สมอ. ร่วมกับ สถาบันยานยนต์ ดันมาตรฐานแบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้า ความปลอดภัยต้องมาก่อน

ข่าวยานยนต์ Monday November 18, 2019 13:14 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--18 พ.ย.--สถาบันยานยนต์ สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) และ สถาบันยานยนต์ ปักหมุดวางศิลาฤกษ์เตรียมเปิด "ศูนย์ทดสอบแบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้า" ในปี 63 นี้ พร้อมให้บริการทดสอบมาตรฐานและความปลอดภัยแบตเตอรี่ครบวงจรแห่งแรกในอาเซียน ปี 64 ด้วยมาตรฐานระดับสากล UNECE R100 และ R136 ตอกย้ำความเป็นแนวหน้าการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาค สถาบันยานยนต์ หน่วยงานที่ได้รับการรับรองมาตรฐานห้องปฏิบัติการทดสอบตามมาตรฐานISO/IEC 17025 : 2017 จากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อเป็นหน่วยบริการทดสอบมาตรฐานยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ให้เป็นไปตามที่กำหนด ได้พัฒนาศูนย์การทดสอบวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ขยายขีดความสามารถในการรองรับอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ในอนาคต โดยเลือกปักหมุดที่หัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนยานยนต์เป็นอันดับแรก จึงได้ก่อตั้ง "ศูนย์ทดสอบแบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้า" ขึ้นมาภายใต้การสนับสนุนของ สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม และบริษัท ทูฟ ซูด พันธมิตรผู้เชี่ยวชาญการทดสอบแบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้าอันดับต้นๆ ของโลกมีเป้าหมายร่วมกัน เพื่อผลักดันอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์สมัยใหม่ของประเทศไทยให้ให้เป็นแนวหน้าของอาเซียนอย่างยั่งยืน นายวันชัย พนมชัย เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์ ศูนย์ทดสอบแบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้า ณ ศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติ อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวว่า การผลิตอุตสาหกรรรมยานยนต์ปัจจุบันกำลังเปลี่ยนแปลงสู่ "อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่" โดยมุ่งสู่การผลิตยานยนต์ไฟฟ้า ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และด้วยภารกิจของสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ที่ต้องการยกระดับมาตรฐานผลิตภัณฑ์ อุตสาหกรรมภายในประเทศ และตรวจรับรองผลิตภัณฑ์ให้เกิดความปลอดภัย ตามมาตรฐานสากลได้สนับสนุนการเพิ่มขีดความสามารถของห้องปฏิบัติการทดสอบผลิตภัณฑ์ ให้มีความพร้อมและสามารถรองรับการทดสอบชิ้นส่วนอุปกรณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวกับการผลิตยานยนต์สมัยใหม่ และพร้อมให้คำปรึกษาแนะนำการทดสอบ การวิจัยและนวัตกรรมภายในประเทศ "ศูนย์ทดสอบยานยนต์แบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้าแห่งนี้ จึงควรได้รับการสนับสนุนเต็มที่ เพื่อช่วยส่งเสริมสนับสนุนผู้ประกอบการในประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทดสอบผลิตภัณฑ์แบตเตอรี่สำหรับยานยนต์ไฟฟ้า โดยเฉพาะการช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย และประหยัดเวลา สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องส่งผลิตภัณฑ์ไปทดสอบยังต่างประเทศ และยังสามารถเป็นที่ปรึกษาและฐานข้อมูล เพื่อเสริมสร้างความรู้ทางเทคนิควิชาการ งานวิจัย และนวัตกรรมใหม่ๆ โดยความร่วมมือจากภาครัฐ บริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้อง นายอดิศักดิ์ โรหิตะศุน ผู้ทำการแทนผู้อำนวยการสถาบันยานยนต์ กล่าวว่า ความคืบหน้าการก่อสร้าง ศูนย์ทดสอบแบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้า ณ ศูนย์การทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติ (ATTRIC) ณ อำเภอสนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทรา นั้น ได้ดำเนินการตามแผนไปแล้ว อาทิ การออกแบบที่ทันสมัย การคัดเลือกผู้รับเหมา และเริ่มดำเนินการก่อสร้าง ด้วยงบประมาณการลงทุนสำหรับ อาคารและเครื่องมือทั้งโครงการเป็นจำนวนเงินกว่า 300 ล้านบาท โดยในระยะแรก สามารถให้บริการทดสอบแบตเตอรี่ได้ทันที 5 จาก 9 รายการทดสอบ ตามมาตรฐานสากล UNECE R100 ได้แก่ชุดทดสอบความแข็งแกร่งของโครงสร้างชุดแบตเตอรี่ (Mechanical integrity Test) ชุดทดสอบการลัดวงจร (External short circuit protection) ชุดทดสอบระบบป้องกันการชาร์จเกิน (Overcharge protection) ชุดทดสอบระบบดิสชาร์จเกิน (Over-discharge protection) และชุดทดสอบการป้องกันอุณหภูมิเกิน (Over-temperature protection Test) โดยจะสามารถเปิดดำเนินการได้ในไตรมาสที่ 3 ปี 2563 นี้ ศูนย์ทดสอบแห่งนี้ คาดว่าจะให้บริการทดสอบครบทุกรายการภายในปี 2564 ซึ่งจะทำให้เป็น "ศูนย์ทดสอบแบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้าที่สามารถทำการทดสอบอย่างเต็มรูปแบบและครบวงจรที่สุดในอาเซียน" โดยห้องปฏิบัติการทดสอบนี้จะสามารถทดสอบความปลอดภัยของแบตเตอรี่ตามมาตรฐาน UNECE R100 สำหรับยานยนต์ และ UNECE R136 สำหรับรถจักรยานยนต์ รวมถึงสามารถทดสอบ เพื่อการวิจัยและพัฒนาในการปรับปรุงสมรรถนะของแบตเตอรี่ (Performance Test) ในระดับเซลล์ (Cell) โมดูล (Module) และระบบ (System) ขณะนี้มีผู้ประกอบการที่ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) แล้ว ได้แก่ผู้ที่ได้รับการส่งเสริมให้ผลิตยานยนต์สมัยใหม่ประเภท Hybrid 4 ราย Plug-in Hybrid 4 ราย ยานยนต์ไฟฟ้า (BEV) 1 ราย และยังรอการอนุมัติจากบีโอไอ (BOI) 1 ราย นอกจากนี้ ยังมีการลงทุนผลิตแบตเตอรี่เพื่อยานยนต์ไฟฟ้าเปิดทำการแล้ว อีก 4 ราย จะช่วยผลักดันมาตรฐานความปลอดภัยของยานยนต์ไฟฟ้า ยกระดับมาตรฐานของผลิตภัณฑ์ให้สูงขึ้นและ ผู้บริโภคจะได้รับความปลอดภัยจากมาตรฐานการทดสอบที่กำหนดอย่างสูงสุด

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ