สุดยอดศูนย์บ่มเพาะผู้ประกอบการอาชีวศึกษาระดับชาติ 5 ดาว

ข่าวทั่วไป Thursday September 19, 2019 13:52 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--19 ก.ย.--สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ดร.บุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการ การอาชีวศึกษา (สอศ.) ได้ดำเนินโครงการส่งเสริมการประกอบอาชีพอิสระในกลุ่มผู้เรียนอาชีวศึกษา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2562 เพื่อส่งเสริมความรู้และประสบการณ์ด้านธุรกิจ ผ่านกระบวนการของศูนย์บ่มเพาะผู้ประกอบการอาชีวศึกษาในสถานศึกษาสังกัดสอศ.ทุกแห่ง โดยการนำผลิตภัณฑ์หรือชิ้นงานที่เกิดจากการเรียนการสอนหรือความสนใจส่วนบุคคลของนักศึกษามาต่อยอดในเชิงพาณิชย์ให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้การทำธุรกิจและมีรายได้ระหว่างเรียน โดยสอศ.กำหนดให้มีการประเมินศูนย์บ่มเพาะผู้ประกอบการอาชีวศึกษาอย่างเป็นระบบต่อเนื่องในทุกปีตามตัวชี้วัดและเกณฑ์การประเมินที่สอศ.กำหนด เพื่อประเมินศักยภาพการดำเนินงานของสถานศึกษาและหาแนวทางในการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ซึ่งขั้นตอนของการประเมินแบ่งเป็น 3 ระดับ ได้แก่ ระดับจังหวัด ระดับภาค และระดับชาติ โดยในปีนี้เป็นปีแรกที่สอศ.ได้ดำเนินการจัดการประเมินโดยส่วนกลาง เพื่อให้การประเมินเป็นมาตรฐานเดียวกัน ซึ่งมีสถานศึกษา 90 แห่งที่ผ่านการคัดเลือก เข้าร่วมรับการประเมินในระดับชาติ ผลการประเมินศูนย์บ่มเพาะผู้ประกอบการอาชีวศึกษา ระดับชาติ 5 ดาว มีจำนวน 32 แห่ง ได้แก่ วิทยาลัยอาชีวศึกษาสุโขทัย วิทยาลัยสารพัดช่างอุตรดิตถ์ วิทยาลัยการอาชีพแม่สะเรียง วิทยาลัยการอาชีพนวมินทราชินีแม่ฮ่องสอน วิทยาลัยเทคนิคพะเยา วิทยาลัยอาชีวศึกษาชุมพร วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีพังงา วิทยาลัยเทคนิคพัทลุง วิทยาลัยการอาชีพละงู วิทยาลัยเทคนิคพังงา วิทยาลัยอาชีวศึกษานครศรีธรรมราช วิทยาลัยเทคนิคสตูล วิทยาลัยการอาชีพปัตตานี วิทยาลัยอาชีวศึกษาสงขลา วิทยาลัยอาชีวศึกษาพระนครศรีอยุธยา วิทยาลัยอาชีวศึกษาสิงห์บุรี วิทยาลัยเทคนิคราชบุรี 2 วิทยาลัยการอาชีพวังไกลกังวล วิทยาลัยการอาชีพพนมทวน วิทยาลัยการอาชีพบ้านโป่ง วิทยาลัยอาชีวศึกษาเลย วิทยาลัยการอาชีพโพนทอง วิทยาลัยเทคนิคตระการพืชผล วิทยาลัยเทคนิคคูเมือง วิทยาลัยอาชีวศึกษาร้อยเอ็ด วิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ วิทยาลัยอาชีวศึกษาฉะเชิงเทรา วิทยาลัยการอาชีพบางปะกง วิทยาลัยเทคนิคระยอง วิทยาลัยเทคนิคจันทบุรี วิทยาลัยเทคนิคพัทยา และวิทยาลัยพณิชยการบางนา "ทั้งนี้ สอศ.ขอเชิดชูเกียรติสถานศึกษาดังกล่าวให้เป็นแบบอย่างสำหรับการดำเนินงานของสถานศึกษาอื่นในสังกัด เพื่อให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการทำธุรกิจอย่างเป็นระบบ และสร้างแรงจูงใจให้แก่เยาวชนในระดับอาชีวศึกษาในการต่อยอดผลงานหรือผลิตภัณฑ์ไปสู่เชิงพาณิชย์และส่งเสริมทักษะการประกอบอาชีพ เพื่อก่อให้เกิดผู้ประกอบการใหม่ที่มีศักยภาพในอนาคตและเป็นรากฐานสำคัญของระบบเศรษฐกิจไทยต่อไป" ดร.บุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กล่าวปิดท้าย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ