![อาชีวะขานรับมาตรการลด และคัดแยกขยะ]()
กรุงเทพฯ--5 ก.พ.--สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
นาย
ณรงค์ แผ้วพลสง เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลมียุทธศาสตร์การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้เยาวชนได้เติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ดังนั้นเพื่อสร้างบรรยากาศของสภาพแวดล้อมที่ดี ลดมลพิษ และลดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนรวมไปถึง
ระบบนิเวศ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา จึงดำเนินการเรื่องมาตรการลด และคัดแยกขยะมูลฝอย ขึ้น โดยเริ่มสร้างการรับรู้จากข้าราชการที่ทำงานในส่วนกลางก่อน เพื่อให้สำนักงานปลอดจากเชื้อโรค ปลอดจากภัยถุงพลาสติกและภาชนะที่ไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยได้มอบให้กลุ่มพัฒนาระบบบริหาร ดำเนินการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการขึ้น เพื่อสร้างการรับรู้และถือปฏิบัติโดยทั่วถึงกัน พร้อมทั้งสร้างเครือข่ายรณรงค์รักษาสิ่งแวดล้อม ด้วยการทำให้ดูเป็นต้นแบบ บอกต่อ แนะนำ ยึดหลัก "ทำความดีด้วยหัวใจ ลดภัยสิ่งแวดล้อม"
เลขาธิการฯ กล่าวต่อไปว่า เพื่อให้เกิดความตระหนักและรับรู้รูปแบบของการลด และคัดแยกขยะ อย่างถูกวิธี สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา จึงได้เชิญนายบัญชาการ วินัยพานิช นักวิชาการสิ่งแวดล้อมชำนาญการ กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มาให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องการจัดการขยะมูลฝอยด้วยการจัดการแบบผสมผสาน และสามารถนำกลับไปแปรรูปเป็นพลังงานได้ เบื้องต้นสร้างการรับรู้เกี่ยวกับการลดขยะใน 3 ขั้นตอน หรือ 3 R ได้แก่ 1. Reduce ให้ทุกคนใช้ทรัพยากรทุกอย่างแต่น้อย ใช้เท่าที่จำเป็น เลือกซื้อสินค้าที่เป็นผลผลิตจากธรรมชาติ ใช้ถุงผ้าซื้อของ ลดปริมาณเศษอาหาร ลดการใช้กล่องโฟม 2. Reuse ให้นำสิ่งของต่าง ๆ กลับมาใช้ซ้ำ เช่น แก้วน้ำ กระดาษหน้าเดียว พลาสติก เหล็ก อลูมิเนียม ผ้า ผ้าใบ และ 3. Recycleให้คัดแยกและรวบรวมวัสดุเพื่อนำเข้าสู่กระบวนการผลิตใหม่ เช่น ขวดแก้ว กระดาษ กระป๋อง ใบไม้ เศษหญ้า ทองเหลือง ทองแดง ขยะอินทรีย์ และได้รณรงค์สร้างจิตสำนึกในการคัดแยกขยะ โดยให้ทำทุกวัน จนเกิดความชำนาญ เกิดเป็นทักษะ ให้ทุกคนได้ทิ้งขยะอย่างถูกวิธี ขยะอินทรีย์ให้ใส่ถังสีเขียว ขยะรีไซเคิล ให้ใส่ถังสีเหลือง ขยะอันตรายให้ใส่ถังสีส้ม และขยะทั่วไปให้ใส่ถังสีน้ำเงิน ซึ่งจะมีจุดตั้งถังขยะแยกสีในบริเวณต่าง ๆ ของอาคารของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
เลขาธิการฯ กล่าวปิดท้ายว่า ปัญหาขยะล้นเมืองเป็นเรื่องที่แก้ไขได้ยาก เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่มีความเข้าใจเรื่องการคัดแยกขยะ รวมถึงการกำจัดขยะที่ถูกวิธี โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ที่มีจำนวนประชากรหนาแน่น จะพบปัญหาการถ่ายเทขยะไม่ทัน หรือการทิ้งขยะไม่เป็นที่ ส่งผลให้เกิดปัญหาขยะสะสมจนกลายเป็นวิกฤตเรื่องการจัดการขยะมูลฝอย และแหล่งเพาะเชื้อ จึงเห็นว่า การคัดแยกขยะอย่างถูกวิธีทุกคนสามารถเริ่มต้นได้ที่ตนเอง จึงได้ให้ข้าราชการและบุคลากรของอาชีวะเข้ารับการอบรมให้มีความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับการลด และคัดแยกขยะ และต้องการให้ชาวอาชีวศึกษาทุกคนเป็นต้นแบบ มีจิตสำนึกที่ดีต่อสังคม ช่วยดูแลปกป้องสิ่งแวดล้อม และเป็นการช่วยสร้างสังคมให้น่าอยู่
![]()
![]()
กรุงเทพฯ--5 ก.พ.--สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
นายณรงค์ แผ้วพลสง เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลมียุทธศาสตร์การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้เยาวชนได้เติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ดังนั้นเพื่อสร้างบรรยากาศของสภาพแวดล้อมที่ดี ลดมลพิษ และลดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนรวมไปถึงระบบนิเวศ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา จึงดำเนินการเรื่องมาตรการลด และคัดแยกขยะมูลฝอย ขึ้น โดยเริ่มสร้างการรับรู้จากข้าราชการที่ทำงานในส่วนกลางก่อน เพื่อให้สำนักงานปลอดจากเชื้อโรค ปลอดจากภัยถุงพลาสติกและภาชนะที่ไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยได้มอบให้กลุ่มพัฒนาระบบบริหาร ดำเนินการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการขึ้น เพื่อสร้างการรับรู้และถือปฏิบัติโดยทั่วถึงกัน พร้อมทั้งสร้างเครือข่ายรณรงค์รักษาสิ่งแวดล้อม ด้วยการทำให้ดูเป็นต้นแบบ บอกต่อ แนะนำ ยึดหลัก "ทำความดีด้วยหัวใจ ลดภัยสิ่งแวดล้อม"
เลขาธิการฯ กล่าวต่อไปว่า เพื่อให้เกิดความตระหนักและรับรู้รูปแบบของการลด และคัดแยกขยะ อย่างถูกวิธี สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา จึงได้เชิญนายบัญชาการ วินัยพานิช นักวิชาการสิ่งแวดล้อมชำนาญการ กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มาให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องการจัดการขยะมูลฝอยด้วยการจัดการแบบผสมผสาน และสามารถนำกลับไปแปรรูปเป็นพลังงานได้ เบื้องต้นสร้างการรับรู้เกี่ยวกับการลดขยะใน 3 ขั้นตอน หรือ 3 R ได้แก่ 1. Reduce ให้ทุกคนใช้ทรัพยากรทุกอย่างแต่น้อย ใช้เท่าที่จำเป็น เลือกซื้อสินค้าที่เป็นผลผลิตจากธรรมชาติ ใช้ถุงผ้าซื้อของ ลดปริมาณเศษอาหาร ลดการใช้กล่องโฟม 2. Reuse ให้นำสิ่งของต่าง ๆ กลับมาใช้ซ้ำ เช่น แก้วน้ำ กระดาษหน้าเดียว พลาสติก เหล็ก อลูมิเนียม ผ้า ผ้าใบ และ 3. Recycleให้คัดแยกและรวบรวมวัสดุเพื่อนำเข้าสู่กระบวนการผลิตใหม่ เช่น ขวดแก้ว กระดาษ กระป๋อง ใบไม้ เศษหญ้า ทองเหลือง ทองแดง ขยะอินทรีย์ และได้รณรงค์สร้างจิตสำนึกในการคัดแยกขยะ โดยให้ทำทุกวัน จนเกิดความชำนาญ เกิดเป็นทักษะ ให้ทุกคนได้ทิ้งขยะอย่างถูกวิธี ขยะอินทรีย์ให้ใส่ถังสีเขียว ขยะรีไซเคิล ให้ใส่ถังสีเหลือง ขยะอันตรายให้ใส่ถังสีส้ม และขยะทั่วไปให้ใส่ถังสีน้ำเงิน ซึ่งจะมีจุดตั้งถังขยะแยกสีในบริเวณต่าง ๆ ของอาคารของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
เลขาธิการฯ กล่าวปิดท้ายว่า ปัญหาขยะล้นเมืองเป็นเรื่องที่แก้ไขได้ยาก เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่มีความเข้าใจเรื่องการคัดแยกขยะ รวมถึงการกำจัดขยะที่ถูกวิธี โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ที่มีจำนวนประชากรหนาแน่น จะพบปัญหาการถ่ายเทขยะไม่ทัน หรือการทิ้งขยะไม่เป็นที่ ส่งผลให้เกิดปัญหาขยะสะสมจนกลายเป็นวิกฤตเรื่องการจัดการขยะมูลฝอย และแหล่งเพาะเชื้อ จึงเห็นว่า การคัดแยกขยะอย่างถูกวิธีทุกคนสามารถเริ่มต้นได้ที่ตนเอง จึงได้ให้ข้าราชการและบุคลากรของอาชีวะเข้ารับการอบรมให้มีความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับการลด และคัดแยกขยะ และต้องการให้ชาวอาชีวศึกษาทุกคนเป็นต้นแบบ มีจิตสำนึกที่ดีต่อสังคม ช่วยดูแลปกป้องสิ่งแวดล้อม และเป็นการช่วยสร้างสังคมให้น่าอยู่
