ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดตัวโครงการ ONE DREAM ONE TREE ครั้งแรกในอเมริกา

ข่าวทั่วไป Thursday November 21, 2019 16:16 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--21 พ.ย.--ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) ดั๊บเบิ้ล เอ กระดาษจากคันนา แบรนด์กระดาษของคนไทยและเป็นที่ยอมรับของผู้ใช้ทั่วโลก ส่งออกแล้วกว่า 130 ประเทศ ล่าสุดบุกตลาดประเทศสหรัฐอเมริกาเปิดตัวโครงการ ONE DREAM ONE TREE เป็นครั้งแรก ให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วมส่งต่อต้นกระดาษ 1 ต้นต่อ 1 รีม ให้ชาวนาไทยปลูกบนคันนา ช่วยสร้างพื้นที่สีเขียวและเป็นเงินออมสร้างรายได้เสริมให้กับเกษตรกรไทย นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ดั๊บเบิ้ล เอ แบรนด์กระดาษของคนไทยที่จำหน่ายแล้วกว่า 130 ประเทศทั่วโลก ภายใต้การดำเนินธุรกิจโมเดล "กระดาษจากคันนา" ที่ใช้วัตถุดิบไม้ปลูกคือต้นกระดาษที่ส่งเสริมชาวนาปลูกบนคันนาว่างเปล่าให้เกิดประโยชน์เป็นรายได้เสริม และช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียว ดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ สร้างออกซิเจนในอากาศ ลดปัญหาโลกร้อน เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนทั้งเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ยังเป็นอีกทางเลือกให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วมดูแลใส่ใจสิ่งแวดล้อม ในการเลือกใช้สินค้าที่ไม่ตัดไม้จากป่าธรรมชาติ อันเป็นสาเหตุปัญหาภัยธรรมชาติ เพื่อปลุกกระแสรักษ์โลก รักษ์สิ่งแวดล้อมให้กับผู้บริโภคได้ตระหนักมากขึ้น ดั๊บเบิ้ล เอ จึงริเริ่มจัดแคมเปญ "Double A One Dream One Tree" ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีเมื่อปีพ.ศ.2559 ใน 4 ประเทศคือ สิงคโปร์ มาเลเซีย เกาหลีใต้และไทย สำหรับปีนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ ได้เปิดตัวแคมเปญ One Dream One Tree ในประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นครั้งแรกของซีกโลกฝั่งตะวันตก โดยมีเป้าหมายให้ผู้บริโภคในประเทศสหรัฐอเมริกาที่ซื้อกระดาษดั๊บเบิ้ล เอ 1 รีม ร่วมกันส่งต่อต้นกระดาษ 1 ต้น ให้เกษตรกรหรือชาวนาไทยนำต้นกระดาษไปปลูกบนคันนาของตนเอง ด้วยการใช้โทรศัพท์มือถือสมาร์ตโฟนซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งระบบแอนดรอยด์และไอโอเอส สแกน QR Code ที่อยู่บนรีมกระดาษดั๊บเบิ้ล เอ ทุก QR Code ที่สแกน เท่ากับจำนวนต้นกระดาษที่จะมอบให้ชาวนาหรือเกษตรกรปลูกบนคันนาในพื้นที่จริง นอกจากนี้ยังสามารถเข้าร่วมกิจกรรมปลูกต้นกระดาษได้อีกช่องทางหนึ่ง คือ ผ่านเว็บไซต์ www.onedreamonetree.com เพียงลงทะเบียนส่งต่อต้นกระดาษ 1 ต้นต่อ 1 log in โดยแคมเปญนี้เริ่มในประเทศสหรัฐอเมริกาตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2562 จนถึง 29 กุมภาพันธ์ 2563 นับเป็นตัวอย่างความร่วมมือกันที่จะช่วยดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมบนโลกใบนี้ โดยประมาณการว่า จะสามารถช่วยโลกดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์เพื่อช่วยลดโลกร้อนได้ 30,100 ตัน หากสามารถปลูกได้เต็มจำนวนเป้าหมายที่ตั้งไว้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ