บทสัมภาษณ์ ชาย พงศ์ชยุตม์ ผู้กำกับบ้านผีเปิบ

ข่าวบันเทิง Thursday March 6, 2008 15:14 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--6 มี.ค.--สหมงคลฟิล์ม
แนะนำตัวเอง ผลงานที่ผ่านมา
สวัสดีครับ ชาย พงศ์ชยุตม์ ศิริสุข หรือที่รู้จักกันในนามว่าชายแฮ็ก เคยผ่านงานทางด้านปั้นดารามาก่อน ก็เคยทั้งปั้น อั้มพัชราภา ฝน พัชรินทร์ และก็เคยเป็นผู้จัดการคลื่นอยู่ที่สถานีอีเอฟเอ็ม และก็เคยผ่านภาพยนตร์เรื่องแรกก็คือ อันลิมิเตทเลิฟ รักไม่จำกัดนิยาม
ทำไมถึงผันตัวเองมาเป็นผู้กำกับ
เหตุผลที่มาเป็นผู้กำกับ เพราะสมัยที่พี่เป็นผู้จัดการดารา พี่ก็ติดตามดาราของพี่ไปที่กองถ่าย ก็เลยแอบสนใจ และอยากที่จะเรียนรู้ ซึ่งตอนเรียนก็เคยศึกษาทางด้านนี้อยู่พอสมควร สุดท้ายพอได้มีโอกาสมาลองวิชา ก็คือได้มีโอกาสคุยกับทางผู้ใหญ่ เขาเลยให้โอกาสมาเป็นผู้กำกับ
จุดเริ่มต้นของโปรเจกต์บ้านผีเปิบ
จุดเริ่มต้นของโปรเจกต์บ้านผีเปิบ คือต้องบอกเลยว่าตนเองเป็นคนชอบดูหนังตลกอยู่แล้ว แล้วก็คิดหลังจากที่ทำหนังเรื่องที่แล้วว่า อยากจะลองทำหนังแนวผีตลกสักครั้งหนึ่ง ก็คิดอยากทำหนังผีที่สไตล์แบบไทยๆ และก็พยายามดีไซน์ผีมาในรูปแบบใหม่ที่ทุกคนดูแล้วสนุก ซึ่งจริงๆ แล้วหนังผีไทยก็มีอยู่หลายเรื่อง คือทั้ง ผีปอบ ผีกระสือ ผีหัวขาด ก็เลยมีความรู้สึกว่าพอได้มีโอกาสทำหนังแล้ว น่าจะมีผีเกิดขึ้นมาใหม่ นั่นก็คือผีเปิบ ก็จะฮาไม่แพ้ผีตัวอื่นๆ ที่ทุกคนเคยรู้จัก
หลังจากได้ชื่อของผีเปิบมาแล้ว กระบวนการต่อไปล่ะ
หลังจากนั้นก็พอเราคิดไอเดียได้เราก็ศึกษาข้อมูลบ้างเหมือนกันว่าเราจะทำหนังผีมาในรูปแบบไหนที่ไม่อยากให้ไปซ้ำกับของคนอื่นเขา ทั้งที่เคยทำมาหรือที่กำลังจะสร้าง ก็เลยไปคุยกับอามานพ และปรึกษาว่าจะทำไปในทิศทางใดดี ก็เลยลองคุยกับทางคุณระมิงค์และช่วยกันทำร่างย่อออกมา และก็ออกแบบคาแรกเตอร์ที่เราอยากให้มีในหนังของเราไปคร่าวๆ และก็ตั้งคอนเซปต์ของพี่ตัวนี้เลยว่าจะต้อง “โหดมันฮา” คือขอย้ำเลยว่าต้องโหดมันฮา ไม่ใช่แค่โหดอย่างเดียว ไม่อยากให้คนดูรู้สึกเลยว่าผีตัวนี้น่ากลัวจนเกินไป อยากให้ทุกคนมองเห็นผีตัวนี้แล้วยิ้ม และหัวเราะทุกครั้งที่ผีตัวนี้โผล่ออกมา มันจะต้องมีเรื่องให้หัวเราะได้แน่ จากคนที่เคยดูหนังผีบางเรื่องเนี่ย คนดูต้องสะดุ้งด้วยความสยดสยอง ซึ่งเราไม่อยากให้ผีของเราเป็นแบบนั้น แต่ในผีเปิบเนี่ยจะต้องฮา ก็เลยคิดจะหาที่ปรึกษาเรื่องความฮาจากตลกมากฝีมือสักคน ตอนแรกตั้งใจจะหานักแสดงนำตลกก่อน ทั้งอามานพ รวมไปถึงตัวผมก็คิดว่าจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากพี่จตุรงค์ ซุปเปอร์สตาร์แถวหน้าของประเทศไทย ที่นี่ก็คิดต่อยอดไปถึงหน้าค่อม อาถั่วแระ แม้กระทั่งคนที่จะมาเล่นเป็นผีเปิบ ก็ดูๆ ไว้หลายคนเหมือนกัน สุดท้ายก็ตัดสินใจเลือกจอย เพราะเคยสังเกตเห็นเวลาเขาเล่นตลกทางโทรทัศน์ เวลาเขาทำหน้าเฉยๆ จะดูดุมาก แต่ก็สามารถทำให้คนดูตลกได้ ซึ่งพอให้ลองมาฟิตติ้งก็รู้สึกว่าคนนี้แหละใช่เลย หลังจากนั้นก็คิดมาว่าตลกอย่างเดียวคงไม่ครบรสแน่ ก็คิดจะหาอะไรที่ดูวัยรุ่นๆ เข้ามาเติม ก็เลยคิดเนื้อเรื่องให้โยงวัยรุ่นเข้าไป
ก็เลยคิดพล็อตเรื่องให้มีนักศึกษากลุ่มหนึ่งเกิดขึ้น แล้วต้องเข้าไปผจญภัย วิ่งไล่จับกันอย่างสนุกสนาน พอเราคิดได้เสร็จเรียบร้อย เราก็นำมาเสนอให้เสี่ยเจียงดู ก็ต้องกลับไปปรับอยู่หลายรอบเหมือนกัน กว่าที่จะมาเป็นโปรเจกต์นี้ได้
เรื่องราวในบ้านผีเปิบเกี่ยวกับอะไร
เรื่องราวก็จะออกโหดมันฮา ก็จะมีหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในหมู่บ้านนี้จะมีผีฟ้า ที่เป็นคนปกติ แต่มีอยู่วันหนึ่งกลับกลายเป็นผีเปิบออกอาละวาด แทนที่จะรักษาคน กลับต้องมากินคนซะเอง เป็นจังหวะเดียวกันที่นักศึกษากลุ่มนี้ มาศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับผีฟ้า ซึ่งเด็กกลุ่มนี้จะออกสไตล์แก่นเสี้ยวกันทุกคน ไม่คิดเชื่อเรื่องผี ผีไม่มีในโลกนี้ ก็คิดตามความเชื่อของคนสมัยใหม่ แต่พอได้เข้ามาในหมู่บ้านนี้ก็เจอกับอบต.ซึ่งรับบทโดยพี่จตุรงค์ และจ่ายื่น ที่รับบทโดยน้าค่อม ซึ่งแต่ละคนก็ดูเพี้ยนๆ ฮากันไป ทีนี้ทุกคนก็เลยต้องช่วยกันปราบผีเปิบ ซึ่งวิธีการปราบจะพิสดารมาก และในหมู่บ้านนี้ก็ยังมีเจ้าแม่ตะโกดำที่ศักษ์สิทธ์ ซึ่งเป็นอีกสีสันหนึ่งของเรื่อง แล้วก็มีเซียนน้อยที่รับบทโดยโก๊ะตี๋ ก็มาช่วยปราบ แต่ความฮามันอยู่ที่เมื่อผีเปิบมันอาละวาด ความสนุกสานาจึงเริ่มต้นขึ้น
ย้ำความต่างระหว่าง “บ้านผีเปิบ” กับ “บ้านผีปอบ” ให้ฟังหน่อย
หลายคนคงคิดว่าหนังเรื่องนี้จะไปถอดแบบมาจากบ้านผีปอบหรือเปล่า ขอยืนยันเลยว่าเหมือนกันแค่กลิ่นเท่านั้น พล็อตเรื่องหรือสไตล์กันเลย ซึ่งเรื่องบ้านผีปอบเราก็เคยรู้มาอยู่แล้วว่าฮิตแค่ไหนเมื่อก่อน ก็เลยไม่อยากทำซ้ำกับสไตล์ในหนังเรื่องนั้น แต่เราก็ยึดเอาหนังเรื่องนี้เป็นแรงบันดาลใจของตัวเรา ซึ่งเรานำกลิ่นหรือคาแรกเตอร์บางอย่างมาใส่ในตัวผีเปิบของเรา ซึ่งจะผีเปิบที่เราวางคาแรกเตอร์เอาไว้ คือดูโหดเวลาถึงคราวสยอง ดูน่ารักเวลาเข้าไปหลอกคนและมีความตลกเจือปนอยู่ตลอดเวลา การวิ่งหนีผีเราก็ปรับเปลี่ยนใหม่ซึ่งมากับมุกที่จะทำให้คุณคาดไม่ถึง หรือลงตุ่มเราก็ปรับให้ฮากันแบบเซอไพรซ์ เรียกว่าเหมือนกันแคกลิ่นเท่านั้น ในบ้านผีเปิบจะมีอารมณืของหนังผียุคใหม่อย่างครบถ้วน ซึ่งถ้าใครเคยเป็นแฟนบ้านผีปอบก็อยากให้ลองมาดูบ้านผีเปิบ รับรองว่าจะต้องชอบเจ้าผีเปิบตัวนี้
พูดถึงพี่จตุรงค์
อันดับแรกคือรู้สึกดีใจมาก ที่ได้ร่วมงานกับตลกชั้นครูแบบนี้ เราจะติดตามดูหนังแทบทุกเรื่องที่พี่จตุรงค์แสดง เรารู้สึกว่าเขามีเอกลักษณ์และมีเสน่ห์เป็นของตัวเอง ก็พอรู้ว่าตัวเองจะทำหนังอันดับแรกเลยก็คือคิดถึงพี่จตุรงค์ แต่ก็กังวลอยู่พอสมควรเพราะว่าเราเป็นผู้กำกับใหม่ แล้วพี่จตุรงค์เป็นคนที่ทุ่มเทกับงานมาก ก็เลยลุ้นว่าแกจะยอมมาเล่นหนังกับเรามั้ย ก็เลยมีการพูดคุยและเอาบทไปให้แกดู แกก็บอกว่าอยากมาเล่นเรื่องนี้ พอได้มาร่วมงานกันจริงๆ พี่จตุรงค์ก็เหมือนกับเป็นอาจารย์ไปเลย แกก็จะเทรนเนอร์เราทุกอย่าง ไม่ว่าจะแนะนำเรื่องมุกตลกในเรื่อง จังหวะของตลกจะอยู่อย่างไร รวมไปถึงช่วยดีไซน์คาแรกเตอร์ของตัวละคร มุกที่หยอดเข้าไปในหนังแค่ไหนถึงจะพอดี การทำงานในหนังเรื่องนี้ทำให้เราได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างจากทั้งพี่จตุรงค์ พี่เพื่อน หรือจะเป็นอามานพ บางครั้งเราก็มีมุกมาเสนอกับทางพี่รงค์ แกก็บอกโอเคๆซื้อ คือทีมงานรวมไปถึงนักแสดงในเรื่องนี้มีส่วนในการคิดมุกฮากันได้ทุกคน
โดยเฉพาะเวลาที่พี่รงค์เข้าฉาก ทุกอย่างจะดูลื่นไหล เวลาแกเล่นหรือสื่อสารอะไรออกมาทุกคนจะเชื่อ ซึ่งในเรื่องนี้ตัวพี่รงค์เองก็เปลี่ยนคาแรกเตอร์เหมือนกัน ในเรื่องแกจะรับบทเป็นอบต.สมโภช ที่เป็นคนกะล่อนเจ้าชู้ พี่รงค์เขาก็จะแสดงออกทางแววตา บางฉากเนี่ยไม่ต้องพูดเลยแค่แอ๊คติ้งก็ขำแล้ว แล้วยิ่งมาเจอกับพี่ฮาย อาภาพร หรือเมียของแกเจ๊แบะ ก็จะมีสีสันมากสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ หรือจะเป็นน้าค่อม ซึ่งน้าค่อมในเรื่องนี้บางซีนบางฉากก็เล่นได้มากกว่าที่เราคิด คือเราจะวางแพลนในบทไว้ว่า ตรงไหนสามารถหยอดมุกเข้าไปได้ หรือแม้กระทั่งตัวอาถั่วแระเอง คือทุกคนเต็มที่กับหนังเรื่องนี้มาก
พูดถึง พี่จอย ชวนชื่น ที่มารับบทผีเปิบบ้าง
สำหรับพี่จอย ชวนชื่น ที่มารับบทเป็นผีเปิบในเรื่อง ก็อย่างที่บอกว่าพอเราทำบ้านผีเปิบปั๊บ ก้เลยอยากมองหาคนที่จะมารับบทนี้ ก็มองหาอยู่หลายคน แล้บังเอิญได้ดูรายการตลกที่ จอย เล่นพอดี ก็รู้สึกว่าจอยนี่แหละ ที่น่าจะเป็นผีเปิบที่น่าจะเรียกเสียงฮาได้ เพราว่าเราตั้งใจให้ผีเปิบตัวนี้ มีทั้งความน่ากลัวและมีความตลกอยู่ด้วย บางครั้งตาของจอยอาจจะดูดุ ดูท่าทางเนี่ยน่าจะขำ เวลาแสดงจอยก็จะเต็มร้อย ความฮาจะอยู่ตรงที่เวลาผีเปิบไปหลอกคนแต่ละคน ก็จะมีมุกฮาแตกต่างกันไป บางทีก็เดินไปหลอกดุ่มๆ หรือบางทีก็วิ่งเข้าไปหลอก บางทีก็มีการล่อหลอกชาวบ้าน เชื่อว่าใครที่ได้ดูหนังเรื่องนี้ จะจำชื่อผีเปิบตัวนี้เข้าไปอยู่ในใจเลยทีเดียว
พูดถึงกลุ่มนักแสดงวัยรุ่นในเรื่องบ้าง
สำหรับกลุ่มนักแสดงวัยรุ่นที่มารับบทนักศึกษาสุดเสี้ยวในเรื่อง ตอนแรกก็คิดตามโจทย์เหมือนกันว่า เราจะเอาใครมาเล่นกันตามคาแรกเตอร์ที่วางไว้ ตอนแรกก็คิดถึงอิมก่อน เพราะอิมเนี่ยเป็นนักแสดงที่แสดงอะไรฮาๆ แล้วคนเชื่อ ซึ่งถือว่าเป็นนักแสดงวัยรุ่นที่กำลังมาแรงในเรื่องของลูกบ้าลูกฮา เราก็วางคาแรกเตอร์อิมไว้ว่าจะต้องเป็นผู้หยิงที่กวนๆ หลงรักเพื่อนในกลุ่ม ซึ่งอิมก้เล่นได้หลุดโลกมากๆ นอกจากนั้นก็จะมี จุ๊บ อิทธิกร สาธุธรรม ซึ่งที่ผ่านมาคาแรกเตอร์ของเขาจะดูเป็นพระเอ๊กพระเอก แต่ในเรื่องนี้เราเปลี่ยนจุ๊บให้ดูทะเล้น กะล่อน บ้าผู้หญิง และก็อีกคนหนึ่งก็คือน้องทราย ซึ่งเวลาวิ่งหนีผีเนี่ย ทรายเขาจะมีลูกเล่น หน้าตาเขาจะประหลาดกว่าทุกคน นอกจากนั้นเราก็มีนักแสดงหน้าใหม่อย่างน้องตาลอนงนาฏ ที่เคยประกวดรายการดันดารามา เขาก็เป็นที่กล้าในการแสดง ก็เป็นผู้หญิงแอบเซ็กซี่เล็กๆ อีกคนก็คือ นัท-อติรุฐ ซึ่งก็เป็นนักแสดงวัยรุ่นหน้าใหม่ ซึ่งตัวละครของนัทเนี่ยก็จะเป็นผู้ที่มีของดีไว้ปราบผีเปิบ
แล้วกลุ่มพวกนี้จะเป็นเหมือนกลุ่มที่คอยเชียร์อัพให้ทุกคนกระปรี้กระเป่าตลอดเวลา ไม่ว่าจะดึกแค่ไหน ก็แรงดีไม่มีตก พวกบรรดาตลกก็ถึงกับงง พี่จตุรงค์ยังเอ่ยปากชมเลยว่านักแสดงกลุ่มนี้มีความตั้งใจมาก คอยเอาบทมาทวนว่าผมเล่นแบบนี้ดีมั้ย คือเขามีความกระตือรือร้นตลอดเวลา และเขาก็เป็นคนที่รักษาเวลาดีมาก ตื่นตั้งแต่ตีห้า หกโมงอยู่หน้ากอง เจ็ดโมงพร้อมถ่าย
พูดถึงการได้ร่วมงานกับโปรดิวซ์เซอร์รุ่นเก๋าอย่างอามานพ หรือว่าจะเป็นผู้กำกับอย่าง พี่เพื่อน ภาคภูมิ ก็รู้สึกว่าเราโชคดีมาที่ได้คนที่มีประสบการณ์สูงอย่าง อามานพมาช่วยดูแลและเป็นที่ปรึกษาเกี่ยวกับอะไรหลายอย่างในภาพยนตร์เรื่องนี้ และก็เรื่องของการดีไซน์เรื่องราวหรือตัวละครต่างๆ รวมไปถึงมุมกล้อง เรื่องบท เรื่องการตัดต่อทุกๆ ส่วน เหมือนเรามีอาจาร์ยอีกคนหนึ่งที่คอยดูแลเรา แล้วยังมีพี่เพื่อน ภาคภูมิ ที่ทำหนังออกมาโดนใจตลาดวัยรุ่น เราก็คิดว่าเขาน่าจะรู้ว่าจะทำอะไรถึงโดนใจกลุ่มวัยรุ่น ทั้งเรื่องมุมภาพหรือการกำหนดเรื่องราว ซึ่งสองคนนี้มีส่วนกับภาพยนตร์เรื่องนี้ค่อนข้างเยอะทีเดียว ยิ่งตัวเราเป็นผู้กำกับหน้าใหม่ก็รู้สึกอุ่นใจที่มีที่ปรึกษาดีๆแบบนี้อยู่ด้วยตลอด
พูดถึงฉากที่ โก๊ะตี๋ โดนพี่ๆ ตลกรวมหัวกันแกล้ง
ฉากนี้การันตีเลยว่าขำแน่ๆ ก็คือโก๊ะตี๋ รับบทเป็นเซียนน้อย เป็นเซียนที่เป็นนักเลงพระ เป็นฉากที่โก๊ะตี๋ทุ่มทุนสร้างมากๆ ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้เกิดเสียงฮา แล้วก็ตอนที่ถ่ายทำฉากที่เซียนน้อย เจอกับผีเปิบ แล้วเขาต้องตอบโต้ไดอาล็อกกัน ฉากนี้เรียกเสียงฮาได้แน่ เพราะว่าเซียนน้อยต้องแนะนำพระให้กับผี แล้วต้องโชว์วิธีการปลุกพระ ก็ต้องสั่นๆๆ อยู่เป็นชั่วโมง ที่เห็นหอบตอนถ่าย ไม่ได้แกล้งนะหอบจริงๆ
ว่ากันว่าเรื่องราวอาถรรพ์ในการถ่ายทำ มันอยู่คู่กับหนังผี หนังเรื่องนี้เจอะไรบ้างหรือเปล่า
หนังเรื่องนี้จะถ่ายกันที่ค่ายสุรสีห์ จังหวัดกาญจนบุรีแทบตลอดทั้งเรื่อง ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะถ่ายฉากกลางคืนซะส่วนใหญ่ ก็มีเจออะไรแปลกๆ เหมือนกัน อย่างมีครั้งหนึ่งถ่ายภาพจุ๊บ สมชาย แล้วภาพดันหัวขาด
ผู้ช่วยผู้กำกับก็รถมอไซด์คว่ำ บางครั้งถ่ายทำอยู่ก็รู้สึกว่ามีเสียงงูเลื้อยออกมา ก็ถึงขนาดต้องเชิญพระจากข้างนอกมาทำบุญกันเลยทีเดียว
การันตีถึงความโหดมันฮา ที่คนดูจะได้รับจากหนังเรื่องนี้
รับรองครับว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะต้องโหด มัน ฮา แน่นอน คือผีเปิบออกซีนไหนก็จะดูเหมือนกับโหด แต่ก็จะแอบแฝงความมันส์เอาไว้ ซึ่งจะมีมุกฮาๆ ฉากฮาๆ หยอดอยู่ตลอดทั้งเรื่อง ชนิดที่ว่าถ้าผีเปิบออกตอนไหนก็จะฮาตอนนั้น ชนิดที่ว่าพอดูหนังเรื่องนี้จบไป แล้วคุณจะจำผีเปิบตัวนี้ได้ ไม่ใช่แค่กลัวผีเปิบอย่างเดียวนะ ยังได้ร่วมสนุกไปกับการออกอาละวาดของผีเปิบตัวนี้ด้วย เชื่อว่าทุกคนจะโหดมันฮาแน่นอน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ