กรุงเทพฯ--10 มี.ค.--โรบินสัน
โรบินสัน ลุยปั้นสินค้าแฟชั่นแตกไลนด์ภายใต้ไพรเวทแบรนด์ เน้นเจาะกลุ่มลูกค้ารุ่นใหม่ หวังดันต่อยอดขายปี 51 หลังพบกำไรปี 50 เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากปีก่อน 20%
โรบินสันแจ้งผลประกอบการปี 50 เพิ่มขึ้นเป็นที่น่าพอใจโดยมีกำไรเติบโต ต่อเนื่องกว่า 20% พร้อมเสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติจ่ายปันผล 50% ของกำไรสุทธิในปลายพฤษภาคมนี้ และยังมีแผนขยายสาขาเพิ่มอีก 6 สาขา ภายในปี 2553 สำหรับปี 51 นี้ โรบินสันมุ่งนำเสนอกลยุทธ 5 แนวคิดดึงดูดใจผู้บริโภค และทุ่มงบ 400 ล้านบาท เพื่อปรับโฉมภาพลักษณ์สาขาทั่วไทยให้ ทันสมัย อีกทั้งยังขยายไลน์สินค้าแฟชั่นไพรเวทแบรนด์ ให้ครบทุกประเภทเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้ารุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์ทันสมัย นอกเหนือจากกิจกรรมทางการตลาดแล้วโรบินสันยังให้ความสำคัญในการร่วมรับผิดชอบต่ดสังคมได้เพิ่มความร่วมมือและการสนับสนุนโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อการศึกษาแก่เยาวชนเพื่อร่วมสร้างสังคมที่ยั่งยืน
นายปรีชา เอกคุณากูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน กล่าวถึงผลประกอบการของบริษัทในปีที่ผ่านมาและทิศทางในการดำเนินธุรกิจของปีนี้ ว่า “ความสำเร็จในปีที่ผ่านมาเกิดจากกิจกรรมทางด้านการตลาดและการจัดหาสินค้าที่ได้รับความสนใจได้ดี ตรงใจลูกค้า ประกอบกับมีการ ปรับปรุงและขยายสาขาใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยมีสาขาลำดับที่ 21 คือ สาขาจังซีลอน จังหวัดภูเก็ต ที่เปิดตัวขึ้นอย่างยิ่งใหญ่เมื่อเดือนกันยายน ปี 2550 ส่วนในด้านการจัดกิจกรรมการตลาดก็เน้นแบบเจาะจงเฉพาะสาขา รวมถึงการวางกลุ่มสินค้าที่ชัดเจน ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ตรงกลุ่ม มากขึ้น ส่งให้ผลประกอบการในปี 2550 ขยับโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเห็นได้จากรายได้ของบริษัทและบริษัทย่อยรวม 12,601.90 ล้านบาท เป็นรายได้จากการขาย เพิ่มขึ้น 473.30 ล้านบาท โตขึ้น 4.38% และผลกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติเพิ่มขึ้น 145.76 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 20.28 ซึ่งมาจากการ เติบโตของยอดขายและการบริหารสินค้าได้ดี ตลอดจนการบริหารค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ จากผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างต่อเนื่องและการบริหารการเงินก็มีการจัดการที่ดี ส่งผลให้บริษัทมีความสามารถจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้น ซึ่งเตรียมเสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นฯ พิจารณาอนุมัติในอัตรา หุ้นละ 0.40 บาท คิดเป็น 51.4% ของกำไรสุทธิ ซึ่งเป็นอัตราที่สูงกว่านโยบายการจ่ายเงินปันผลที่ประกาศไว้
“Robinson Revolution” (โรบินสันเรฟเวอลูชั่น) แนวคิดใหม่ของแผนการตลาดในปี 2551
สำหรับในปีนี้ โรบินสัน มุ่งมั่นที่จะสร้างประสบการณ์ใหม่ที่ให้ความสุขแก่ลูกค้าที่มาช้อปปิ้งมากยิ่งขึ้น ด้วยกลยุทธใหม่ “โรบินสันเรฟเวอลูชั่น” ซึ่งประกอบด้วย 5 แนวคิดที่จะทำให้ลูกค้าประทับใจ และ มีความสุข ตลอดเวลาที่อยู่ในโรบินสัน ทั้งในการเลือกซื้อสินค้าและการใช้ชีวิต
1) New Store Experience สร้างประสบการณ์ใหม่ของการช้อปปิ้ง
การปรับภาพลักษณ์โรบินสันให้ทันสมัยนั้น เราตระหนักถึงความต้องการของผู้บริโภคเป็นหลัก ภายใต้ แนวคิด New Store Experience โดยการปรับรูปแบบร้านใหม่ตั้งแต่ การจัดวางสินค้าโดยเรียงลำดับ ตามรูปแบบของพฤติกรรมการเลือกซื้อ เพื่อให้เกิดความสะดวก รวดเร็วในการค้นหา หรือเลือกชม และ ยังมีการออกแบบไลท์ติ้ง เพื่อสร้างบรรยากาศที่ดึงดูดใจและให้ความสำคัญกับรายละเอียดของสินค้า อย่างชัดเจน ที่สำคัญ เพื่อเป็นการตอกย้ำความเป็นผู้นำแฟชั่น ได้มีการออกแบบจัดดีสเพลย์รูปแบบใหม่ ที่เน้นธีมแฟชั่นใหม่ล่าสุด และนำเสนอสินค้าแฟชั่นที่ทันกระแส พร้อมมีทิปเคล็ดลับในการติดตามกระแสแฟชั่น เพื่อนำเสนอทางเลือกให้กับลูกค้าอย่างถูกต้อง และเหมาะสมกับความต้องการ
2) Fashion and Differentiation พัฒนาสินค้าแฟชั่นที่แตกต่างทันสมัย และไม่สามารถหาได้จากที่ใด
ส่วนกลยุทธ์การบริหารสินค้า เน้นการพัฒนาศักยภาพสินค้าไพรเวทแบรนด์ ด้วยการออกแบบที่ทันมัย และเลือกใช้วัสดุระดับพรีเมี่ยม และผลิตให้มีคุณภาพ นอกจากนี้ยังเพิ่มสินค้าให้ครอบคลุมทุกไลน์สินค้า ในส่วนของสินค้าแบรนด์ดังจากต่างประเทศ ก็มีการนำเข้าเพื่อให้เป็นสินค้า Only @ Robinson อาทิ แผนกเสื้อผ้าสตรี นำเข้าแบรนด์ Goelia, Allure Noir, Voir Shoez เป็นต้น
ส่วนด้านสินค้าตกแต่งบ้าน ในแผนกโฮม เน้นความทันสมัยด้วยดีไซน์เก๋ ภายใต้ วัตถุดิบคุณภาพสูง และเพิ่มคอลเลคชั่นใหม่ๆ ออกสู่ตลาดทุกซีซั่น ทั้งสินค้าประเภท ผ้าขนหนู, ชุดเครื่องครัว, อุปกรณ์ทำอาหาร, ชุดเครื่องนอน และสำหรับสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็กในครัวเรือน อีกทั้งพัฒนาสินค้าของตัวเอง สร้างแบรนด์ใหม่คุณภาพระดับพรีเมี่ยม ภายใต้ยี่ห้อ “Cuizimate” เน้นความทันสมัย ดีไซน์เก๋ เหมาะกับ ครอบครัวยุคใหม่ และห้องครัวสมัยใหม่ยุคดิจิตอล เข้ามาจำหน่ายเพิ่มทางเลือกมากยิ่งขึ้น
3) Targeted & Inspired Marketing แนวคิดใหม่ทางการตลาดที่เน้นการสร้างให้เกิดความต้องการใหม่ๆ มากกว่าแค่ตอบสองความต้องการเดิมๆ
เป็นการทำการตลาดแบบเจาะลึกโดยทำ Customer Research และใช้ Data Mining Tool เพื่อศึกษาให้เข้าใจถึงความต้องการของลูกค้าที่เกิดขึ้น ความแตกต่างของแต่ละกลุ่ม แต่ละบุคคล รวมไปถึงอิทธิพลในการตัดสินใจ นอกจากนี้เพื่อหาวิธีการนำเสนอใหม่ๆ โดยปีนี้จะสร้าง fashion theme ต่อเนื่องตลอดทั้งปี สร้างกลยุทธการสื่อสาร ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้ง Above the line อาทิ TV Tie-in, Bill Board, Banner, Magazine และ Below the line มีแผนจัดอีเวนท์เพื่อเจาะใจและดึงดูดลูกค้ารุ่นใหม่ รวมทั้งเพิ่มระดับความสัมพันธ์กับลูกค้าประจำด้วยบริการพิเศษที่แตกต่างที่นำเสนอให้อย่างสม่ำเสมอ สำหรับ ปีนี้ตั้งงบการตลาดที่ 280 ล้านบาท ซึ่งสูงขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาอีก 20%
4) Service Excellent เราต้องสร้างการบริการที่ชนะใจ ไม่ใช่แค่ประทับใจ
เพราะโรบินสันตระหนักดีว่าการบริการที่ดีเลิศจะสร้างความประทับใจให้ลูกค้าได้ แต่ถ้าเรามีการบริการที่เหนือความคาดหวัง นั่นจะช่วยให้โรบินสันชนะใจลูกค้าได้อย่างสมบูรณ์แบบ เราจึงได้สร้างมาตรฐานใหม่ของการบริการที่ไม่เป็นเพียงการแสดงออกภายนอก แต่ต้องออกมาจากจิตใจ และให้ลูกค้ารู้สึกถึงความสำคัญที่เรา ใส่ใจมอบให้เฉพาะตัวบุคคลมากขึ้น
5) Sustainable CSR เป็นหนึ่งเดียวกันเพื่อสร้างพลังความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างยั่งยืน
ในปี 2551 นี้ “โรบินสัน” ต้องการสานต่อปณิธานบริษัท และสร้างความร่วมมือ ร่วม แรงใจ ของทุกฝ่าย ทั้ง โรบินสัน ลูกค้า และพนักงาน เพื่อมอบโอกาสทางการศึกษาให้กับเยาวชนผู้ด้อยโอกาสในถิ่นทุรกันดาร เพื่อเติมเต็มด้านพัฒนาการ เปิดโลกกว้างทางการเรียนรู้สู่เยาวชน เพื่อร่วมยกระดับการศึกษาของเยาวชนไทยให้ได้มาตรฐานทัดเทียมมากยิ่งขึ้น โดยจัดสรรงบประมาณ และเปิดโอกาสให้พนักงานและลูกค้าเข้ามามีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมมากขึ้น ซึ่งได้แก่ โครงการ “โรบินสัน แต้ม 80 ฝัน ให้ 80 โรงเรียน” และโครงการสร้าง โรงเรียน “I Love My School—หนูรักโรงเรียน” เพื่อร่วมพัฒนาเยาวชนที่มีประสิทธิภาพและก้าวสู่สู่สังคม อย่างมีคุณภาพมากขึ้น
ทุ่มงบ 3,000 ล้านบาท เพื่อขยายสาขาให้ครบ 27 สาขา ภายในปี 2553
ภาพรวมของแผนธุรกิจ ได้ตั้งเป้าไว้ในอีก 2 ปีข้างหน้านั้น จะขยายสาขาเพิ่มอีก 6 สาขา ซึ่งขณะนี้ 3 สาขาอยู่ในระหว่างดำเนินการ และอีก 3 สาขา อยู่ในระหว่างเจรจาสรุปโครงการ ส่วนในปีนี้จะเน้นการปรับปรุงสาขาที่มีศักยภาพโดยเฉพาะในต่างจังหวัด เพื่อทำให้เป็น โรบินสัน กลายเป็น “จุดศูนย์รวม” ของจังหวัดนั้นๆ ต่อเนื่องจากที่ได้ มีสาขาต้นแบบ อาทิ สาขาเชียงใหม่ ซึ่งมีไลฟ์สไตล์ชัดเจน มีสินค้าแบรนด์อินเตอร์ให้ลูกค้าอัพเดทแฟชั่นทันสมัยทัดเทียมกับห้างที่อยู่ใจกลางกรุงเทพฯ โดยจะนำรูปแบบใหม่นี้ ไปปรับปรุงสาขาอื่นๆ ทั้ง อุดรธานี, ศรีราชา เพื่อยกระดับความทันสมัยของห้างฯ ต่อไป
“มั่นใจว่า “โรบินสัน” จะกลายเป็นแบรนด์ในใจของลูกค้า ตามคอนเซ็ปต์ “The Most preferred Department Store” และมั่นใจด้วยกลยุทธที่กล่าวมา จะสามารถขยับเป้า ยอดขายให้โตขึ้นอย่างต่อเนื่องได้ไม่ต่ำกว่า 8 % ในปีนี้อย่างแน่นอน“ นายปรีชา กล่าวทิ้งท้าย
รายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ # โทร. 0-2248-2626-35 ต่อ 428, 429, 445
คุณกาญจนวรรณ (เอ้), คุณสมฤทัย (เอ๋) 081-430-5909, คุณลักษมณ (ปลา), 087-980-9110, คุณปริฐา (เป้)