![OYO มียอดผู้เข้าพักในไทยกว่า 1 ล้านคนภายใน 3 เดือน นับตั้งแต่เปิดให้บริการในประเทศไทย โอโย ก้าวขึ้นเป็นเชนโรงแรมอันดับ 1 ในประเทศไทย]()
กรุงเทพฯ--27 ม.ค.--สปาร์ค คอมมิวนิเคชั่นส์
OYO Hotels & Homes (โอโย โฮเทลส์ แอนด์ โฮมส์) เชนโรงแรมที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก ได้ต้อนรับผู้เข้าพักในประเทศไทย ที่จองผ่านเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน OYO แล้วมากกว่า 1 ล้านคน ในระยะเวลาน้อยกว่า 3 เดือน ถือเป็นอีกหนึ่งไมล์สโตนที่สำคัญ นับตั้งแต่เริ่มให้บริการอย่างเป็นทางการในประเทศไทย เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2019 ที่ผ่านมา
โอโยนำเอาดีไซน์ หลักการให้บริการ ความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและด้านการเงิน รวมถึงความสามารถในการดำเนินธุรกิจ มาปรับใช้ให้เข้ากับอุตสาหกรรมการบริการในประเทศไทย ทำให้ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมกับโอโยมีรายได้เพิ่มขึ้น และบริหารที่พักภายใต้แบรนด์โอโย ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ประเทศไทย ถือเป็นประเทศที่ 5 ในทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่โอโยเลือกเข้ามาขยายธุรกิจ หลังจากประสบความสำเร็จในการขึ้นเป็นผู้นำตลาดธุรกิจโรงแรมในประเทศมาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลลิปปินส์ และเวียดนาม
ปัจจุบันโอโยมีโรงแรมในเครือมากกว่า 500 แห่ง และห้องพักกว่า 15,000 ห้อง ใน 25 เมืองในประเทศไทย โดยที่พักในเครือโอโยทุกแห่ง จะมีเครื่องปรับอากาศ ฟรี WiFi โทรทัศน์ รวมถึงบริการผ้าขนหนูและผ้าปูที่นอนที่สะอาด ให้แก่ผู้เข้าพักทุกคน
คุณอชูโตช สิงห์, ผู้อำนวยการบริหารประจำประเทศไทย, โอโย กล่าวว่า "นับตั้งแต่โอโยเริ่มให้บริการในประเทศไทย เราก็มีความมุ่งมั่นที่จะอำนวยความสะดวกในการจองที่พักให้กับผู้คน โดยการอัพเกรดที่พักในโลเคชั่นที่ดีทั่วประเทศ ซึ่งไม่ได้มีการทำการตลาด ให้กลายเป็นที่พักที่มีคุณภาพ ราคาเป็นกันเอง"
"หลังจากการต้อนรับผู้เข้าพักกว่า 1,000,000 คนใน 3 เดือนที่ผ่านมา เรายังคงยึดเอาความมุ่งมั่นของเราเป็นหนึ่งในหลักการดำเนินธุรกิจ และเราก็รู้สึกขอบคุณแขกผู้เข้าพัก รวมถึงพาร์ทเนอร์ของเราที่สนับสนุนเรามาอย่างต่อเนื่อง การมีห้องพักมากกว่า 15,000 ห้อง ที่พร้อมให้บริการในโรงแรมกว่า 500 แห่งทั่วประเทศ ในระยะเวลาเพียง 3 เดือน เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงบวก ที่เราสร้างขึ้นในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในประเทศ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มตัวเลือกให้แก่นักเดินทาง และสร้างรายได้ให้แก่พาร์ทเนอร์ของเรา"
คุณอชูโตช เสริมว่า "เรายังคงตั้งเป้าไว้ว่าจะขยายธุรกิจต่อไปในประเทศไทย การที่มีแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ๆ เกิดขึ้น เที่ยวบินขาเข้าที่เพิ่มขึ้น และการยกเว้นวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวจากประเทศอินเดีย ส่งผลให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาประเทศไทยมากขึ้น ประเทศไทยเป็นหนึ่งในจุดหมายยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวชาวอินเดียที่ไปเที่ยวต่างประเทศเป็นครั้งแรก ด้วยระยะทางที่สั้น และการเดินทางในประเทศที่ง่าย มีการให้บริการเที่ยวบินตรงกว่า 3,000 เที่ยว ระหว่างเมืองหลักและเมืองรอง รวมถึงภูเก็ต จากหลายสายการบิน"
"นอกจากนี้เรายังรู้สึกยินดี ที่ได้มีโอกาสพิจารณาร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ในการขยายการให้บริการของที่พักแบรนด์โอโย เพื่อตอกย้ำสถานะของประเทศไทย ในฐานะที่เป็นจุดหมายแห่งการท่องเที่ยวชั้นนำ และให้บรรลุเป้าหมายในการต้อนรับนักท่องเที่ยว 40.8 ล้านคนภายในเดือนธันวาคมปีนี้ที่ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยตั้งไว้ โอโยมีที่พักอยู่กว่า 500 แห่ง ใน 25 เมือง ซึ่งพร้อมมอบประสบการณ์การพักที่มีเอกลักษณ์ และความคุ้มค่าในการเข้าพักในทุก ๆ ครั้งให้แก่ผู้เข้าพักทุกคน"
โอโยได้ปฏิวัติเครือข่ายธุรกิจห้องพักราคาประหยัดในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยเพิ่มขีดความสามารถในการบริหารรายได้ การดำเนินการจัดการ และการใช้เทคโนโลยีอันทันสมัยมาช่วยต่อยอด ทำให้กลุ่มผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์อิสระขนาดเล็ก สามารถแข่งขันกับเครือโรงแรมขนาดใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ปัจจุบันโอโยมีที่พักอยู่ในมากกว่า 800 เมือง ใน 80 ประเทศทั่วโลก ซึ่งรวมถึงโรงแรมมากกว่า 2,500 แห่งที่อยู่ในแฟรนไชส์และที่เปิดให้เช่าในกว่า 250 เมืองทั่วประเทศมาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และไทย
เกี่ยวกับ OYO Hotels and Homes
OYO Hotels & Homes เริ่มเปิดให้บริการเมื่อปีพ.ศ. 2556 โดยปัจจุบันเป็นเครือข่ายธุรกิจโรงแรม บ้านพัก คอนโด การจัดการพื้นที่อยู่อาศัย และพื้นที่สำนักงานที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองของโลก พอร์ตโฟลิโอของโอโยรวมอสังหาริมทรัพย์ที่ดำเนินกิจการอย่างเต็มรูปแบบ ประกอบไปด้วยโรงแรมมากกว่า 35,000 แห่ง บ้านพักกว่า 125,000 หลัง และห้องพักกว่า 1.2 ล้านห้อง ในส่วนของบ้านพักตากอากาศ โอโยมีการดำเนินธุรกิจภายใต้ชื่อ OYO Homes, Belvilla, Danland, Dancenter และ Traum-Ferienwohnungen แบรนด์จากประเทศเยอรมนี ในมากกว่า 800 เมือง ใน 80 ประเทศทั่วโลก รวมถึงในสหรัฐอเมริกา ยุโรป สหราชอาณาจักร อินเดีย มาเลเซีย ตะวันออกกลาง อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น นอกจากนี้โอโยยังดำเนินธุรกิจให้เช่าบ้าน และธุรกิจการทำงานร่วมกันในบางประเทศ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถดูได้ที่ https://www.oyorooms.com/
![]()
กรุงเทพฯ--27 ม.ค.--สปาร์ค คอมมิวนิเคชั่นส์
OYO Hotels & Homes (โอโย โฮเทลส์ แอนด์ โฮมส์) เชนโรงแรมที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก ได้ต้อนรับผู้เข้าพักในประเทศไทย ที่จองผ่านเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน OYO แล้วมากกว่า 1 ล้านคน ในระยะเวลาน้อยกว่า 3 เดือน ถือเป็นอีกหนึ่งไมล์สโตนที่สำคัญ นับตั้งแต่เริ่มให้บริการอย่างเป็นทางการในประเทศไทย เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2019 ที่ผ่านมา
โอโยนำเอาดีไซน์ หลักการให้บริการ ความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและด้านการเงิน รวมถึงความสามารถในการดำเนินธุรกิจ มาปรับใช้ให้เข้ากับอุตสาหกรรมการบริการในประเทศไทย ทำให้ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมกับโอโยมีรายได้เพิ่มขึ้น และบริหารที่พักภายใต้แบรนด์โอโย ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ประเทศไทย ถือเป็นประเทศที่ 5 ในทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่โอโยเลือกเข้ามาขยายธุรกิจ หลังจากประสบความสำเร็จในการขึ้นเป็นผู้นำตลาดธุรกิจโรงแรมในประเทศมาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลลิปปินส์ และเวียดนาม
ปัจจุบันโอโยมีโรงแรมในเครือมากกว่า 500 แห่ง และห้องพักกว่า 15,000 ห้อง ใน 25 เมืองในประเทศไทย โดยที่พักในเครือโอโยทุกแห่ง จะมีเครื่องปรับอากาศ ฟรี WiFi โทรทัศน์ รวมถึงบริการผ้าขนหนูและผ้าปูที่นอนที่สะอาด ให้แก่ผู้เข้าพักทุกคน
คุณอชูโตช สิงห์, ผู้อำนวยการบริหารประจำประเทศไทย, โอโย กล่าวว่า "นับตั้งแต่โอโยเริ่มให้บริการในประเทศไทย เราก็มีความมุ่งมั่นที่จะอำนวยความสะดวกในการจองที่พักให้กับผู้คน โดยการอัพเกรดที่พักในโลเคชั่นที่ดีทั่วประเทศ ซึ่งไม่ได้มีการทำการตลาด ให้กลายเป็นที่พักที่มีคุณภาพ ราคาเป็นกันเอง"
"หลังจากการต้อนรับผู้เข้าพักกว่า 1,000,000 คนใน 3 เดือนที่ผ่านมา เรายังคงยึดเอาความมุ่งมั่นของเราเป็นหนึ่งในหลักการดำเนินธุรกิจ และเราก็รู้สึกขอบคุณแขกผู้เข้าพัก รวมถึงพาร์ทเนอร์ของเราที่สนับสนุนเรามาอย่างต่อเนื่อง การมีห้องพักมากกว่า 15,000 ห้อง ที่พร้อมให้บริการในโรงแรมกว่า 500 แห่งทั่วประเทศ ในระยะเวลาเพียง 3 เดือน เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงบวก ที่เราสร้างขึ้นในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในประเทศ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มตัวเลือกให้แก่นักเดินทาง และสร้างรายได้ให้แก่พาร์ทเนอร์ของเรา"
คุณอชูโตช เสริมว่า "เรายังคงตั้งเป้าไว้ว่าจะขยายธุรกิจต่อไปในประเทศไทย การที่มีแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ๆ เกิดขึ้น เที่ยวบินขาเข้าที่เพิ่มขึ้น และการยกเว้นวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวจากประเทศอินเดีย ส่งผลให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาประเทศไทยมากขึ้น ประเทศไทยเป็นหนึ่งในจุดหมายยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวชาวอินเดียที่ไปเที่ยวต่างประเทศเป็นครั้งแรก ด้วยระยะทางที่สั้น และการเดินทางในประเทศที่ง่าย มีการให้บริการเที่ยวบินตรงกว่า 3,000 เที่ยว ระหว่างเมืองหลักและเมืองรอง รวมถึงภูเก็ต จากหลายสายการบิน"
"นอกจากนี้เรายังรู้สึกยินดี ที่ได้มีโอกาสพิจารณาร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ในการขยายการให้บริการของที่พักแบรนด์โอโย เพื่อตอกย้ำสถานะของประเทศไทย ในฐานะที่เป็นจุดหมายแห่งการท่องเที่ยวชั้นนำ และให้บรรลุเป้าหมายในการต้อนรับนักท่องเที่ยว 40.8 ล้านคนภายในเดือนธันวาคมปีนี้ที่ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยตั้งไว้ โอโยมีที่พักอยู่กว่า 500 แห่ง ใน 25 เมือง ซึ่งพร้อมมอบประสบการณ์การพักที่มีเอกลักษณ์ และความคุ้มค่าในการเข้าพักในทุก ๆ ครั้งให้แก่ผู้เข้าพักทุกคน"
โอโยได้ปฏิวัติเครือข่ายธุรกิจห้องพักราคาประหยัดในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยเพิ่มขีดความสามารถในการบริหารรายได้ การดำเนินการจัดการ และการใช้เทคโนโลยีอันทันสมัยมาช่วยต่อยอด ทำให้กลุ่มผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์อิสระขนาดเล็ก สามารถแข่งขันกับเครือโรงแรมขนาดใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ปัจจุบันโอโยมีที่พักอยู่ในมากกว่า 800 เมือง ใน 80 ประเทศทั่วโลก ซึ่งรวมถึงโรงแรมมากกว่า 2,500 แห่งที่อยู่ในแฟรนไชส์และที่เปิดให้เช่าในกว่า 250 เมืองทั่วประเทศมาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และไทย
เกี่ยวกับ OYO Hotels and Homes
OYO Hotels & Homes เริ่มเปิดให้บริการเมื่อปีพ.ศ. 2556 โดยปัจจุบันเป็นเครือข่ายธุรกิจโรงแรม บ้านพัก คอนโด การจัดการพื้นที่อยู่อาศัย และพื้นที่สำนักงานที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองของโลก พอร์ตโฟลิโอของโอโยรวมอสังหาริมทรัพย์ที่ดำเนินกิจการอย่างเต็มรูปแบบ ประกอบไปด้วยโรงแรมมากกว่า 35,000 แห่ง บ้านพักกว่า 125,000 หลัง และห้องพักกว่า 1.2 ล้านห้อง ในส่วนของบ้านพักตากอากาศ โอโยมีการดำเนินธุรกิจภายใต้ชื่อ OYO Homes, Belvilla, Danland, Dancenter และ Traum-Ferienwohnungen แบรนด์จากประเทศเยอรมนี ในมากกว่า 800 เมือง ใน 80 ประเทศทั่วโลก รวมถึงในสหรัฐอเมริกา ยุโรป สหราชอาณาจักร อินเดีย มาเลเซีย ตะวันออกกลาง อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น นอกจากนี้โอโยยังดำเนินธุรกิจให้เช่าบ้าน และธุรกิจการทำงานร่วมกันในบางประเทศ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถดูได้ที่ https://www.oyorooms.com/