สคร.11 ร่วมจัดกิจกรรมรณรงค์ วิ่งไล่ยุง ป้องกันโรคไข้เลือดออก

ข่าวทั่วไป Monday January 13, 2020 11:04 —ThaiPR.net

สคร.11 ร่วมจัดกิจกรรมรณรงค์ วิ่งไล่ยุง ป้องกันโรคไข้เลือดออก กรุงเทพฯ--13 ม.ค.--สคร.11 วันที่ 10 ม.ค. 63 นายศิริพัฒ พัฒกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมรณรงค์ ชุมชนปลอดยุง"วิ่งไล่ยุง" ณ รพ.สต.บ้านทุ่งแย้ ตำบลโพธิ์เด็จ อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 11 จังหวัดนครศรีธรรมราช ร่วมดำเนินการกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านทุ่งแย้ สำหรับกิจกรรมรณรงค์ในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความตระหนักในการมีส่วนร่วมในการป้องกันและทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลายอย่างจริงจัง ซึ่งรัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพและสิ่งแวดล้อม โดยเน้นการเสริมสร้างความเข้มแข็ง ให้ประชาชนในการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรค ในชุมชนตนเอง โดยเฉพาะ อสม. มีบทบาทสำคัญในการเคาะประตูบ้านเพื่อสำรวจและทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ลุกน้ำยุงลาย ประชาชนและภาคีเครือข่ายในพื้นที่ ร่วมเป็นพลังชุมชนขับเคลื่อนป้องกันและทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลายด้วยวิธีที่เหมาะสม สอดคล้องกับบริบทในชุมชน รวมทั้งสนับสนุนให้ประชาชนได้ออกกำลังกาย ทำให้มีสุขภาพที่ดีห่างไกลจากโรคและภัยสุขภาพ กิจกรรมในครั้งนี้ประกอบด้วย ขบวนเดิน-วิ่ง รณรงค์กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ ลดโรคไข้เลือดออก และไข้ปวดข้อยุงลาย ระยะทาง 2 กิโลเมตร แจกสื่อประชาสัมพันธ์ และจัดบู๊ทนิทรรศการให้ความรู้เรื่องโรคไข้เลือดออก มีผู้เข้าร่วมกิจกรรม ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่สาธารณสุข เจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อาสาสมัครสาธารณสุข และประชาชนตำบลโพธิ์เสด็จ พญ.ศิริลักษณ์ ไทยเจริญ กล่าว จากสถานการณ์โรคไข้เลือดออกในประเทศไทย ปี 2562 พบผู้ป่วยโรคไข้เลือดออก 125,235 ราย เสียชีวิต 131 ราย สูงกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลังถึง 2 เท่า สำหรับจังหวัดนครศรีธรรมราช พบผู้ป่วยโรคไข้เลือดออก 4,283 ราย เสียชีวิต 12 ราย และยังพบผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกสูง ในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช และตำบลโพธิ์เสด็จ ทั้งนี้หากประชาชน โดยเฉพาะเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัว มีอาการสงสัยเป็นโรคไข้เลือดออก เช่น ไข้สูง โดยฉับพลัน ปวดเมื่อย หน้าตาแดง อาจมีผื่นขึ้นใต้ผิวหนังตามแขนขา ข้อพับ ต้องรีบไปพบแพทย์ทันที ประชาชนสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ