5 – 29 ก.พ. 2563 กรมประมงเปิดขอใบอนุญาตทำประมง เตือนเรือประมงพาณิชย์รักษาสิทธิ ยื่นเรื่องก่อนขึ้นรอบการทำประมงใหม่ (2563 - 2564)

ข่าวทั่วไป Friday January 31, 2020 13:30 —ThaiPR.net

5 – 29 ก.พ. 2563 กรมประมงเปิดขอใบอนุญาตทำประมง เตือนเรือประมงพาณิชย์รักษาสิทธิ ยื่นเรื่องก่อนขึ้นรอบการทำประมงใหม่ (2563 - 2564) กรุงเทพฯ--31 ม.ค.--กรมประมง กรมประมงแจ้งผู้ประสงค์ทำการประมงพาณิชย์ในน่านน้ำไทย ในรอบปีการประมง 2563 – 2564สำหรับเรือประมงที่มีขนาดตั้งแต่ 10 ตันกรอสขึ้นไป หรือเรือประมงที่ใช้เครื่องยนต์มีกำลังแรงม้า 280 แรงม้าขึ้นไป หรือเป็นเรือที่มีหรือใช้เครื่องมือทำการประมงตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ กำหนดให้มายื่นคำขอรับใบอนุญาตทำการประมงพาณิชย์ และยื่นคำขอรับหนังสือรับรองเพื่อประกอบการยื่นขอออกใบอนุญาตใช้เรือ ณ สำนักงานประมงพื้นที่กรุงเทพมหานคร ที่ว่าการอำเภอหรือสำนักงานประมงอำเภอ แห่งท้องที่ที่มีอาณาเขตติดทะเล หรือสถานที่อื่นตามที่อธิบดีกำหนด ภายในวันที่ 5 – 29 กุมภาพันธ์ 2563 นี้เท่านั้น หากไม่มีใบอนุญาตฯ จะไม่มีสิทธิทำการประมงพาณิชย์ได้ในรอบปีการประมง 2563 – 2564 นี้ นายมีศักดิ์ ภักดีคง อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า เนื่องจากใบอนุญาตทำการประมงพาณิชย์ในรอบปีการประมง 2561– 2562 นั้นกำลังจะใกล้สิ้นสุดลง กรมประมงจึงได้ออกประกาศกรมประมง เรื่อง กำหนดห้วงเวลา หลักเกณฑ์ วิธีการ ขั้นตอนและเงื่อนไขการขอรับใบอนุญาตทำการประมงพาณิชย์ สำหรับปีการประมง 2563 – 2564 พ.ศ. 2563 ซึ่งหลักเกณฑ์ในการขอใบอนุญาตฯ นั้น ได้มีการปรับปรุงและแตกต่างไปจากการขอรับใบอนุญาตฯ ในรอบปีที่ผ่านมา โดยในรอบปีการประมง 2561 – 2562กำหนดให้เรือที่อยู่ระหว่างดำเนินคดีนั้น ไม่สามารถขอรับใบอนุญาตฯ ได้ แต่ในรอบปีการประมง 2563 – 2564 สามารถยื่นขอรับใบอนุญาตได้ และในส่วนของใบอนุญาตใช้เรือนั้น รอบปีการทำประมง 2561 – 2562 กำหนดให้ใบอนุญาตใช้เรือต้องไม่หมดอายุก่อนวันขอยื่นรับใบอนุญาตฯ แต่ในรอบปีนี้ไม่ได้กำหนดเรื่องอายุใบอนุญาตใช้เรือแต่อย่างใด สำหรับขั้นตอน และกรอบระยะเวลาการขอรับใบอนุญาตฯ สำหรับปีการประมง 2563 – 2564 นั้น กรมประมงได้กำหนดให้ผู้ประสงค์ทำการประมงพาณิชย์ยื่นคำขอรับใบอนุญาต และยื่นขอรับหนังสือรับรองเพื่อประกอบการขอต่ออายุใบอนุญาตใช้เรือ ณ สำนักงานประมงพื้นที่กรุงเทพมหานคร ที่ว่าการอำเภอหรือสำนักงานประมงอำเภอแห่งท้องที่ที่มีอาณาเขตติดทะเล หรือสถานที่อื่นตามที่อธิบดีกำหนด ภายในวันที่ 5 – 29 กุมภาพันธ์ 2563 โดยกรมประมงจะพิจารณาจัดสรรใบอนุญาตทำการประมงพาณิชย์ ภายในวันที่ 1 – 15 มีนาคม 2563 แล้วจะแจ้งผลการพิจารณาให้ผู้ขอรับใบอนุญาต ดำเนินการดังนี้ 1. กรณีได้รับอนุญาตฯ ให้ผู้ขอรับอนุญาตชำระเงินค่าธรรมเนียมและค่าอากรการประมงและรับใบอนุญาตทำการประมงพาณิชย์ ณ สำนักงานประมงอำเภอที่ยื่นคำขอ พร้อมรับเครื่องหมายประจำเรือ และหนังสือรับรองเพื่อประกอบการยื่นขอต่ออายุใบอนุญาตใช้เรือ ภายใน วันที่ 31 มีนาคม 2563 ซึ่งหากพ้นกำหนดระยะเวลาดังกล่าวให้ถือว่าผู้นั้นสละสิทธิจากการเป็นผู้ได้รับอนุญาต 2. กรณีที่ไม่ได้รับอนุญาต ให้ผู้ขอรับอนุญาตยื่นอุทธรณ์คำสั่งไม่อนุญาตได้ ภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับคำสั่ง โดยยื่น "ผ่าน" สำนักงานประมงอำเภอ สำนักงานประมงจังหวัด หรือส่งไปรษณีย์ไปยังกรมประมง ผู้รับใบอนุญาตต้องได้รับการตรวจเรือและเครื่องมือทำการประมงก่อนออกทำการประมงได้ตั้งแต่ วันที่ 16 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป ทั้งนี้ หากไม่ผ่านการตรวจเรือและเครื่องมือทำการประมง จะไม่สามารถออกทำการประมงตามที่ได้รับอนุญาตได้ เอกสารหลักฐานที่ต้องใช้ประกอบในการยื่นคำขอรับใบอนุญาตทำการประมงพาณิชย์สำหรับปีการประมง 2563 -2564 ได้แก่ 1. บัตรประจำตัวประชาชนของผู้ขอรับอนุญาต ที่ยังไม่หมดอายุ 2. หนังสือรับรองการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แสดงวัตถุประสงค์ในการประกอบกิจการประมง (กรณีเป็นนิติบุคคล) ที่มีอายุไม่เกิน 3 เดือน 3. หนังสือมอบอำนาจ พร้อมแนบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ (กรณีที่มีการมอบอำนาจ) 4. หนังสือรับรองสุขอนามัยเรือประมง (สร.3) (เฉพาะเรือประมงที่ใช้เครื่องมือประมงในการจับสัตว์น้ำและเก็บรักษาสัตว์น้ำไว้ในเรือ) 5. หนังสือยินยอมให้ใช้เรือประมง (กรณีที่มีการถือกรรมสิทธิ์ร่วมหรือมีสิทธิครอบครองในเรือประมงที่ขอรับอนุญาต) 6. แบบแจ้งชื่อเรือประมงที่ผู้ขอรับใบอนุญาตทำการประมงพาณิชย์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ หรือสิทธิครอบครอง พร้อมทั้งหลักฐานแสดงกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองในเรือแต่ละลำ(กรณีครอบครองเรือประมงมากกว่า 1 ลำ) 7. เอกสารหรือหลักฐานที่แสดงว่าคดีอาญาถึงที่สุดแล้ว ผู้ขอรับใบอนุญาตไม่มีความผิด (กรณีขอเครื่องมือประสิทธิภาพสูง ซึ่งไม่มีใบอนุญาตทำการประมงพาณิชย์ รอบปีการประมง 2561 - 2562) 8. เอกสารหรือหลักฐานอื่นใดที่แสดงว่าได้ใช้เครื่องมืออวนครอบ/ช้อน/ยกปลากระตัก ก่อนการตรวจวัด และจัดทำอัตลักษณ์เรือ (กรณีเรือพื้นบ้านหลังการตรวจวัดมีขนาดตั้งแต่ 10 ตันกรอสขึ้นไป) 9. เล่มสำเนาทะเบียนบ้าน/เอกสารหรือหลักฐานอื่นใดที่แสดงว่าผู้ขอรับใบอนุญาตมีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ที่จะขอย้ายฝั่ง (กรณีขอย้ายพื้นที่ทำการประมงเครื่องมือประสิทธิภาพสูง) 10. ภาพถ่ายหรือภาพถ่ายดิจิทัลของเรือประมง จำนวน 3 รูป ดังนี้ 1.) ภาพอัตลักษณ์เรือที่เห็นชัดเจน จำนวน 1 รูป 2.) ภาพหัวเรือที่เห็นชื่อเรือ ทะเบียนเรือ (กรณีที่ได้รับใบอนุญาตทำการประมงพาณิชย์อยู่เดิมจะต้องมีเครื่องหมายประจำเรือปรากฏอยู่ในภาพถ่ายด้วย) จำนวน 1 รูป 3.) ภาพถ่ายเรือเต็มลำด้านซ้ายหรือด้านขวา จำนวน 1 รูป สำหรับเครื่องมือที่ขอรับใบอนุญาตฯ นั้น แบ่งได้เป็นสองประเภท คือ เครื่องมือทำการประมงที่มีประสิทธิภาพสูง จำนวน 8 เครื่องมือ ได้แก่ อวนลากคู่ อวนลากแผ่นตะเฆ่ อวนลากคานถ่างอวนล้อมจับ อวนล้อมจับปลากะตัก อวนครอบปลากะตัก อวนช้อน/ยก ปลากะตัก และเรือประกอบเครื่องกำเนิดไฟฟ้า (เรือปั่นไฟ) และเครื่องมือทำการประมงที่มีประสิทธิภาพต่ำ จำนวน 14 เครื่องมือ ได้แก่ อวนครอบหมึก อวนช้อนปลาจะละเม็ด อวนติดตา อวนรุนเคย คราดหอยลาย คราดหอยแครง คราดหอยอื่น ลอบปลา ลอบปู ลอบหมึก ลอบหมึกสาย เบ็ดราว แผงยกปูจักจั่น และเบ็ดมือ อธิบดีกรมประมง กล่าวในตอนท้ายว่า กรมประมงขอประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องชาวประมงที่ประสงค์ จะทำการประมงพาณิชย์ในรอบปีการประมง 2563 – 2564 นี้ ให้มายื่นขอรับใบอนุญาตทำการประมงพาณิชย์ และยื่นคำขอรับหนังสือรับรองเพื่อประกอบการยื่นขอต่ออายุใบอนุญาตใช้เรือ ณ สำนักงานประมงพื้นที่กรุงเทพมหานคร ที่ว่าการอำเภอหรือสำนักงานประมงอำเภอแห่งท้องที่ที่มีอาณาเขตติดทะเล หรือสถานที่อื่นตามที่อธิบดีกำหนด เพื่อเป็นการรักษา "สิทธิ" ของตนเองที่จะสามารถทำการประมงพาณิชย์ในรอบปีการประมงที่จะถึงได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย หากมีข้อสงสัย สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กองบริหารจัดการทรัพยากรและกำหนดมาตรการ กรมประมง โทรศัพท์ 0 25611418

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ