ฟิลิปส์ประกาศความสำเร็จยอดขายผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพิ่มขึ้นเป็น 5.3 พันล้านยูโร ในปี 2550

ข่าวเทคโนโลยี Monday February 25, 2008 11:46 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--25 ก.พ.--ฟิลิปส์ อิเล็กทรอนิกส์
รอยัลฟิลิปส์อิเล็กทรอนิกส์ ประกาศความสำเร็จจากการเพิ่มยอดขายผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Products) มูลค่า 5.3 พันล้านยูโร (246,511 ล้านบาท) ซึ่งเพิ่มขึ้น 33 เปอร์เซ็นต์ ในปี 2551 จากผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมทั้ง 3 กลุ่มธุรกิจของฟิลิปส์ได้แก่ กลุ่มธุรกิจเพื่อการแพทย์และการดูแลสุขภาพ กลุ่มธุรกิจไฟฟ้าและอุปกรณ์แสงสว่าง และกลุ่มธุรกิจคอนซูเมอร์ไลฟ์สไตล์ ซึ่งระบุไว้ในรายงานการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนของฟิลิปส์ประจำปี 2550
ในปี 2550 สัดส่วนยอดขายผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพิ่มขึ้นมาเป็น 20 เปอร์เซ็นต์จากยอดขายทั้งหมด เมื่อเปรียบเทียบกับสัดส่วน 15 เปอร์เซ็นต์เมื่อปี 2549 แสดงให้เห็นถึงความคืบหน้าในการก้าวไปสู่เป้าหมายที่ฟิลิปส์ได้ประกาศไว้ในโปรแกรม Eco Vision 4 ที่ต้องการจะเพิ่มสัดส่วนยอดขายจากผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมให้เป็น 30 เปอร์เซ็นต์ในปี 2555 โดยการเพิ่มเงินลงทุนมูลค่า 1 พันล้านยูโร (47,000 ล้านบาท) ในการพัฒนานวัตกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อสนองตอบต่อความต้องการผู้บริโภค
คุณบาบารา คุกซ์ สมาชิกกลุ่มกรรมการบริหาร และประธานคณะกรรมการการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน ฟิลิปส์ กล่าวว่า “ฟิลิปส์มีความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ปัจจุบัน ยอดขายผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เติบโต 33 เปอร์เซ็นต์ และจากยอดขายฟิลิปส์ทั้งหมด ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีสัดส่วนยอดขายถึง 20 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งความสำเร็จเกิดจากกลุ่มธุรกิจทั้ง 3 กลุ่มของเราสามารถสร้างการเติบโตให้กับผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มธุรกิจเพื่อการแพทย์และการดูแลสุขภาพ (Healthcare) และกลุ่มธุรกิจคอน ซูเมอร์ไลฟ์สไตล์ (Consumer Lifestyle) สามารถเพิ่มยอดขายผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสูงขึ้น ฟิลิปส์เชื่อมั่นว่าความมุ่งมั่นของบริษัทกับธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจะสร้างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจให้กับบริษัทและสังคมส่วนรวมอีกด้วย”
ฟิลิปส์มุ่งมั่นที่จะพัฒนาโซลูชั่นด้านการบริหารการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพให้ก้าวหน้ามากยิ่งขึ้นและปัจจุบันมียอดขายผลิตภัณฑ์หลอดไฟและอุปกรณ์แสงสว่างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมถึง 17 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งยอดขายที่เติบโตสูงที่สุดมาจากตลาดหลอดไฟสำหรับบ้านพักอาศัย รองลงมาได้แก่โซลูชั่นด้านแสงสว่างสำหรับร้านค้าและไฟถนน และเทคโนโลยีแสงสว่าง LED ตัวอย่างเช่น ระบบไฟถนนฟิลิปส์ CosmoPolis ที่ฟิลิปส์ได้แนะนำระบบนี้สู่ตลาดเมื่อปีพ.ศ. 2548 ซี่งสามารถลดการใช้พลังงานได้ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ และได้รับความไว้วางใจให้ติดตั้งในหลายเมืองทั้งในทวีปยุโรปและเอเชีย
ยอดขายผลิตภัณฑ์เพื่อการแพทย์และการดูแลสุขภาพที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพิ่มขึ้น 35 เปอร์เซ็นต์ โดยผลิตภัณฑ์ที่กระตุ้นยอดขายได้แก่กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องตรวจอวัยวะด้วยคลื่นสนามแม่เหล็กไฟฟ้ากำลังสูง (Magnetic Resonance Imaging - MRI) และเครื่องเฝ้าระวังและติดตามสัญญาณชีพผู้ป่วย (patient monitoring) ตัวอย่างเช่น เครื่องตรวจอวัยวะด้วยคลื่นสนามแม่เหล็กไฟฟ้ากำลังสูง Achieva 3.0T X-series สามารถลดผลกระทบที่มีต่อสิ่งแวดล้อมได้ถึง 32 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นก่อนหน้านี้ นอกจากนั้นยังมีเครื่องมือแพทย์รุ่นใหม่ที่เพิ่งจะแนะนำสู่ตลาดได้แก่ เครื่องเฝ้าระวังและติดตามสัญญาณชีพผู้ป่วย รุ่น IntelliVue MMS X2 ที่ใช้พลังงานน้อยกว่า 52 เปอร์เซ็นต์
สำหรับกลุ่มธุรกิจคอนซูเมอร์ไลฟ์สไตล์ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สามารถลดการใช้พลังงานและแนะนำสู่ตลาดจนทำให้สามารถสร้างยอดขายผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเติบโตสูงถึง 91 เปอร์เซ็นต์ ตัวอย่างเช่น ผลิตภัณฑ์ชุดโฮมเธียเตอร์ Ambisound ที่ใช้พลังงานน้อยกว่าคู่แข่งถึง 50 เปอร์เซ็นต์ และผลิตภัณฑ์แอลซีดี ทีวี บางรุ่นของ ฟิลิปส์ ยังใช้พลังงานน้อยกว่าคู่แข่งถึง 36 เปอร์เซ็นต์
ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของฟิลิปส์จะต้องเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนช่วยพัฒนาสิ่งแวดล้อมให้ดียิ่งขึ้นและต้องไปเป็นตามข้อกำหนดของ Philips Green Focal Areas อย่างน้อย 1 ข้อ อาทิ การบริหารการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ (energy efficiency) บรรจุภัณฑ์ (packaging) วัตถุอันตราย (hazardous substance) น้ำหนัก (weight) การนำกลับไปใช้ใหม่และการทำลาย (recycling and disposal) หรืออายุการใช้งาน (lifetime reliability) เมื่อเปรียบเทียบผลิตภัณฑ์ประเภทเดียวกันในตลาด
นายประกรณ์ เมฆจำเริญ ซีอีโอและประธานกรรมการบริหาร บริษัท ฟิลิปส์อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า สำหรับบริษัท ฟิลิปส์อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด ดำเนินนโยบายการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนตามนโยบายฟิลิปส์ทั่วโลก และมุ่งมั่นที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนทั่วโลกให้ดียิ่งขึ้นด้วยผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค และในขณะเดียวกันผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นนั้นสามารถช่วยพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมได้อีกด้วย
“ปัจจุบันภาวะโลกร้อนและการลดการใช้พลังงานเป็นปัญหาเร่งด่วนที่ต้องการการแก้ไขจากทุกภาคส่วน ฟิลิปส์จึงได้นำผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นที่สามารถช่วยธุรกิจและผู้บริโภคให้สามารถบริหารการใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ องค์กรระหว่างประเทศด้านพลังงาน (International Energy Agency) ได้ประเมินว่าการใช้พลังงานไฟฟ้าสำหรับระบบแสงสว่าง คิดเป็น 19 เปอร์เซ็นต์จากพลังงานไฟฟ้าทั้งหมด และหากมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นจะทำให้ระบบแสงสว่างสามารถช่วยประหยัดพลังงานให้กับโลกได้อย่างมาก จากรายงานการวิจัยล่าสุดที่ฟิลิปส์ได้เผยแพร่ในปีนี้แสดงให้เห็นว่า ระบบแสงสว่างที่ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพสามารถลดการใช้พลังงานลงได้ประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นอัตราการประหยัดพลังงานซึ่งมากกว่าเทคโนโลยีเดิมถึงสองเท่า”
เมื่อเร็วๆ นี้ ฟิลิปส์ประเทศไทยได้แนะนำหลอดประหยัดพลังงานสำหรับบ้านรุ่นใหม่ ได้แก่ ทอร์นาโด ซี่รี่จิ๋ว ที่ได้รับการพัฒนาการดีไซน์หลอดรูปทรงเกลียวพายุให้เล็กกะทัดรัดมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม มีประสิทธิภาพส่องสว่างแรงกว่าหลอดประหยัดไฟทั่วไปถึง 20 เปอร์เซ็นต์ แต่ยังคงประหยัดไฟกว่าหลอดไส้ถึง 80 เปอร์เซ็นต์เช่นเดียวกันกับหลอดประหยัดไฟฟิลิปส์รุ่นอื่น มีอายุการใช้งานยาวนานถึง 6,000 ชั่วโมง หรือมากกว่าหลอดไส้ถึง 6 เท่า
นอกจากนั้นฟิลิปส์ ยังได้เปิดตัวระบบหลอดฟลูออเรสเซ็นต์ผอมใหม่ T5 ที่ได้คิดค้นและพัฒนาขึ้นให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น สามารถช่วยประหยัดพลังงานลงได้มากถึง 61 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับระบบหลอดฟลูออเรสเซ็นต์ทั่วไป และจะช่วยลดปริมาณการใช้ CO2 ถึง 77 กิโลกรัมต่อหลอดต่อปี
ฟิลิปส์ยังได้ดำเนินกิจกรรมต่างๆ ที่จะเข้ามามีส่วนในการพัฒนาสังคมและรักษาสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยเมื่อปลายปีพ.ศ. 2550 ฟิลิปส์ได้เซ็นบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับการนิคมอุตสาหกรรม เพื่อบริการจัดการหลอดฟลูออเรสเซ็นต์ที่หมดอายุอย่างถูกวิธี จำนวนทั้งสิ้น 40,000 หลอดภายในปี 2551 โดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ ซึ่งฟิลิปส์ได้เปิดตัวโครงการ “ฟิลิปส์ เติมยิ้ม สิ่งแวดล้อม” นำเสนอโซลูชั่นในการบริหารจัดการหลอดฟลูออเรสเซ็นต์ที่หมดอายุอย่างถูกวิธีด้วยการ Recycle ไปเมื่อต้นปี 2550 เพราะหลอดฟลูออเรสเซ็นต์ถือเป็นขยะพิษ ไม่สามารถทิ้งรวมกับขยะทั่วไปได้ ซึ่งต้องการการกำจัดอย่างถูกวิธี เพื่อมิให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมและมนุษย์
นอกจากนี้ ฟิลิปส์ยังร่วมมือกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เปิดโครงการ “80 โรงเรียน 80 ชุมชน ร่วมใจประหยัดไฟ ถวายองค์ราชัน” ซึ่งเป็นโครงการเปลี่ยนหลอดไส้เดิมที่ใช้อยู่ให้เป็นหลอดประหยัดพลังงานให้แก่ 80 โรงเรียนทั่วประเทศ และเปลี่ยนหลอดฟลูออเรสเซ็นต์แบบธรรมดาเป็นหลอดฟลูออเรสเซ็นต์ฟิลิปส์ ซูเปอร์ขั้วเขียว ที่ประหยัดพลังงานเพราะให้แสงสว่างมากกว่า 25-30 เปอร์เซ็นต์และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่าเดิมเพราะมีปรอทเพียง 3 มิลลิกรัมเท่านั้น ต่ำกว่าหลอดฟลูออเรสเซ็นต์ทั่วไปที่มีสารปรอทปริมาณ 10-20 มิลลิกรัม และโครงการนี้ยังส่งเสริมให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในชุมชนใกล้เคียงนำหลอดไส้มาแลกเป็นหลอดประหยัดพลังงานเพื่อนำกลับไปใช้ที่บ้านเพื่อประหยัดพลังงานและลดค่าไฟอีกด้วย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ