SCN โชว์ผลงาน เดินเกมส์รุกสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday October 10, 2019 10:42 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--10 ต.ค.--บางกอก ออทัม ดร.ฤทธี กิจพิพิธ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สแกน อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCN ผู้นำด้านธุรกิจพลังงาน พลังงานหมุนเวียน และยานยนต์ที่ใช้พลังงานทางเลือก กล่าวถึงความสำเร็จของบริษัทในปีนี้ โดยเริ่มจากต้นปีด้วยการส่งมอบรถเมล์ NGV ทั้งหมดจำนวน 489 คัน ให้แก่ ขสมก. สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี หลังจากชนะการประมูลกับกลุ่มร่วมทำงาน SCN-CHO เมื่อปี 2560 อีกทั้งยังได้เป็นผู้ดูแลงานบำรุงและซ่อมแซมตามสัญญา เป็นระยะเวลา 10 ปี ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีของบริษัทตั้งแต่แรกเริ่มปีที่ผ่านมา ต่อมาในช่วงปลายเดือนมิถุนายน ได้รับเกียรติจาก นางออง ซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งประเทศ สาธารณรัฐสหภาพเมียนมาร์ พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงานอย่างเป็นทางการ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์มินบูขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 220 เมกะวัตต์ ที่ประเทศสาธารณรัฐสหภาพเมียนมาร์ โดยความร่วมมือของ 3 ผู้ลงทุนหลัก SCN-ECF-META พร้อมกล่าวถึง เป้าหมาย กลยุทธ์ และทิศทางของธุรกิจ ที่ยังคงเดินเกมส์รุก 3+1 สู่การเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต โดยยังคงมุ่งพัฒนาในธุรกิจก๊าซธรรมชาติสำหรับอุตสาหกรรมทั้ง iCNG และ iLNG ที่ยังคงเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของธุรกิจก๊าซธรรมชาติ โดยคาดว่าปีนี้จะมีสัดส่วนรายได้อยู่ที่ 10% ของรายได้รวม ทั้งนี้ ในส่วนของธุรกิจยานยนต์ ที่จัดตั้ง บริษัท แพนเธอรา มอเตอร์ จำกัด ขึ้นมาเพื่อรองรับงานประมูลรถโดยสารสำหรับงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน รวมไปถึงการผลิต ติดตั้ง และประกอบรถโดยสารทุกประเภท ที่มีมาตรฐานสูงสุดในประเทศไทย นอกจากนี้ยัง จำหน่าย ให้เช่า และให้บริการหลังการขายรถโดยสารทุกประเภทแก่ผู้ประกอบการรายย่อย ส่วนในด้านธุรกิจพลังงานหมุนเวียนยังไม่คงไม่หยุดยั้งที่แสวงหาโอกาส และเข้าศึกษาในโครงการต่างๆ อีกทั้งทางบริษัทได้ตั้ง บริษัท สแกน แอดวานซ์ พาวเวอร์ จำกัด โดยมีจุดประสงค์หลักเพื่อร่วมลงทุนในสัญญาซื้อขายไฟภาคเอกชน ( Private PPA) และสัญญาเช่าโครงการโซลาร์รูฟท็อปอย่างไม่จำกัด อันเนื่องมาจากความต้องการใช้ไฟฟ้าในประเทศที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ ถึงแม้ว่าในปีนี้บริษัทจะเจออุปสรรคจากการชะลอตัวราคาก๊าซธรรมชาติ NGV ของนโยบายภาครัฐและการยกเลิกการใช้รถมินิบัสจากภาคบังคับมาเป็นภาคสมัครใจ ทำให้บริษัทได้ปรับลดเป้ารายได้ปีนี้เหลือโต 10% จากเดิมคาดโต 30% ถึงอย่างไรก็ดีทางบริษัทก็ได้เตรียมแผนรับมือกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว และมั่นใจว่าจะสามารถรับรู้รายได้ที่มั่นคงจากโครงการต่างๆ ที่ได้ลงทุนไปในปีข้างหน้าและปีต่อๆ ไปอย่างยั่งยืน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ