลำดับ ซึ่งหลักเกณฑ์ดังกล่าว มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม 2562 เป็นต้นมา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนให้ผู้ลงทุนมีตัวช่วยด้านการวางแผนจัดสรรการลงทุนและกลยุทธ์การลงทุน ในขณะที่ผู้ประกอบธุรกิจจะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการได้ดียิ่งขึ้น
ทั้งนี้ เพื่อยกระดับมาตรฐานการให้บริการ สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทยได้จัดทำร่างแนวทางการปฏิบัติงานเพื่อให้สมาชิกสมาคมถือปฏิบัติเพิ่มเติม และโดยความเห็นชอบของสำนักงาน จะมีผลทำให้ผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าทุกประเภท เช่น ธนาคารพาณิชย์ บริษัทประกันชีวิต และบริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน (บลน.) ที่ให้บริการดังกล่าวต้องปฏิบัติตามร่างแนวทางสมาคมที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานด้วย* โดยมีแนวทางดังนี้ 1) การจัดทำโครงร่างการให้บริการ (service model) โดยมีผู้บริหารระดับสูงเป็นผู้รับผิดชอบ 2) การจัดทำข้อตกลงการให้บริการ เช่น ขอบเขตและเงื่อนไขการให้บริการ สิทธิของลูกค้า ที่มาของแนวทางการลงทุน 3) การจัดให้มีบุคลากรที่เหมาะสมในการให้บริการแนะนำการลงทุน 4) กระบวนการและการดำเนินการของผู้ประกอบธุรกิจ เช่น การแจ้งผลการลงทุน กระบวนการปรับปรุงแนวทางการลงทุน โดยนำเสนอข้อมูลให้ลูกค้าตัดสินใจ และการให้ข้อมูลที่เหมาะสม และ 5) การคิดค่าธรรมเนียมการให้บริการ ซึ่งไม่ว่าจะกำหนดในรูปแบบใด ต้องแจ้งให้ลูกค้ารับทราบก่อนเริ่มให้บริการ
อย่างไรก็ตาม ก่อนร่างแนวทางการปฏิบัติงานดังกล่าวมีผลบังคับใช้กับผู้ประกอบธุรกิจข้างต้น จะต้องได้ความเห็นชอบจาก ก.ล.ต. ดังนั้น ก.ล.ต. จึงเปิดรับฟังความคิดเห็นจากภาคธุรกิจและบุคคลทั่วไปก่อนการพิจารณาให้ความเห็นชอบ โดยเผยแพร่เอกสารรับฟังความคิดเห็นเรื่องดังกล่าวไว้ที่เว็บไซต์ ก.ล.ต. https://www.sec.or.th/TH/Pages/PB_Detail.aspx?SECID=550 ผู้ที่สนใจสามารถแสดงความคิดเห็นได้ที่เว็บไซต์ หรือทาง e-mail: chanisarab@sec.or.th หรือ rangrong@sec.or.th จนถึงวันที่ 23 กันยายน 2562