ไอดีซี พบว่าการเติบโตของดิจิตอลคอนเทนต์ที่ถูกเก็บไวั้ตามบ้านต่างๆ จะ เป็นตัวกระตุ้นการเติบโตของอุปกรณ์การเก็บข้อมูลส่วนบุคคล

ข่าวเทคโนโลยี Tuesday March 11, 2008 09:54 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--11 มี.ค.--ไอดีซีเอเชียแปซิฟิค ไอดีซี พบว่าการเติบโตของดิจิตอลคอนเทนต์ที่ถูกเก็บไว้ัตามบ้านต่างๆ จะ เป็นตัวกระตุ้นการเติบโตของอุปกรณ์การเก็บข้อมูลส่วนบุคคล ในภาคพื้น เอเชียแปซิฟิค จากการายงานผลการทำวิจัยในเรื่อง การสำรวจอุปกรณ์การเก็บข้อมูล ที่ใช้ในบ้านประจำปี พ.ศ. 2550 พบว่าการเพิ่มขึ้นของดิจิตอลคอนเทนต์ช่วยเพิ่มโอกาสในการขยายตัวอย่างมากให้กับ อุปกรณ์เก็บข้อมูลส่วนบุคคลในหลาย ประเทศของภาคพื้นเอเชียแปซิฟิค ผู้ถูกสำรวจในการศึกษาครั้งนี้ระบุถึงประเภท อุปกรณ์การเก็บข้อมูลว่า พวกเขาชอบที่จะเก็บข้อมูลไว้ในแผ่นซีดี หรือ คัดลอกข้อมูลไว้ในฮารด์ดิสก์จากภายนอก ที่เชื่อม ต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์มากที่สุด ส่วนการคัดลอกข้อมูลลงแผ่นดีวีดี เป็นอุปกรณ์การเก็บข้อมูลที่นิยมมากเป็นอันดับสาม ขณะที่มีเพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์ ตอบว่าเขาจะใช้ การให้บริการเก็บรักษาข้อมูลแบบออนไลน์ หรือ คัดลอกข้อมูลเก็บไว้ใน ฮาร์ดดิสก์ที่เชื่อมต่อผ่านเครือข่ายภายในบ้าน มิสเตอร์ คลาวดิโอ เชคเชีย ผู้จัดการวิจัยฝ่ายตลาดผู้บริโภคประจำ ไอดีซีเอเชียแปซิฟิค กล่าวว่า สืบเนื่องจากการเติบโต ของจำนวนผู้ใช้อินเตอร์เน็ตภายในบ้าน ที่เชื่อมต่อผ่านสายอินเตอร์เน็ตบรอดแบนด์ และ การเติบโตอย่างรวดเร็วของ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ประเภทต่างๆ ตามบ้านเช่น เครื่องเล่น MP 3 เครื่องเล่นเกมส์ กล้องถ่ายรูปดิจิตอล และ กล้องวีดีโอ ในด้านหนึ่งนั้น ดิจิตอลคอนเทนต์ของผู้บริโภคที่ต้องบริหารและเก็บรักษาไว้คาดว่าจะเป็นส่วนผลักดันให้เกิดความต้องการ ใช้งานซีดี/ดีวีดีไรท์เตอร์ และฮารด์ดิสก์ที่ใช้กับคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล และ รวมถึงเครื่องเก็บข้อมูลส่วนบุคคลแบบอื่นๆ แต่ในทางกลับกันนั้น สิ่งนี้ก็เป็นสาเหตุของหลายข้อคิดในด้านการเก็บรักษา การสำรองข้อมูล และ การแบ่งปันพื้นที่ของ ไฟล์ข้อมูลดิจิตอลมีเดียขนาดใหญ่ จากผลการสำรวจภายใต้โครงการ ”Skypad” ของไอดีซีที่ทำขึ้นเมื่อ ปี พ.ศ. 2550 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อค้นหาว่า จะมีดิจิตอลคอนเทนต์ที่ครอบคลุมคอนเทนต์ทั้งที่เป็นส่วนตัวและดาวน์โหลดจากอินเตอร์เน็ต จำนวนมากเท่าไรที่กลุ่ม เป้าหมายได้จัดเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ที่บ้านจะมีขนาดของข้อมูล ซึ่งผลการสำรวจพบว่า กลุ่มเป้าหมายมากกว่าครึ่งหนึ่ง มีการเก็บข้อมูลสำหรับ ดิจิตอลคอนเทนต์น้อยกว่า 100 กิกะไบต์ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มเป้าหมายที่อยู่ในประเทศจีน ตามมาด้วย อินเดีย เกาหลี มาเลเซีย และ ฮ่องกง จากกลุ่มเป้าหมายที่มีการเก็บข้อมูลมากกว่า 100 กิกะไบต์ ซึ่งมีีเพียงแค่ 1 ใน 4 ของกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด พบว่าประเทศไต้หวันเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้ที่มีเก็บรักษาข้อมูลไว้มากกว่า 100 กิกะไบต์มากที่สุด ตามมาด้วย ประเทศไทย ฮ่องกง และ อินเดีย ตามลำดับ และ สำหรับกลุ่มสุดท้ายซึ่งเป็นกลุ่ม ที่มีปริมาณการเก็บข้อมูลมากที่สุด พบว่า มีเพียงแค่ 2% จากการสำรวจทั้งหมด เป็นกลุ่มที่มีการเก็บข้อมูลไว้มากกว่า 1 เทราไบต์ โดยที่กลุ่มคนเหล่านั้น พบมากในประเทศไทย ไต้หวัน และ ฮ่องกง ตามลำดับ จากผลสำรวจ เมื่อพิจารณาถึงข้อมูลที่มีค่าที่ผู้ถูกสำรวจได้ทำการสำรองข้อมูลไว้ พบว่ามีการเก็บสำรองข้อมูลแบ่งตาม ประเภทที่แตกต่างกันไป อย่างไรก็ตามพบว่า รูปภาพส่วนบุคคล และ เอกสารส่วนบุคคล เป็นสิ่งที่มีค่ามากที่สุด ที่ผู้ถูก สำรวจส่วนใหญ่เลือกที่จะทำการเก็บสำรองไว้ ตามมาด้วย ไฟล์เสียง และ ดิจิตอลคอนเทนต์ประเภทอื่นๆ ไอดีซีคาดว่า ตลาดอุปกรณ์การเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง และ มีโอกาสทางธุรกิจอีกมาก ดังเช่น ผลของการสำรวจแสดงให้เห็นว่า ผู้ถูกสำรวจส่วนใหญ่จะมีการขยายการเก็บข้อมูลในระดับปานกลางถึงสูงมากในอีก 12 เดือนข้างหน้า เมื่อเปรียบเทียบการเก็บรักษาในปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในประเทศไทย อินเดีย จีน เกาหลี มีเปอร์เซนต์สูงกว่าประเทศอื่นๆ ในประเทศไทยและ ไต้หวันมีความเชื่อมันว่า จะมีการเติบโตของข้อมูลมัลติมีเดีย ใน ระดับปานกลางถึงสูงมาก ภายในปีหน้าเมื่อเทียบกับระดับของข้อมูลในปัจจุบัน รายงานฉบับนี้ ได้มีการวิเคราะห์ลงมาถึง ระดับประเทศ ภายในภาคพื้นเอเชียแปซิฟิค และรวมถึงระดับอุปกรณ์ ที่ถูก เลือกใช้ เช่น ฮาร์ดดิสก์แบบต่อเชื่อมจากภายนอก เทียบกับซีดี/ดีวีดีไรท์เตอร์ รายงานฉบับนี้ยังจำแนกความแตกต่าง ระหว่าง การเชื่อมต่อกับเครือข่ายในบ้านกับการเชื่อมต่อโดยตรงไม่ผ่านเครือข่าย รวมถึงการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ ระหว่างการใช้อุปกรณ์กับระดับรายได้ของครัวเรือน เกี่ยวกับไอดีซี ไอดีซี เป็นบริษัทที่ปรึกษา และ วิจัยข้อมูลการตลาดชั้นนำระดับโลก ที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ โทรคมนาคม และ คอนซูเมอร์เทคโนโลยี โดยนำเสนอข้อมูลจากการวิเคราะห์-เจาะลึกแก่ผู้เชี่ยวชาญด้านไอที ผู้บริหาร และนักลงทุน ให้สามารถนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจจัดซื้อเทคโนโลยีและกำหนดกลยุทธ์ทางธุรกิจ ปัจจุบันไอดีซีมี นักวิเคราะห์ กว่า 900 คน ใน 90 ประเทศ ทำหน้าที่นำเสนอข้อมูล และ ให้คำปรึกษาเชิงกลยุทธ์อย่างรอบด้าน แก่ลูกค้า ในเรื่องเทคโนโลยี รวมถึงโอกาสทางธุรกิจและแนวโน้มของอุตสาหกรรมต่างๆ ทั้งในระดับโลก ระดับภูมิภาค และ ในแต่ละ ประเทศ ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญที่สั่งสมมากว่า 43 ปี เพื่อช่วยให้ลูกค้าบรรลุทุกวัตถุประสงค์ทางธุรกิจ ไอดีซี เป็นบริษัทในเครือของไอดีจี ซึ่งดำเนินธุรกิจสื่อสายเทคโนโลยี วิจัย และจัดงานสัมมนา ชั้นนำระดับโลก ค้นหา ข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.idc.co.th สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : คุณศศิธร แซ่เอี้ยว ที่หมายเลข 662-651-5585 ต่อ 113 Email: [email protected]

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ