กรุงเทพฯ--25 ก.พ.--กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง
ในวันนี้ (วันจันทร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ 2551) เวลา 13.00 น. ณ ศูนย์นิทรรศการและ การประชุมไบเทค บางนา นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ อธิบดีกรมศุลกากร เป็นประธานในพิธีเปิดสัมมนาเรื่อง “พิธีการศุลกากรทางอิเล็กทรอนิกส์แบบไร้เอกสาร” ของสำนักงานศุลกากรกรุงเทพ ให้กับผู้ประกอบการ ตัวแทนออกของ สายการเดินเรือ เพื่อเตรียมพร้อมยกเลิกการใช้ระบบการผ่านพิธีการศุลกากรในระบบแลกเปลี่ยนข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ (EDI) และใช้บริการผ่านพิธีการศุลกากรทางอิเล็กทรอนิกส์แบบ ไร้เอกสาร (PAPERLESS)
นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวว่า ตั้งแต่เดือนมกราคม 2551 กรมศุลกากรเริ่มให้บริการผ่านพิธีการศุลกากรนำเข้าทางอิเล็กทรอนิกส์แบบไร้เอกสาร (e-Import) สำหรับการผ่านพิธีการทางบกที่ด่านศุลกากรต่างๆตามภูมิภาคแล้ว และในวันที่ 1 เมษายน 2551 กรมศุลกากรจะยกเลิกการให้บริการระบบ EDI และเริ่มให้บริการผ่านพิธีการศุลกากรในระบบ e-Import ณ สำนักงานศุลกากรตรวจสินค้าท่าอากาศ-ยานสุวรรณภูมิ และตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2551 กรมศุลกากรจะยกเลิกระบบ EDI และเริ่มให้บริการในระบบ e-Import ณ สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง
สำหรับด่านศุลกากรต่างๆในสังกัดสำนักงานศุลกากรกรุงเทพ ซึ่งเป็นด่านฯ Inland จะยกเลิกระบบ EDI และใช้ระบบ e-Import ควบคู่กับระบบ e-Export เช่น ด่านฯสมุทรสาคร ด่านฯทับยาว และด่านฯบางเสาธง ตั้งแต่ 1 มีนาคม 2551 ด่านฯลาดกระบัง และด่านฯพหลโยธิน ตั้งแต่ 1 เมษายน 2551 ด่านฯไปรษณีย์ ด่านฯสำโรงใต้ ด่านฯสมุทรปราการ ด่านฯพระสมุทรเจดีย์ และด่านฯพระประแดง ตั้งแต่ 1 พฤษภาคม2551 ทั้งนี้ เนื่องจากการใช้ระบบ e-Import อาจมีผลกระทบต่อการผ่านพิธีการศุลกากร กรมศุลกากรจึงได้จัดสัมมนาให้ความรู้ ซักซ้อมความเข้าใจ และเตรียมความพร้อมให้กับผู้ประกอบการ ตัวแทนออกของและสายการเดินเรือ เพื่อให้การผ่าน พิธีการศุลกากรได้รับความสะดวก และรวดเร็ว
สำนักงานศุลกากรกรุงเทพมีปริมาณใบขนสินค้าขาเข้าเฉลี่ยต่อเดือนประมาณ 18,300 ใบ เป็นการใช้ในระบบอีดีไอ 80.72% และการใช้ในระบบe-Import 19.28% ส่วนปริมาณใบขนสินค้าขาออกเฉลี่ยต่อเดือนประมาณ 2,300 ใบ เป็นการใช้ในระบบอีดีไอ 22.30% และการใช้ในระบบ e-export 77.70%