พลัสฯ เผยคอนโดหัวหินแนวโน้มสดใส โซนใกล้ทะเลยอดขาย 81% คอนโด 3 ล. ครองตลาด รับประโยชน์มาตรการกระตุ้นอสังหาฯ เต็มๆ

ข่าวอสังหา Friday October 25, 2019 11:05 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--25 ต.ค.--พลัส พร็อพเพอร์ตี้ พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมตอบโจทย์ทุกบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ เผยผลสำรวจพื้นที่หัวหินชะอำ รอบครึ่งแรกปี 2562 พบตลาดยังเติบโต มีจำนวนคอนโดมิเนียมเข้าใหม่ปีละ 1,000 – 2,000 ยูนิต ส่งผลอุปทานรวมอยู่ที่ 11,700 ยูนิต ยอดขายรวม 76% ราคาขายเฉลี่ย 90,000 บาทต่อตร.ม. ชี้หัวหินโดดเด่นสุด โดยเฉพาะโซนใกล้ทะเลที่มีจำนวนเสนอขายคิดเป็น 70% ของอุปทานทั้งหมดในพื้นที่ และมีอัตราขายสูงสุดอยู่ที่ 81% เหตุเป็นทำเลที่น่าสนใจ ไม่ไกลจากทะเล สามารถเดินเท้าไปยังชายหาด ศูนย์การค้าและโรงพยาบาล ในขณะที่ราคาขายต่ำกว่าโซนติดหาดเกือบ 30% นอกจากนี้ทำเลหัวหินยังได้อานิสงส์จากแผนการพัฒนารถไฟความเร็วสูงสายใต้ และแผนขยายสนามบินหัวหิน เป็นโอกาสดึงดูดนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันเติบโตปีละ6% รวมถึงส่งผลให้ราคาที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ในอนาคตมีโอกาสเพิ่มขึ้นจากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ ล่าสุดจากมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ พบคอนโดฯ เสนอขายราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท มีสัดส่วนถึง 75% นางสาวสุวรรณี มหณรงค์ชัย รองกรรมการผู้จัดการสายงานพัฒนากลยุทธ์และบริหารสินทรัพย์ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมตอบโจทย์ทุกบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า จากการสำรวจของฝ่ายวิจัยและพัฒนาในทำเลหัวหิน-ชะอำ ช่วงครึ่งแรกปี 2562 พบว่ามีอุปทานคอนโดมิเนียมทั้งหมดประมาณ 11,700 ยูนิต และมียอดขายอยู่ที่ 76% มีราคาขายเฉลี่ยทุกพื้นที่อยู่ที่ 90,000 บาทต่อตารางเมตร โดยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมามีจำนวนอุปทานใหม่เข้าสู่ตลาดราว 1,000-2,000 ยูนิตต่อปี ซึ่งมากกว่า 50% ของอุปทานอยู่ในชะอำ เนื่องจากโครงการในชะอำมีพื้นที่ในการพัฒนาโครงการขนาดใหญ่กว่าหัวหิน อย่างไรก็ตามอัตราการขายในหัวหินได้รับการตอบรับดีกว่า เนื่องจากหัวหินมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งโรงพยาบาลชั้นนำ ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ คอมมิวนิตี้มอลล์ สวนน้ำ และสนามกอล์ฟ ซึ่งในพื้นที่หัวหินมีการพัฒนาคอนโดมิเนียม 3 โซน คือ โซนริมหาด โซนใกล้ทะเล และโซนภูเขา ใน 3 โซนนี้ โซนใกล้ทะเลได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากราคาไม่สูงเท่าโซนริมหาด และอยู่ใกล้จากทะเลกว่าโซนภูเขา โดยในรอบการสำรวจนี้พบว่าในหัวหินมีคอนโดมิเนียมเสนอขายประมาณ 5,200 ยูนิต อุปทานส่วนใหญ่อยู่ในโซนใกล้ทะเล ที่มีอยู่ประมาณ 3,700 ยูนิต คิดเป็นประมาณ 70% ของอุปทานจากโครงการคอนโดที่ยังมียูนิตเหลือขายในหัวหิน และมีอัตราการขายมากที่สุดที่ 81% โดยมีราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 88,000 บาทต่อตารางเมตร ซึ่งถูกกว่าเกือบ 30% จากราคาขายเฉลี่ยโซนริมหาดที่มีราคาขายเฉลี่ยประมาณ 120,000 บาทต่อตารางเมตร สำหรับในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาพบว่า มีโครงการเปิดใหม่โซนใกล้ทะเลทั้งหมด 4 โครงการ มี 3 โครงการอยู่ในใจกลางหัวหินและอยู่บนถนนเพชรเกษม ซึ่งสะดวกต่อการเดินทางมาก เพราะถือว่าอยู่ในทำเลที่ดีที่สุดสามารถเดินเท้าไปชายหาด ศูนย์การค้า และโรงพยาบาลได้อีกทั้งราคายังถูกกว่าโซนริมหาด ล่าสุดจากมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ที่มีราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท โดยมีมาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนและค่าธรรมเนียมการจดจำนอง รวมทั้งมาตรการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยของธนาคารอาคารสงเคราะห์ พบว่าคอนโดมิเนียมที่เสนอขายในหัวหินที่มีระดับราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนถึง 75% ของจำนวนคอนโดมิเนียมทั้งหมดในตลาดหรือคิดเป็น 3,900 ยูนิต จะได้รับอานิสงส์จากมาตรการนี้ เช่น โครงการ La Casita ในราคาเริ่มต้นที่ 2.19 ล้านบาท สำหรับปัจจัยบวกที่ทำให้คอนโดมิเนียมทำเลหัวหิน ยังคงได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่องเพราะ เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมมากที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยวจากกรุงเทพฯ เนื่องจากใช้เวลาเดินทางไม่นานมาก อสังหาริมทรัพย์ในทำเลนี้จึงได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวชาวไทยที่มาพักตากอากาศในช่วงสุดสัปดาห์ ซึ่งในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาพบว่ามีนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติเข้ามาในหัวหินเพิ่มขึ้นประมาณ 6% ต่อปี อีกทั้งในอนาคตยังมีแนวโน้มที่นักท่องเที่ยวจะเดินทางมาเยือนหัวหินมากขึ้น เนื่องจากมีปัจจัยบวกจากการพัฒนาด้านคมนาคมทั้งรถไฟความเร็วสูงและการขยายสนามบิน อีกทั้งยังมีสายการบินที่เปิดให้บริการเส้นทางระหว่างประเทศมากขึ้นโดยเป็นเที่ยวบินใหม่ที่บินตรงสู่หัวหิน ซึ่งจะมีส่วนช่วยเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เข้ามาหัวหินมากยิ่งขึ้น "หัวหินถือเป็นพื้นที่ศักยภาพที่จะยังมีการเติบโตอีกในอนาคต เนื่องจากรัฐบาลมีแผนพัฒนารถไฟความเร็วสูงสายใต้ โดยรถไฟความเร็วสูงที่จะผ่านหัวหินเป็นเฟสแรกของแผนพัฒนารถไฟความเร็วสูงสายใต้ วิ่งจากบางซื่อมาหัวหินระยะทางทั้งหมด 211 กิโลเมตร มี 4 สถานี ใช้เวลาทั้งหมด 1 ชั่วโมง 17 นาที เฟสแรกนี้อยู่ในแผนพัฒนาระยะกลางของรัฐบาล โดยมีแผนจะเปิดให้บริการในปี 2570 ซึ่งจะทำให้การนั่งรถไฟมาหัวหินใช้ระยะเวลาเดินทางลดลงมากกว่าครึ่งจากการขับรถ ในส่วนของแผนการพัฒนาดังกล่าวหากมีความแน่ชัดจากรัฐบาลจะทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวมีโอกาสเพิ่มมากขึ้น โดยจะส่งผลดีต่อตลาดอสังหาฯ หัวหินในอนาคต และจะส่งผลให้ราคาอสังหาในหัวหินสูงขึ้น มีโอกาสได้รายได้จากการปล่อยเช่ามากขึ้นจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้นด้วย สามารถมองได้ว่าการซื้ออสังหาฯ ในหัวหินเป็นการลงทุนที่ดีในระยะยาว ทั้งในแง่การซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองเป็นบ้านพักตากอากาศ และซื้อเพื่อลงทุนในอนาคต" นางสาวสุวรรณี กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ