กรุงเทพฯ--7 มี.ค.--
“MayBe6” เป็นกลุ่มคนดนตรีแนวป็อปร็อคที่มากด้วยประสบการณ์และความสามารถ ไร้สังกัด ไร้ค่าย แต่มีแนวทางและจุดหมายเดียวกันคือ ต้องการมีผลงานเพลงที่กลั่นกรองมาจากความเป็นตัวตนของพวกเขาเอง หลังจากผ่านการทำงานด้านเสียงเพลงมาอย่างโชกโชน ในที่สุดความพยายามของพวกเขาก็เป็นผล เมื่อสามารถทำซิงเกิ้ลแรกออกมาเรียบร้อยแล้ว ภายใต้ชื่อว่า DNA
วง เมย์บีซิกส์ ประกอบไปด้วยสมาชิก 5 คน คือ เอ็ม-กวิน พฤษชัยนิมมิต ตำแหน่งร้องนำ, ต้อง-กฤตนัน ศรีอ่อน ร้องนำและเป็นมือคีย์บอร์ด,เอท-กรัณย์ พฤษชัยนิมมิต มือกลอง, เก้-คงพันธ์ ประภาศิริสุลี เล่นเบส, และ ปิ๊ก-ร่มวงศ์ ศรีไชยยันต์ เล่นเพอร์คัสชั่น แต่ละคนล้วนมีฝีมือจัดจ้านและได้ผ่านงานดนตรีทั้งเบื้องหน้าเบื้องหลังมาแล้วมากมาย
“แรงบันดาลใจในการรวมตัวของพวกเรา เมย์บีซิกส์ เกิดจากแรงบันดาลใจของ ปิ๊ก และ ต้อง ทั้งสองคนเคยร่วมงานกันมาก่อนในอัลบั้มของวงลำดวน ซึ่งตอนนั้นปิ๊กเป็นสมาชิกและโปรดิวเซอร์ของ วงลำดวน ส่วน ต้อง เป็นคนแต่งเพลง เคยรักเธอรึเปล่า และเพลงอื่นๆ แต่ตอนนั้นต้องกับปิ๊กไมได้ออกอัลบั้มลำดวนร่วมกัน เพราะ ต้อง ไปออกอัลบั้ม “สีลมดีไลท์” กับ เที้ยง-วิเชียร ตันติพิมลพันธ์ สังกัดค่ายอินดี้คาเฟ่ จนเวลาผ่านไป 4 ปี ต้องกับปิ๊ก ถึงได้มีโอกาสมาร่วมเล่นดนตรีกันอีกครั้งในวง The Bangkok De-Light จึงร่วมกันคิดทำอัลบั้มอีกครั้ง แล้วก็เริ่มทำเพลงมาตั้งแต่มกราคมปี 2550 ครับ” เอ็ม นักร้องนำ อาสาย้อนประวัติความเป็นมาของวงให้ฟัง
หลังจากตกลงใจร่วมกันทำอัลบั้มเพลงอีกครั้ง ทั้งหมดได้แบ่งงานตามความเชี่ยวชาญของแต่ละคน โดย ต้อง เป็นคนรับผิดชอบแต่งเนื้อร้อง ทำนอง เรียบเรียงทั้งหมด โดยมีปิ๊กดูแลการผลิต ส่วนสมาชิกที่เหลือก็ทำงานกันไปตามเองทั้งหมด
ส่วนในพาร์ทของกีตาร์ ก็มีเพื่อนๆ มือกีตาร์ที่สนิทกันมาช่วยบันทึกเสียงให้ อาทิ แชมป์ วงเครสเชนโด้, เอ็กซ์ วงบางกอก ดี-ไลท์, เบนซ์ ขุนอิน โดยในการทำงานต่างๆ สมาชิกในวงจะบันทึกเสียงเอง อัดเสียงเอง ออกแบบดนตรีเอง ขณะเดียวกันก็เล่นดนตรีกลางคืนไปด้วย ตอนนั้นมีนักดนตรีแจ๊สเพียงคนเดียวและไม่ได้อยูในวงของ เดอะ บางกอก ดี-ไลท์ คือ เก้ เขาเคยออกอัลบั้มกับวง บาลามี ซึ่งปิ๊กเป็นโปรดิวเซอร์ จึงได้ชวนมาทำอัลบั้ม MayBe6 ร่วมกัน
“เพลงทั้งหมดในอัลบั้มมีทั้งเพลงช้าและเพลงเร็ว ถ้าเป็นเพลงช้า ก็จะเป็นเพลงเศร้าทั้งหมด มีทำนองที่สวยงามมีเนื้อหาที่ผิดหวัง กับอารมณ์เศร้าๆ ในดนตรีที่เป็นป็อปร็อค ทำให้เพลงช้าของอัลบั้มชุดนี้ค่อนข้างรวดร้าวรุนแรงและกินใจ ส่วนเพลงเร็วก็จะฟังสนุก มีเนื้อหากวนๆ มีการผสมผสานของดนตรีหลายๆ แนวได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็น ร็อค ฟังค์ ลาติน นิวเอจ ฯลฯ พวกเราคิดว่าผู้ชายทุกคนมีความเจ้าชู้กันทั้งนั้น ต่างกันทีจะมากจะน้อย จะเปิดเผยหรืออยากจะซ่อนไว้เท่านั้น ถ้าถามว่าเคยเจอผู้ชายแท้ๆ คนไหนไม่เจ้าชู้เลย เจอผู้หญิงสวยๆ แล้วไม่มองไม่สนใจ ก็นับว่าผิดปกติแล้ว แต่ผู้หญิงก็มักสงสัยกันว่าทำไมผู้ชายถึงเจ้าชู้กันนัก คำตอบทั้งหมดอยู่ในเพลง DNA แล้ว ผมคิดว่าเพลงนี้จะเป็นตัวแทนของผู้ชายทุกคนไว้เป็นคำอธิบายว่า ทำไมผู้ชายต้องเจ้าชู้” หนุ่มเอ็ม นักร้องนำ กล่าวถึง เนื้อหาในเพลง DNA
เชิญค้นหาคำตอบ “ทำไมผู้ชายต้องเจ้าชู้” ผ่านบทเพลง DNA พร้อมชมฝีไม้ลายมือทางดนตรีของพวกเขา “MayBe6” ได้แล้ววันนี้ตามคลื่นวิทยุ