กรุงเทพฯ--2 มี.ค.--เดอะเวย์ คอมมิวนิเคชั่น
“ธีระมงคล อุตสาหกรรม” เผยงบปี 2562 ขาดทุนลดลงเหลือ 8.58 ล้านบาท หลังรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้า และควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ แย้มปี 2563 ผลการดำเนินงานดีขึ้น รับผลบวกออเดอร์รับจ้างประกอบโคมไฟล็อตใหญ่หนุนการเติบโต
นายธีระชัย ประสิทธิ์รัตนพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธีระมงคล อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ TMI เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานปี 2562 บริษัทมีการขาดทุนอยู่ที่ 8.58 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีการขาดทุนอยู่ที่ 18.02 ล้านบาท
โดยมีปัจจัยการเติบโตในปี 2562 มาจากผลการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าที่มีการเติบโตเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ พร้อมกันนี้บริษัทยังมีรายได้จากการขายอยู่ที่ 392 ล้านบาท และบริษัทยังมีต้นทุนการขายอยู่ที่ 261.26 ล้านบาท ลดลง 5.66% จากปี 2561 มีต้นทุนการขายอยู่ที่ 276.94 ล้านบาท เนื่องจากมีการบริหารจัดการที่ดีขึ้น รวมทั้งต้นทุนสินค้าบางรายการที่มีการปรับตัวลง ตามอัตราแลกเปลี่ยน
อีกทั้งบริษัทยังมีค่าใช้จ่ายในการบริหารอยู่ที่ 74.36 ล้านบาท ลดลง 1.72% จากปี 2561 ที่มีค่าใช้จ่ายในการบริหารอยู่ที่ 75.66 ล้านบาท เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการบริหารที่ลดลง หลังจากบริษัทมีการปรับลดค่าล่วงเวลาการทำงาน
“ในปี 2563 คาดว่าผลการดำเนินงานจะฟื้นตัวเป็นไปในทิศทางที่ดี เพราะว่าทางบริษัทได้รับงานคำสั่งผลิตโคมไฟล็อตใหญ่จากลูกค้าจีน ซึ่งเข้ามาติดต่อบริษัทเพื่อจะจ้างประกอบโคมไฟส่งออกไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา ประกอบกับบริษัทยังคาดว่าหากโรงไฟฟ้าสามารถรับรู้รายได้ตามแผนที่ตั้งไว้ ทำให้คาดว่าจะช่วยให้ผลการดำเนินงานมีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ” นายธีระชัย กล่าว
“TMI” เปิดงบปี 2562 ขาดทุนลดเหลือ 8.58 ล้านบาท กางแผนปี 2563 รับออเดอร์รับจ้างประกอบโคมไฟล็อตใหญ่ ดันผลการดำเนินงานเติบโตอย่างแข็งแกร่งล็อตใหญ่
ข่าวเศรษฐกิจ Monday March 2, 2020 08:29 —ThaiPR.net
กรุงเทพฯ--2 มี.ค.--เดอะเวย์ คอมมิวนิเคชั่น
“ธีระมงคล อุตสาหกรรม” เผยงบปี 2562 ขาดทุนลดลงเหลือ 8.58 ล้านบาท หลังรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้า และควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ แย้มปี 2563 ผลการดำเนินงานดีขึ้น รับผลบวกออเดอร์รับจ้างประกอบโคมไฟล็อตใหญ่หนุนการเติบโต
นายธีระชัย ประสิทธิ์รัตนพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธีระมงคล อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ TMI เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานปี 2562 บริษัทมีการขาดทุนอยู่ที่ 8.58 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีการขาดทุนอยู่ที่ 18.02 ล้านบาท
โดยมีปัจจัยการเติบโตในปี 2562 มาจากผลการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าที่มีการเติบโตเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ พร้อมกันนี้บริษัทยังมีรายได้จากการขายอยู่ที่ 392 ล้านบาท และบริษัทยังมีต้นทุนการขายอยู่ที่ 261.26 ล้านบาท ลดลง 5.66% จากปี 2561 มีต้นทุนการขายอยู่ที่ 276.94 ล้านบาท เนื่องจากมีการบริหารจัดการที่ดีขึ้น รวมทั้งต้นทุนสินค้าบางรายการที่มีการปรับตัวลง ตามอัตราแลกเปลี่ยน
อีกทั้งบริษัทยังมีค่าใช้จ่ายในการบริหารอยู่ที่ 74.36 ล้านบาท ลดลง 1.72% จากปี 2561 ที่มีค่าใช้จ่ายในการบริหารอยู่ที่ 75.66 ล้านบาท เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการบริหารที่ลดลง หลังจากบริษัทมีการปรับลดค่าล่วงเวลาการทำงาน
“ในปี 2563 คาดว่าผลการดำเนินงานจะฟื้นตัวเป็นไปในทิศทางที่ดี เพราะว่าทางบริษัทได้รับงานคำสั่งผลิตโคมไฟล็อตใหญ่จากลูกค้าจีน ซึ่งเข้ามาติดต่อบริษัทเพื่อจะจ้างประกอบโคมไฟส่งออกไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา ประกอบกับบริษัทยังคาดว่าหากโรงไฟฟ้าสามารถรับรู้รายได้ตามแผนที่ตั้งไว้ ทำให้คาดว่าจะช่วยให้ผลการดำเนินงานมีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ” นายธีระชัย กล่าว