![AQUA ประกาศกำไรสุทธิจากงบการเงินรวมโตถึง 567.80 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 42 ด้านบอร์ดเคาะเสนอจ่ายปันผลแก่ผู้ถือหุ้นที่ 0.03 บาทต่อหุ้น สูงสุดเป็นประวัติการณ์]()
กรุงเทพฯ--2 มี.ค.--บางกอก ออทัม
บริษัท
อควา คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AQUA รายงานผลการดำเนินงานของบริษัทสำหรับปี 2562 งวด
บัญชีสิ้นสุดวันที่ 31ธันวาคม 2562 โดยบริษัทมีรายได้รวม จำนวน 1,266.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 16.40 และส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนใน EPCO จำนวน 267.25 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 96.44 ทำให้บริษัทมีกำไรสุทธิประจำปีจาก
งบการเงินรวม จำนวน 567.80 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2561 169.78 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 42.66
โดยธุรกิจสื่อป้ายโฆษณาที่เป็นธุรกิจหลักของบริษัทฯ มีรายได้บริการ 809.23 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 113.55 ล้านบาท คิดเป็น 16.32% เมื่อเทียบกับปี 2561, ธุรกิจคลังสินค้าให้เช่าและบริการ มีรายได้ 271.04 ล้านบาท ลดลง 18.36 ล้านบาทคิดเป็นร้อยละ 6.34 เมื่อเทียบกับปี 2561 เนื่องจากคลังสินค้า 1 แห่งของ AWH อยู่ระหว่างการจัดหาผู้เช่ารายใหม่, ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนของมันตรา มีรายได้ 66.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.12 ล้านบาท ตามสัญญาเช่าและบริการ และ ธุรกิจโรงพิมพ์และพลังงานทดแทน มีรายได้ 1,530.27 ล่านบาท (ปันส่วนตามสัดส่วนการถือหุ้น) เพิ่มขึ้น 543 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 55 เมื่อเทียบกับปี 2561
ในการประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 1/2563 เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2563 มีมติสำคัญคือ แต่งตั้ง นายอารักษ์ ราษฎร์บริหาร เข้าดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่, แต่งตั้ง นายปกรณ์ มงคลธาดา เข้าดำรงตำแหน่งกรรมการบริษัท , กรรมการบริหาร และกรรมการผู้มีอำนาจลงนามแทน นายสุพรรณ เศษธะพานิช โดยมีวาระการดำรงตำแหน่งกรรมการเท่ากับวาระที่เหลือของกรรมการที่ลาออก โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2563 เป็นต้นไป
นอกจากนี้ ที่ประชุมฯมีมติอนุมัติให้นำเสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น เพื่อพิจารณาอนุมัติจัดสรรกำไรจากผลการดำเนินงานปี 2562 และกำไรสะสม เป็นสำรองตามกฎหมายจำนวน 7,252,105.26 บาท และการจ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 0.03 บาท คิดเป็นเงินปันผลทั้งสิ้น 137,790,000 บาท (จำนวนหุ้นที่ได้รับปันผลครั้งนี้ 4,593,000,000 หุ้น) ทั้งนี้การจ่ายเงินปันผลคิดเป็นร้อยละ 118.52 ของกำไรสุทธิหลังหักสำรองตามกฎหมายของ
งบการเงินเฉพาะกิจการ และกำหนดให้วันที่ 22 เมษายน 2563 เป็นวันให้สิทธิผู้ถือหุ้น (“Record Date”) ในการรับเงินปันผล โดยให้จ่ายเงินปันผลดังกล่าวแก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 7 พฤษภาคม 2563
รวมทั้งมีมติให้เสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น อนุมัติการลดทุนจดทะเบียนจำนวน 688,950,000 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิมจำนวน 2,985,450,000 บาท เป็นทุนจดทะเบียนจำนวน 2,296,500,000 บาท หรือเป็นหุ้นสามัญจำนวน 1,377,900,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ซึ่งเป็นส่วนที่ขอเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) จากการประชุมครั้งก่อน
และได้มีมติให้เรียกประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2563 ในวันพฤหัสบดี ที่ 9 เมษายน 2563 เวลา 14.00 น. ณ ห้อง Prize Room ชั้น 2 โรงแรม ไอบิส สไตล์ กรุงเทพ รัชดา โดยจะกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิในการเข้าร่วมประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2563 ในวันที่ 17 มีนาคม 2563 (Record date)
นายอารักษ์ ราษฎร์บริหาร กรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวว่า “ในปี 2562 บริษัทฯมีผลกำไรจากการดำเนินงานทะลุ 500 ล้านบาทเป็นครั้งแรก จากธุรกิจหลักคือป้ายโฆษณา บริหารอสังหาริมทรัพย์ และส่วนแบ่งกำไรจาก EPCO ที่มีรายได้หลักจากธุรกิจพลังงาน ที่มีผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจน้อยมาก และการจ่ายเงินปันผล 0.03 บาทต่อหุ้นในครั้งนี้ จะทำให้บริษัทมีอัตราส่วนเงินปันผลตอบแทนเฉลี่ยที่ร้อยละ 5.26 ซึ่งสูงที่สุด เท่าที่เคยจ่ายมา”
![]()
![]()
กรุงเทพฯ--2 มี.ค.--บางกอก ออทัม
บริษัท อควา คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AQUA รายงานผลการดำเนินงานของบริษัทสำหรับปี 2562 งวดบัญชีสิ้นสุดวันที่ 31ธันวาคม 2562 โดยบริษัทมีรายได้รวม จำนวน 1,266.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 16.40 และส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนใน EPCO จำนวน 267.25 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 96.44 ทำให้บริษัทมีกำไรสุทธิประจำปีจากงบการเงินรวม จำนวน 567.80 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2561 169.78 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 42.66
โดยธุรกิจสื่อป้ายโฆษณาที่เป็นธุรกิจหลักของบริษัทฯ มีรายได้บริการ 809.23 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 113.55 ล้านบาท คิดเป็น 16.32% เมื่อเทียบกับปี 2561, ธุรกิจคลังสินค้าให้เช่าและบริการ มีรายได้ 271.04 ล้านบาท ลดลง 18.36 ล้านบาทคิดเป็นร้อยละ 6.34 เมื่อเทียบกับปี 2561 เนื่องจากคลังสินค้า 1 แห่งของ AWH อยู่ระหว่างการจัดหาผู้เช่ารายใหม่, ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนของมันตรา มีรายได้ 66.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.12 ล้านบาท ตามสัญญาเช่าและบริการ และ ธุรกิจโรงพิมพ์และพลังงานทดแทน มีรายได้ 1,530.27 ล่านบาท (ปันส่วนตามสัดส่วนการถือหุ้น) เพิ่มขึ้น 543 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 55 เมื่อเทียบกับปี 2561
ในการประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 1/2563 เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2563 มีมติสำคัญคือ แต่งตั้ง นายอารักษ์ ราษฎร์บริหาร เข้าดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่, แต่งตั้ง นายปกรณ์ มงคลธาดา เข้าดำรงตำแหน่งกรรมการบริษัท , กรรมการบริหาร และกรรมการผู้มีอำนาจลงนามแทน นายสุพรรณ เศษธะพานิช โดยมีวาระการดำรงตำแหน่งกรรมการเท่ากับวาระที่เหลือของกรรมการที่ลาออก โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2563 เป็นต้นไป
นอกจากนี้ ที่ประชุมฯมีมติอนุมัติให้นำเสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น เพื่อพิจารณาอนุมัติจัดสรรกำไรจากผลการดำเนินงานปี 2562 และกำไรสะสม เป็นสำรองตามกฎหมายจำนวน 7,252,105.26 บาท และการจ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 0.03 บาท คิดเป็นเงินปันผลทั้งสิ้น 137,790,000 บาท (จำนวนหุ้นที่ได้รับปันผลครั้งนี้ 4,593,000,000 หุ้น) ทั้งนี้การจ่ายเงินปันผลคิดเป็นร้อยละ 118.52 ของกำไรสุทธิหลังหักสำรองตามกฎหมายของงบการเงินเฉพาะกิจการ และกำหนดให้วันที่ 22 เมษายน 2563 เป็นวันให้สิทธิผู้ถือหุ้น (“Record Date”) ในการรับเงินปันผล โดยให้จ่ายเงินปันผลดังกล่าวแก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 7 พฤษภาคม 2563
รวมทั้งมีมติให้เสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น อนุมัติการลดทุนจดทะเบียนจำนวน 688,950,000 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิมจำนวน 2,985,450,000 บาท เป็นทุนจดทะเบียนจำนวน 2,296,500,000 บาท หรือเป็นหุ้นสามัญจำนวน 1,377,900,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ซึ่งเป็นส่วนที่ขอเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) จากการประชุมครั้งก่อน
และได้มีมติให้เรียกประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2563 ในวันพฤหัสบดี ที่ 9 เมษายน 2563 เวลา 14.00 น. ณ ห้อง Prize Room ชั้น 2 โรงแรม ไอบิส สไตล์ กรุงเทพ รัชดา โดยจะกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิในการเข้าร่วมประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2563 ในวันที่ 17 มีนาคม 2563 (Record date)
นายอารักษ์ ราษฎร์บริหาร กรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวว่า “ในปี 2562 บริษัทฯมีผลกำไรจากการดำเนินงานทะลุ 500 ล้านบาทเป็นครั้งแรก จากธุรกิจหลักคือป้ายโฆษณา บริหารอสังหาริมทรัพย์ และส่วนแบ่งกำไรจาก EPCO ที่มีรายได้หลักจากธุรกิจพลังงาน ที่มีผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจน้อยมาก และการจ่ายเงินปันผล 0.03 บาทต่อหุ้นในครั้งนี้ จะทำให้บริษัทมีอัตราส่วนเงินปันผลตอบแทนเฉลี่ยที่ร้อยละ 5.26 ซึ่งสูงที่สุด เท่าที่เคยจ่ายมา”
