เต็ดตรา แพ้ค ประเทศไทย จัดโครงการปลูกป่า 1,000 ต้น ฉลองวันสิ่งแวดล้อมไทย

ข่าวทั่วไป Monday December 2, 2019 12:42 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--2 ธ.ค.--มิดัส คอมมิวนิเคชั่น อินเตอร์เนชั่นเนล เต็ดตรา แพ้ค ประเทศไทย ผู้นำเสนอโซลูชั่นการแปรรูปและบรรจุภัณฑ์สำหรับอาหารชั้นนำของโลก ประกาศการร่วมดำเนินโครงการกับ อีโคแมตเชอร์ (EcoMatcher) ผู้นำด้านแพล็ตฟอร์มการปลูกต้นไม้ ในการปลูกป่า 1,000 ต้น เพื่อร่วมฉลองเนื่องในวันสิ่งแวดล้อมไทยซึ่งตรงกับวันที่ 4 ธันวาคมของทุกปี โดย คอนเสิร์ฟ เนเชอรัล ฟอเรสต์ (Conserve Natural Forests) องค์กรพันธมิตรด้านการปลูกต้นไม้ของอีโคแมตเชอร์ จะรับหน้าที่เป็นผู้ปลูกต้นไม้ในโครงการ ซึ่งโครงการนี้ยังถือเป็นการเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของเต็ดตรา แพ้ค ในการขับเคลื่อนการพัฒนาด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม โดยครั้งนี้ผ่านการสนับสนุนการปลูกป่าและการอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าในประเทศไทย ป่า 1,000 ต้น ภายใต้ชื่อ เต็ดตรา แพ้ค ประเทศไทย แห่งนี้จะปลูกขึ้นในอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยอีโคแมตเชอร์จะติดตามเก็บข้อมูลของต้นไม้ที่ได้ปลูกไปทุกต้น และส่งข้อมูลกลับมาทางอีเมลให้กับบริษัท ซึ่งทำให้พนักงานของเต็ดตรา แพ้ค สามารถเข้าไปติดตามต้นไม้เหล่านั้นได้ผ่านระบบ TreeTracker ของอีโคแมตเชอร์ และรับทราบรายละเอียดของต้นไม้ทุกต้นในป่าที่ดำเนินการปลูกโดยบริษัท พนักงานแต่ละคนจะสามารถชื่นชมต้นไม้ของตน รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับพื้นที่ปลูกต้นไม้ ดูพื้นที่ปลูกต้นไม้แห่งอื่นๆ ของเต็ดตรา แพ้ค เชื่อมโยงกับผู้ที่ปลูกต้นไม้เหล่านี้ และรับทราบข้อมูลการดูดซับคาร์บอนของต้นไม้ (ดูผลกระทบเชิงบวกต่อโลกที่เกิดจากต้นไม้ของตนเอง) รวมถึงการ "พูดคุย" กับต้นไม้เหล่านี้ด้วยเทคโนโลยีแชตบอต (Chatbot) ใหม่ล่าสุด เต็ดตรา แพ้ค ตระหนักถึงความจำเป็นในการสร้างสมดุลระหว่างความมุ่งมั่นเพื่อการเติบโตทางธุรกิจและความรับผิดชอบพื้นฐานขององค์กรต่อคู่ค้าทางธุรกิจ ต่อพนักงาน ต่อชุมชน และต่อสิ่งแวดล้อม การร่วมโครงการกับอีโคแมตเชอร์ ผู้นำเสนอโซลูชั่นสู่ความยั่งยืนที่โปร่งใสเพื่อรับมือกับภาวะการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศโลกและการตัดไม้ทำลายป่า โดยใช้แพล็ตฟอร์มเทคโนโลยีที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์การเรียนรู้ที่สนุกสนานและมีส่วนร่วมให้แก่ผู้ใช้งาน จึงเอื้อให้พนักงานเต็ดตรา แพ้ค ได้เข้าร่วมในโครงการผ่านสื่อออนไลน์และเป็นส่วนหนึ่งบนเส้นทางสู่ความยั่งยืนของบริษัทได้ เกี่ยวกับเต็ดตรา แพ้ค เต็ดตรา แพ้ค เป็นบริษัทผู้นำของโลกในด้านกระบวนการผลิตและบรรจุอาหาร เราทำงานอย่างใกล้ชิดกับผู้ขายสินค้าและลูกค้าของเรา ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัย เป็นนวัตกรรมที่ทันสมัย เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และตอบสนองความต้องการของผู้คนนับล้านในกว่า 160 ประเทศ ด้วยพนักงานมากกว่า 24,000 คน ทั่วโลก เต็ดตรา แพ้ค เชื่อมั่นในความเป็นผู้นำอุตสาหกรรมที่มีความรับผิดชอบและแนวทางการดำเนินธุรกิจที่ยั่งยืน คำขวัญของเต็ดตรา แพ้คที่ว่า "ปกป้อง ทุกคุณค่า" (PROTECTS WHAT'S GOOD) นั้น สะท้อนให้เห็นถึงปรัชญาในการดำเนินธุรกิจของเราที่จะทำให้อาหารปลอดภัยและมีอยู่พร้อมสำหรับการบริโภคในทุกๆ ที่ทั่วโลก สามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเต็ดตรา แพ้ค ได้ที่ www.tetrapak.com/th เกี่ยวกับ PLANET POSITIVE เมื่อเร็ว ๆ นี้ เต็ดตรา แพ้ค ได้เปิดตัวแคมเปญ Planet Positive เพื่อกระตุ้นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในกลุ่มอุตสาหกรรมให้มุ่งสู่ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนแบบคาร์บอนต่ำ การเคลื่อนไหวครั้งนี้ แสดงถึงแนวทางการคิดรูปแบบใหม่ที่เน้นการกระตุ้นทั้งซัพพลายเออร์ คู่ค้าทางธุรกิจ และภาคธุรกิจต่าง ๆ ให้หันมามองร่วมกันถึงประเด็นปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมทั่วโลกในด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและขยะ โดยเปิดมุมมองด้านความยั่งยืนให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น มากไปกว่าการรีไซเคิลและการใช้ซ้ำ โดยรวมไปถึงผลกระทบจากการปล่อยก๊าซคาร์บอนจากวัตถุดิบและอุตสาหกรรมการผลิต ด้วยสำนึกพื้นฐานว่าบรรจุภัณฑ์ควรมีความคุ้มค่ามากกว่าราคาของตัวเอง ทำให้แนวคิดความยั่งยืนกลายเป็นหลักการสำคัญในการดำเนินธุรกิจของเต็ดตรา แพ้ค และด้วยความตระหนักถึงความสำคัญของการแก้ไขปัญหาผลกระทบทั้งหมดจากการดำเนินธุรกิจ เต็ดตรา แพ้ค จึงพยายามใช้พลังงานแบบคาร์บอนต่ำ ยกระดับประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ลดปริมาณขยะอาหาร และลดผลกระทบต่อทรัพยากรที่ใช้ทั้งพื้นที่ดินและน้ำ บริษัทตั้งเป้าหมายในการผลิตบรรจุภัณฑ์ที่ทำจากพืชหรือวัสดุบรรจุภัณฑ์รีไซเคิล และทั้งหมดต้องสามารถนำกลับมารีไซเคิลได้โดยยังคงมาตรฐานด้านความปลอดภัยทางอาหารโดยสมบูรณ์ ในขณะเดียวกัน เต็ดตรา แพ้ค ยังมุ่งมั่นลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้ถึง 42% ภายในปี พ.ศ. 2573 และ 58% ภายในปี พ.ศ. 2583 โดยเปรียบเทียบกับการดำเนินงานในปี พ.ศ. 2558 ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับแคมเปญ Planet Positive ที่ www.tetrapak.com/sustainability/planet-positive

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ