Clip Pac กล่องถนอมอาหารใส่นวัตกรรมรักษ์โลก ผลิตภัณฑ์ห่วงใยผู้บริโภค พร้อมสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีร่วมกัน

ข่าวทั่วไป Monday February 17, 2020 09:41 —ThaiPR.net

Clip Pac กล่องถนอมอาหารใส่นวัตกรรมรักษ์โลก ผลิตภัณฑ์ห่วงใยผู้บริโภค พร้อมสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีร่วมกัน กรุงเทพฯ--17 ก.พ.--Active D ปิคนิคพลาส อินดัสเทรียล เปิดตัวกล่องถนอมอาหารแบรนด์ Clip Pac ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตั้งแต่ต้นทางการผลิต ด้วยการใช้นวัตกรรมใหม่ที่เพิ่มความใสให้กล่องอาหารและช่วยประหยัดพลังงานอย่าง Millad(R) NX(R) 8000 ในการผลิตพลาสติกพอลิโพรพิลีนคุณภาพสูง ซึ่งนอกจากจะให้คุณสมบัติความใส สวยงาม และสามารถดึงดูดผู้บริโภคมากขึ้นแล้ว ยังช่วยให้ผู้ประกอบการลดอุณหภูมิในการผลิตขึ้นรูปผลิตภัณฑ์ ลดเวลาผลิตได้กว่า 10% ลดการใช้พลังงาน และลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้เป็นอย่างดี จึงเป็นแบรนด์ "กล่องถนอมอาหารรักษ์โลก" เหมาะกับผู้บริโภคที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมตั้งแต่เริ่มกระบวนการผลิตอย่างแท้จริง พร้อมการันตีด้วยเครื่องหมายรับรองด้านสิ่งแวดล้อม UL Green Label Certification รายแรกและรายเดียวในประเทศไทยที่ได้รับสิทธิ์การใช้ฉลากสิ่งแวดล้อมระดับโลก นายสุรชัย เทียมชีวะศิลป์ กรรมการและผู้บริหารฝ่ายขายการตลาดต่างประเทศ บริษัท ปิคนิคพลาส อินดัสเทรียล จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันผู้บริโภคให้ความสำคัญกับการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และเริ่มเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคจากพลาสติกใช้ครั้งเดียวทิ้ง (Single-use Plastic) เป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถนำกลับมาซ้ำได้อีกหลายๆ ครั้ง โดยเฉพาะกล่องถนอมอาหาร จึงเป็นที่มาของแบรนด์ Clip Pac ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์กล่องพลาสติกถนอมอาหารมีกระบวนการผลิตที่มีมาตรฐานสูงและคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ขณะเดียวกันก็ยังคงไว้ซึ่งประสิทธิภาพการใช้งานที่เยี่ยมยอด สนองตอบได้ตรงกับทุกความต้องการผู้บริโภค จุดเริ่มต้นของ Clip Pac เกิดขึ้นโดยบริษัท ปิคนิคพลาส อินดัสเทรียล จำกัด ผู้นำด้านการผลิตและส่งออกสินค้าพลาสติกในประเทศไทย ร่วมมือกับบริษัท มิลลิเก้น เคมิคัล จากสหรัฐอเมริกา ผู้ผลิตสารเติมแต่งชนิดพิเศษ เพื่อช่วยเพิ่มความใสให้กับพลาสติกพอลิโพรพิลีน และผู้นำในด้านเทคโนโลยีสารเติมแต่งที่ช่วยประหยัดพลังงานในการขึ้นรูปพลาสติกชั้นนำระดับโลก ทั้งสององค์กรมีวิสัยทัศน์ตรงกันที่ต้องการจะส่งต่อนวัตกรรมการผลิตโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและสร้างประโยชน์สูงสุดให้กับผู้บริโภค ด้วยการใช้นวัตกรรมใหม่ที่เพิ่มความใสให้กล่องอาหารและช่วยประหยัดพลังงาน Millad(R) NX(R) 8000 clarifier มาใช้ในการผลิตในกระบวนการผลิต ข้อดีของ Millad(R) NX(R) 8000 ที่ได้รับเครื่องหมายรับรองด้านสิ่งแวดล้อม เครื่องหมาย UL Green Label จาก Underwriters Laboratories องค์กรรับรองความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ต่างๆ และได้รับการยอมรับจากผู้ผลิตทั่วโลกนั้น คือ คุณประโยชน์ด้านการประหยัดพลังงานที่ใช้ในการผลิตพลาสติกพอลิโพรพิลีน หรือ PP โดยสาร Millad(R) NX(R) 8000 นี้จะเป็น "ฮีโร่" ช่วยลดอุณหภูมิในการผลิตขึ้นรูปผลิตภัณฑ์จากเดิม 245 องศาเซลเซียสให้ต่ำลงมาอยู่ที่ 210 องศาเซลเซียส ทำให้ประหยัดเวลาในขั้นตอนการผลิตได้ถึง 10% เลยทีเดียว ซึ่งการลดการใช้พลังงานในการผลิต แม้เพียงเล็กน้อยแต่ย่อมส่งผลดีต่อโลกและสิ่งแวดล้อมอย่างมาก เพราะสามารถลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้นั่นเอง นอกจากนั้นคุณสมบัติด้านการผลิตที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในระดับต่ำแล้ว ยังให้ผลลัพธ์ด้านคุณภาพของสินค้าที่ดีเลิศอีกด้วย โดยจะช่วยเติมความสว่างสดใสและมันวาวให้เนื้อพลาสติกอย่างเห็นได้ชัด จึงช่วยสื่อสารในเรื่องความสะอาด ทนทาน และปลอดภัย เป็นผลิตภัณฑ์น่าใช้ได้เป็นอย่างดี ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ Clip Pac ที่ใช้นวัตกรรมสารเสริมประสิทธิภาพพลาสติก Millad(R) NX(R) 8000และได้รับการติดเครื่องหมาย UL Green Label นั้น ประกอบด้วยกล่องถนอมอาหาร Clip Pac Touch ที่มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบทั้งเหลี่ยมและกลม มาพร้อมขนาดที่เหมาะสมทุกการใช้งาน อีกทั้งยังมีกล่องถนอมอาหาร Essenta โดดเด่นและแตกต่างด้วยสีสันสะดุดตาของฝากล่อง มาพร้อมกับราคาที่เป็นมิตร ปิดท้ายด้วยกล่องถนอมอาหาร Fresh Pac ที่จะช่วยเก็บอาหารให้สดใหม่กว่าที่เคย เพราะปิดฝาสนิทยิ่งขึ้นด้วย Airtight กันลมเข้าช่วยคงความสดได้นาน ฝาปิดเปิดได้ง่ายขึ้น แถมยังมีมือจับขนาดใหญ่ทำให้หยิบจับกล่องอาหารร้อนได้ง่ายขึ้น เป็นต้น กล่องถนอมอาหารนวัตกรรมสิ่งแวดล้อม Clip Pac พร้อมให้ทุกคนจับจองใช้งานและรักษ์โลกไปด้วยกัน โดยจัดจำหน่ายแล้วผ่านช่องทางจัดจำหน่ายชั้นนำ อาทิ ห้างสรรพสินค้า เดอะมอลล์ เอ็มโพเรียม สยามพารากอน รวมทั้งช็อปคุณภาพของ Pinnic Brand Store@ สำเพ็ง2 และ Nanny นอกจากนั้นยังสามารถสั่งซื้อได้ผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ อย่าง Lazada, Shoppee หรือสั่งซื้อโดยตรงกับบริษัทฯ ได้ที่ www.picnicmall.net ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-897-5051-4

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ