จาก 1 วันที่ “สมัคร คัดเลือก ตัดสิน” จนถึงวันนี้พวกเรา I’m Ready พร้อมแล้ว!!!

ข่าวบันเทิง Friday February 29, 2008 16:55 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--29 ก.พ.--อาร์เอส
จากผู้สมัครกว่า 2 พันคนจากโครงการ “R U Ready To Be A Singer” !! ผู้ที่เข้าแข่งขันต้องมาประชัน ขับเคี่ยว ตั้งแต่เช้าจนค่ำ และที่สุดก็ได้หนุ่มสาวผู้ชนะเลิศทั้ง 10 คน พวกเขาและเธอเป็นใครกัน และเข้ามายืนตรงจุดนี้ได้ยังไงกัน ไปทำความรู้จักกับพวกเขาได้กับ I’m Ready
โครงการนี้เกิดขึ้นได้ยังไง ทำไมทุกคนถึงมาอยู่ในโปรเจคนี้ได้?
I’m Ready : ก็พวกเราทั้ง 10 คนนะคะเป็นผู้ที่ได้รับคัดเลือกมาจากโครงการประกวด “R U Ready to be a Singer by LCH” ค่ะ จัดขึ้นที่เอสพลานาดวันที่ 16 ตุลาคมที่ผ่านมา หลังจากนั้น 2 เดือนพวกเราก็ได้ผ่านมาเทรนนิ่งหลายๆ อย่างเลยทั้ง เต้น ร้องเพลง แล้วก็แอคติ้งจนพวกเราพร้อมจะทำโปรเจคพิเศษนี้ จนตอนนี้ปล่อยซิงเกิลออกมาเพลง 2 เพลงแล้วคือ “Sad Birthday” กับ “Lonely Valentine”
เนื้อหาเพลง “Sad Birthday”?
บอส I’m Ready : ก็เป็นป็อบแล้วก็อาร์แอนด์บีผสมกันครับ เนื้อหาของเพลงก็ในวันเกิดหลายๆ คนอาจจะมีความสุขใช่ไหมครับ แต่ใครบางคนอาจจะเศร้าอยู่ก็ได้ครับ ถ้าอยากรู้ว่าเป็นยังไงก็ติดตามได้ในเพลง “Sad Birthday” ค่ะ
สำหรับ “Lonely Valentine”?
หลิน I’m Ready : เพลงนี้ก็มีเนื้อซึ้งๆ นะคะเหมาะกับคนโสดที่ยังไม่มีคู่นะคะ
I’m Ready : ก็ว่า 2 เพลงนี้นะคะจะต้องโดนใจเพื่อนๆ หลายคนกันแน่ๆ เลย 2 เพลงที่เราได้มาก็คือ “พี่แม็ค ACAPPELLA7” เป็นโปรดิวเซอร์ของเรา และก็เป็นคนเขียนเพลงด้วยนั่นเองทำให้พวกเรามีเพลงที่เพราะขนาดนี้ แต่นั่นก็เป็นเพราะพวกเราเสียงดี (ขำ!! กล้าพูด)
ก่อนจะมาเป็น I’m Ready ของ “ซี I’m Ready”?
I’m Ready : ก็ต้องพูดก่อนเลยว่าวันที่เข้าประกวดวันนั้นเนี่ยการคัดเลือกมีทั้งหมด 3 อย่าง เราก็ต้องผ่านทุกอย่างให้ได้จนเข้ามาเป็นพวกเรา 10 คน
ซี I’m Ready : วันนั้นก็เป็นบรรยากาศที่ตื่นเต้นมากเพราะว่าคนเยอะจนล้นออกมานอกห้างเอสพลานาด คนเยอะมากค่ะจนแบบซีท้อในตอนแรก เพราะไม่ไหวที่จะต่อแถวออกมา ก็คือ 10 โมงแล้วแดดเปรี้ยงๆ มันไม่ไหวแน่ๆ ถ้าจะต่อแถวข้างในก็ต้องต่อข้างนอก ซึ่งซีก็แบบกลับบ้านเถอะ คือเพื่อนชวนมาไงคะ ซีก็แบบสมัครเหอะเดี๋ยวเราเข้าไปรอในห้างในเย็นๆ ตัวเองก็ยืนรอตรงนี้ล่ะกัน จนช่วงเขาใกล้ๆ ปิดรับสมัครก็ไม่มีคนแล้วพี่ชายซีก็บอกว่าไหนๆ มาแล้วไม่อยากให้เสียเที่ยวลองดู ตกรอบแรกก็จะได้กลับบ้านเลย เขาพูดแบบนี้
หวังไหมว่าจะเข้ารอบ?
ซี I’m Ready : ไม่ได้หวังค่ะ มาเป็นเพื่อนของเพื่อน
คือไม่ได้ตั้งใจสมัครใช่ไหม?
ซี I’m Ready : ค่ะ คืออย่างรูปเนี่ยซีมีอยู่ในกระเป๋าอยู่แล้วค่ะ ไปสมัครก็ที่นั่น บัตรประชาชนก็ไปซีร็อกแถวนั้น ตอนแรกซีไม่ได้หวังอะไรค่ะเพราะว่าเห็นคนเยอะ และก็ไม่ได้คิดว่าซีเก่ง แต่พอผ่านรอบแรกตรงแคสติ้งแล้วซีก็เริ่มหวังขึ้นมานิดนึง คือเพื่อนซีที่ไปกับซีรอบแรกไม่มีใครผ่านเลยค่ะ ซีก็เลยแบบอย่างน้อยก็ผ่านมาได้แล้วนะก็น่าจะลุ้นหน่อยก็เลยตั้งใจหน่อย และผ่านเข้ามาเป็น 10 คน I’m Ready นี่ค่ะ
ก่อนจะมาเป็น I’m Ready ของ “แมธธิว I’m Ready”?
แมธธิว I’m Ready : อยากจะบอกว่าวันนั้นตอนแรกผมไม่ได้ตั้งใจจะไปประกวด แต่ว่าอยากจะเป็นนักร้องฮะ แล้วโครงการดีมากแบบคอนเซ็ปต์คือตัดสินในวันนั้นเลยไม่ต้องเข้าค่ายอะไรแบบนี้ครับ แต่ว่าวันรุ่งขึ้นผมต้องไปสอบวิชาที่ยากมากก็เลยตัดสินใจอยู่นาน แต่ว่าเอาน่า!! เราอยากเป็นนักร้องก็ไป ไปถึงปุ๊บคนเยอะมากเกือบ 2 พันคน ล้นออกมานอกห้างเอสพลานาด แล้วแต่ละคนเสียงดีมาก โอ้โห!! จะสู้เขาได้รึเปล่า แต่ก็ผ่านเข้ารอบได้ ก็โอเคครับ ผ่านรอบแรกแล้วก็ขึ้นร้องรอบ 2 ครับ ผมโดนมาแล้วรอบนั้นคือมีคนยกศูนย์ 2 อัน คือไม่เอา 2 คน รอบนั้นตกหมดเลย 6 คน ก็ช็อคไปแต่ว่าตอนนั้นเราทำไม่ดีจริงๆ กำลังจะกลับบ้านแล้วแต่พี่เขาบอกว่าในกฎไม่ได้ห้ามว่าไปต่อคิวอีกครั้งไม่ได้ ผมเลยไปเข้าคิวอีกครั้งนึงเพราะยากเป็นมาก และก็ปรึกษากับพ่อแม่แบบเครียดมากแบบเอาไงดี เพราะเสียเวลาอ่านหนังสือเยอะมาก ผมอยากกลับบ้านแต่แม่กับพ่อเชียร์ให้อยู่ เสร็จรอบ 2 ปรากฎว่าทำได้ครับ ก็เลยมาเป็น I’m Ready ครับ
ก่อนจะมาเป็น I’m Ready ของ “วี I’m Ready”?
วี I’m Ready : ต้องย้อนกลับไปนิดนึงว่าก่อนหน้านั้นก็เห็นโครงการ “R U Ready” โปรโมทอยู่ในทีวีบ้าง แต่ตอนแรกก็ยังเฉยๆ คิดว่าก็คือโครงการประกวดโครงการหนึ่งเท่านั้นเองไม่ได้คิดว่าจะเข้ามาประกวดแต่เพื่อนชวนมาครับ ลองไปประกวดดูขำๆ อะไรอย่างนี้ ก่อนหน้านั้นก็เตรียมตัวมาตั้ง 1 คืนแน่ะ วันนั้นก็เข้าไปเจอด่าน 1-2-3 อย่างที่แมธธิวบอก ด่าน 1 ก็เจอฝ่ายแคสติ้งซึ่งเราก็ผ่านเข้ามาได้ พอเจอด่าน 2 ก็ขึ้นไปร้องเพลงบนเวทีทั้งหมด 6 คน เอาแค่ 1 คนเท่านั้นแล้วผมก็ดันได้เข้ามาอีก ซึ่งก็เหมือนกับว่าจริงหรอ ทำไมเราได้เข้ารอบล่ะ คือผมจะบอกว่าเวทีนี้เป็นโครงการแรกเลยครับที่ผมเข้ามาประกวดซึ่งได้เข้ามาถึงรอบสุดท้ายก็แบบดีใจมากแล้ว เราไม่ได้หวังว่าจะได้เข้ามาถึงตรงนี้ แต่พอมาถึงรอบสุดท้ายแล้วเราก็ มันเป็นไปได้ไง!!! ตื่นเต้นมากครับ พอรอบสุดท้ายแล้วก็หวังอีกนิดนึงแล้วกัน ขอให้เข้ารอบ 10 คนแล้วกัน สุดท้ายเราก็ติดอีกพอติดแล้วก็ตื่นเต้น แล้วเขาก็จะคัดจาก 10 คนเหลือ 5 คนสุดท้ายสำหรับผู้ชายนะครับ แล้วผมก็ได้เป็นคนที่ 5 คนสุดท้ายของผู้ชายพอดี ซึ่ง ณ วินาทีนั้นก็ตื่นเต้นมาก รู้สึกแบบดีใจสุดๆ ไปเลย ก็ได้มาเป็น I’m Ready ครับ
ก่อนจะมาเป็น I’m Ready ของ “จ๊ะโอ๋ I’m Ready”?
จ๊ะโอ๋ I’m Ready : สำหรับแรงบันดาลใจที่ทำให้จ๊ะโอ๋เข้ามาประกวด “R U Ready” ต้องบอกก่อนเลยว่าคุณแม่จ๊ะโอ๋เป็นนักร้องค่ะ นักร้องตามร้านอาหารอะไรอย่างนี้ค่ะ จ๊ะโอ๋ก็จะได้ยินแม่เปิดเพลงมาตั้งแต่เด็กๆ เลย เหมือนกับมันเข้ามาอยู่ในกระแสเลือดแล้วก็เลยรักการร้องเพลงมาตั้งแต่เด็กๆ แต่จ๊ะโอ๋ไม่เคยเรียนร้องเพลงหรือไปประกวดที่ไหนมาก่อนเลย ต้องบอกว่าเวทีนี้เป็นเวทีแรก มันเป็นการเริ่มต้นของจ๊ะโอ๋เลย ก่อนจะมาถึงเอสพลานาดเนี่ยมั่นใจมากว่าเราซ้อมมาตั้งอาทิตย์ 2 อาทิตย์ได้แน่นอน แต่พอมาเห็นคนเท่านั้นล่ะ โห!!! เยอะเนาะ เยอะกว่าที่คิดไว้เยอะเลย แต่ละคนเขาเรียนมาเต็มที่ เต้นแบบสุดยอด จ๊ะโอ๋ไม่เป็นเลย เต้นก็ไม่เป็น บุคลิกก็ห้าวๆ แบบนี้จะได้หรอ แต่ก็อย่างที่บอกว่าจ๊ะโอ๋ตั้งใจจะมาประกวดอยู่แล้วนะคะ ก็เลยช่างมันเถอะเวทีแรกไม่ได้ก็ไม่เป็นไรถือว่ามาหาประสบการณ์เอา เราก็แหม!! แต่ละคนกว่าจะได้ต้องผ่านหลายเวที จ๊ะโอ๋เนี่ยเวทีแรกยังชิลชิล รอบแรกผ่านไปจนถึงด่านที่ 2 เราก็เอ้ย!! ด่านที่ 2 แล้วนะจ๊ะโอ๋ มันเป็นไปได้ยังไง ด่านที่ 2 เนี่ยตอนแรกกรรมการหนักใจมากค่ะไม่รู้ว่าจะเอาเบอร์ไหนดี จ๊ะโอ๋แบบตายล่ะ 6 คนเอาคนเดียวไม่ใช่ฉันแน่นอน เพราะยืนข้างๆ สวยๆ ทั้งนั้นเลยค่ะแล้วร้องก็เพราะ หุ่นก็ดี วันนั้นไปฟิตเนสมาเพิ่งเล่นบาสเสร็จใส่ชุดวอร์มมาเลย เรานี่โหยไม่ได้เรื่องแต่งตัวก็แบบอะไรก็ไม่รู้ กรรมการยกพร้อมกันเลยค่ะเบอร์ 3 จ๊ะโอ๋อยู่เบอร์ 3 แบบยกพร้อมกัน 3 คนเลย คะแนนเอกฉันท์มาก ตกใจแทบเป็นลม คือลงเวทียังงงๆ อยู่เลยว่าได้ยังไง ก็รอจนรอบสุดท้ายที่ต้องร้องเพลงบังคับเพลงนึงขื่อเพลงว่า “ตามใจปาก” ของขนมจีนค่ะ จ๊ะโอ๋ได้ท่อนฮุคพอดีก็ถือว่าเป็นดวงของเรามาก ตอนร้องก็ไม่คิดว่าได้แล้วเพราะไปเจอดาวกับพริมซึ่งถือว่าเสียงดีทั้งคู่ สุดท้ายคะแนนออกมาติดด้วย งงกันเลยทีเดียว!!! จนได้มาเป็น I’m Ready
ก่อนจะมาเป็น I’m Ready ของ “พริม I’m Ready”?
พริม I’m Ready : สำหรับการสมัครคุณแม่พริมเขาไปเห็นโฆษณาโครงการนี้ทางหนังสือพิมพ์ที่ว่า “สมัคร คัดเลือก ตัดสิน ในวันเดียว” แล้วตัวพริมเรียนร้องเพลงมาตั้งแต่เด็กๆ และก็ลงประกวดเรื่อยๆ พอมาเห็นโครงการนี้ก็รู้สึกว่าน่าสนใจค่ะ แค่ชื่อก็น่าสนใจแล้วใช่ไหมคะ ไม่คิดว่าจะได้เป็นจริงๆ เพราะนักร้องบางคนเป็นปีๆ กว่าจะได้เป็นจริงๆ ก็เลยไปลองดูไหนๆ โอกาสแบบนี้ก็เข้ามาแล้วก็ต้องลองไขว่คว้ากันเอาไว้ ใช่ไหมคะ!!
ก่อนจะมาเป็น I’m Ready ของ “โค้ก I’m Ready”?
โค้ก I’m Ready : วันประกวดวันนั้นโค้กเป็นคนชวนเพื่อนๆ ไป ก็ไปกัน 10 กว่าคนครับ ก็ยังไม่รู้สึกตื่นเต้นเท่าไรแต่พอโค้กได้ผ่านรอบแรกไปเท่านั้นล่ะครับมือสั่นเลย พอผ่านรอบสองโค้กไม่ได้หวังเลยนะว่าจะต้องเข้ารอบ เราบังเอิญมาหาประสบการณ์ จนผ่านเข้ารอบ 3 ปั๊บตอนนี้ก็คัดมาเหลือชาย 5 คน หญิง 5 คนแล้วก็รู้สึกแบบตื่นเต้นมากๆ ไม่รู้ว่าตัวเองจะได้รึเปล่า พอเขาเรียกเราเป็นชื่อแรกของ 1 ใน 5 คนเราก็เอ้ย!! ได้แล้วหรอ วันนั้นแบบไม่มีกระโดดโลดเต้นแบบยิ้มอย่างเดียว วันนั้นโค้กก็ถือเคล็ดแบบที่บ้านจะโทรมาถามว่าเป็นยังไงบ้าง ไปถึงไหนแล้ว โค้กก็จะไม่รับโทรศัพท์เลยตัดสายอย่างเดียวจนเข้ามาได้ครับ
ก่อนจะมาเป็น I’m Ready ของ “บิ๊ก I’m Ready”?
บิ๊ก I’m Ready : พูดถึงแรงบันดาลใจก่อน ตอนเด็กๆ บิ๊กชอบร้องเพลงแล้วก็ฟังเพลง ผมเป็นคนอยุธยาก็ชอบฟังเพลงลูกทุ่ง ลูกกรุงตลอดเลย เราก็อยากร้องเพลงแบบอยากสัมผัสว่าถ้าเราขึ้นไปยืนอยู่บนเวทีเราจะรู้สึกยังไง ผมก็ไปเรียนร้องเพลงครับ แม่ก็ส่งเสริมให้เรียน แต่แปลกอย่างนึงให้ผมไปเรียนกับคณะลิเก ให้หัดเริ่มร้องจากเพลงลูกทุ่งก่อน
แล้วมาเปลี่ยนแนวเป็นสตริงค์ตอนไหน?
บิ๊ก I’m Ready : เปลี่ยนตอนที่ผมไปเรียนแถวๆ อโศกไปเรียนร้องเพลงครับ ก็หาเงินไปเรียนเองครับ แบบรักการ้องเพลงมาก ผมไม่เคยขอเงินแม่สักบาทนึง ไม่เคยบอกด้วยว่าไปเรียนร้องเพลง ตอนนั้นไปเรียนเกือบจะปีแล้วมาเจอโครงการ “R U Ready” ก็เลยลองมาสมัครดู ตอนแรกผมว่าจะไม่มาตื่นเต้นมาก คืนก่อนที่จะประกวดคือไม่ได้นอนเลยครับ คนต้องเยอะแน่เลย เราจะได้ไหม อะไรแบบนี้ครับ เชื่อไหมว่าผมไปกับเพื่อนเกือบ 20 ชีวิต แล้วเชื่อไหมว่าเพื่อนผม 10 กว่าคนตกรอบสองครับ แล้วไม่ผ่านรอบ 3 สักคนเลย มีผมผ่านไปรอบ 3 คนเดียว ถ้าวันนั้นผมไม่ประกวดคงจะเสียใจนะ ถ้ารู้ว่าตัวเองจะได้ ได้เข้ามาเป็น 10 คนใน I’m Ready ก็ดีใจครับ
ก่อนจะมาเป็น I’m Ready ของ “ดาว I’m Ready”?
ดาว I’m Ready : คือดาวก่อนหน้านี้ก็เป็นคนที่ชอบเกี่ยวกับการเต้น ฟังเพลงอะไรแบบนี้มาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว กิจกรรมในโรงเรียนและนอกโรงเรียนก็เยอะพอสมควร เพราะดาวเรียนอย่างเดียวเลย งานออกประกวดไม่ค่อยมีส่วนใหญ่จะเป็นงานโชว์มากกว่า เราเจอโครงการนี้จากโทรทัศน์และวิทยุที่กำลังโปรโมทอยู่ ตอนแรกคิดว่ามันยากก็จะไม่มา แต่พี่ชายบอกว่าให้มาเป็นเพื่อนหน่อย พี่ชายก็มาประกวดแต่พี่ชายไม่ได้ค่ะ ตอนประกวดพอเราเดินเข้าไปในเอสพลานาดปุ๊บก็มีพี่พิธีกรค่ะที่เขาสัมภาษณ์เขาก็มาถามใหญ่เลยว่า รู้สึกยังไงกับโครงการนี้ ใครพามา ขอโชว์นิดนึงได้ไหม ดาวก็ไม่เอาดีกว่า ตรงนั้นก็เลยทำให้ดาวหายตื่นเต้นไปหน่อยนึงแล้ว พอพี่เขาสัมภาษณ์เสร็จดาวก็เริ่มเข้าไปสมัครเลย ดาวได้เบอร์ 181 ค่ะ ตอนแรกคิดว่าเขาจะเรียงคิวเข้าไปมันคงจะยาวน่าดู ก็เลยขึ้นไปเดินข้างบนร้องคาราโอเกะ เล่นโบลิ่งกับเพื่อนก่อนเสร็จแล้วก็ลงมา ดาวใช้เพลงเร็วทั้ง 2 รอบเลยค่ะ เพลง “หายไปกับดอกไม้” ทั้งรอบแรกและรอบ 2 ในรอบ 2 เซ็ตของดาว 6 คนคือเป็นผู้หญิงแล้วสวยหมดเลย เสียงดีทุกคน ดาวไม่คิดว่าดาวจะได้แต่พอประกาศมาปุ๊บ 115 ดาวหมายเลข 1 นี่นา เราก็ดีใจแบบว่าหันไปหาแม่แล้วก็ขอบคุณค่ะ เสร็จก็เดินลงไปเลย รอบ 3 ดาวได้เพลงเดียวกับพริมและก็จ๊ะโอ๋ ดาวร้องเพลงแล้วไม่ได้ยินเสียงตัวเองเลยลงมาแล้วนึกว่าเราจะทำพลาดอะไรรึเปล่า ตื่นเต้นด้วยค่ะ พอเขาประกาศผล 10 คน ดาวได้ประมาณคนที่ 8 ค่ะ พอเขาประกาศ 0181 เราก็ของตัวเองนี่นาก็เลยเดินขึ้นไป พอขึ้นไปเสร็จดาวก็ไม่คิดว่าติด 5 คนแน่นอน พอประกาศอีกทีแล้วรู้ว่าเราติด 5 คนและได้รางวัลพิเศษ “LCH Fresh and Good” ด้วยก็รู้สึกดีใจมากๆ ค่ะ
ก่อนจะมาเป็น I’m Ready ของ “บอส I’m Ready”?
บอส I’m Ready : ก็บอสอยากเป็นนักร้องครับ เวลามีโครงการประกวดอะไรบอสก็จะลองหมดทุกอย่างทั้งในมหาวิทยาลัย และนอกมหาวิทยาลัย คือเป็นเด็กกิจกรรมครับ ไปหลายเวทีแล้วครับก็ติดเข้ารอบแต่ยังไม่ถึงฝั่งฝันสักทีจนมาโครงการนี้ครับ ผมรู้ข่าวจากพี่แมธครับ เขาบอกว่าอาร์เอสมีโครงการ บอสก็จริงเปล่า ลองดู มันน่าสนใจเพราะว่าทำให้ฝันของเราเป็นจริงได้ภายในวันเดียว ก็เลยมาสมัครดูครับ วันที่สมัครคนเยอะครับแต่บอสก็ต่อคิวรอไป ตอนนั้นก็ตื่นเต้นมาก พอรับเบอร์บอสได้เลขสวยมาก 0333 ครับ ผมก็เอ้ย!! เลขสวยมีชัยไปกว่าครึ่งแล้วก็ลุยมาเรื่อยครับ พอตอนเพลงบังคับบอสเลือกเพลง “เวลาไม่เคยพอ” ของพี่แดนบีมครับ รอบสุดท้ายขึ้นพร้อมกับบิ๊ก บอสก็เต็มที่ฮะจนได้มาเป็น I’m Ready ครับ ผ่านมาได้ดีใจมากครับ
ก่อนจะมาเป็น I’m Ready ของ “หลิน I’m Ready”?
หลิน I’m Ready : คือหลินเป็นคนชอบร้องเพลงอยู่แล้วตั้งแต่เด็กๆ แล้วคุณแม่ก็ให้เรียนร้องเพลงมาเรื่อยๆ แล้วหลินก็ประกวดตามเวทีโน้นบ้างนี้บ้างอะไรอย่างนี้ ก็ได้รางวัลมาบ้างเล็กน้อย พอได้มาเจอโครงการนี้ “R U Ready” ก็เลยสนใจอยากจะเป็นศิลปินเพราะโครงการนี้เขามีคอนเซ็ปต์ที่ดีนะคะ “คัดเลือก ตัดสิน ภายในวันเดียว” ก่อนวันประกวดซ้อมมาเต็มที่ กินข้าวมาเต็มที่เลย มาตั้งแต่ 10 โมง หลินว่า 10 โมงก็ยังเช้านะแต่ว่าคนเยอะมาก แบบล้นออกมาเอสพลานาดเลย เห็นคนเยอะแบบนี้ก็รู้สึกท้อนิดหน่อยค่ะ แต่ว่าไม่เอาล่ะเราซ้อมมาหลายวันแล้วร้องดีกว่า ก็ต่อแถวรอ ก็เลือกเพลงของพี่ปาน-ธนพรค่ะ รอบแรกก็ผ่านมาได้ รอบ 2 ก็ร้องเพลงเดิมของพี่ปานเหมือนกันจนรอบที่ 3 หลินเลือกเพลง “หวง” ของพี่ปานค่ะ ตอนนั้นร้องท่อนฮุคพอดีก็เลยช่วยส่งให้พลังเสียงกังวานกระจาย (ขำ) ก็ผ่านมาได้ค่ะ ตอนแรกที่เขาประกาศ 10 คนเนี่ยหนูก็ได้ขึ้นมาเป็นคนที่ 2 ก็คิดว่าเราคงได้แค่ 10 คนแหละคงไม่ถึง 5 คนสุดท้ายหรอก ความสามารถเราก็ไม่ได้ดีเลิศเลอ หน้าตาก็ขี้ริ้วขี้เหร่ พอเขาประกาศ 5 คนก็รู้สึกตกใจมาก พอเดินออกมานึกแต่คำว่า “ศิลปิน” ดีใจมาก ตอนที่ได้เซ็นสัญญานี่แบบสุดๆ ค่ะ ก็รู้สึกว่าเราได้เป็นศิลปินแล้ว มาทำเพลงกับเพื่อนๆ พี่ๆ เป็น I’m Ready ค่ะ
I’m Ready อยากบอกกับเพื่อนๆ ว่า?
I’m Ready : โปรเจคพิเศษนี้พวกเรา I’m Ready ทั้ง 10 คนก็ตั้งใจมาก และก็ใส่ใจลงไปในเพลงด้วย ก็อยากได้ติดตามผลงานเพลงของพวกเรานะคะ ออกมาแล้ว 2 เพลงคือ “Sad Birthday” และ “lonely Valentine” เพื่อนๆ ก็สามารถดู MV และดาวน์โหลดได้แล้วที่ www.youdumv.com นะคะ

แท็ก อาร์เอส   ก.พ.  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ