อุตฯ ของเล่นไทยมั่นใจ BIG & BIH ดันยอดขายโต 15% ประกาศแผน 3 ปีจับมือกรมฯ ส่งออกเจาะตลาดเชิงรุกทุกรูปแบบ

ข่าวทั่วไป Tuesday April 5, 2005 16:55 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--5 เม.ย.--อินดัสเทรียล ดีไซน์ เน็ทเวิร์ค
อุตฯ ของเล่นไทยมูลค่ากว่า 1.2 หมื่นล้านสดใส เชื่อมั่น BIG & BIH 2005 ผลักดันยอดขายเพิ่ม 10-15% ประกาศแผน 3 ปีทำตลาดเชิงรุกทุกรูปแบบ จับมือกรมส่งเสริมการส่งออกลุยต่างประเทศเน้นรักษาตลาดเก่าอเมริกา ญี่ปุ่น พร้อมเจาะฐานกลุ่มของเล่นใหญ่ ขณะเดียวกันเล็งตลาดใหม่อย่างดูไบ ประตูสู่ตะวันออกกลาง เดินแผนเชิงลึกประเดิมงานแรก Middle East Toy Fair ขณะที่ตลาดในประเทศดันโครงการ Good Toy Awards ต่อเนื่อง มั่นใจเป็นกลไกหลักกระตุ้นผู้ประกอบการใส่ใจคุณภาพมาตรฐานการผลิต ตั้งเป้าตลาดโตขึ้น 10-15%
นางสาวดวงใจ คูห์ศรีวินิจ นายกสมาคมอุตสาหกรรมของเล่นไทย เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมของเล่นไทยในปัจจุบันส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมระดับเอสเอ็มอี การที่จะนำผลิตภัณฑ์ของเล่นไทยไปแสดงในเวทีนานาชาติต้องมีการลงทุนมาก ซึ่งเจ้าของธุรกิจเหล่านั้นไม่มีเงินทุนมากนัก การที่กรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ จัดงานแสดงสินค้าของขวัญและงานแสดงสินค้าของใช้ในบ้าน (Bangkok International Gift Fair & Bangkok International Houseware Fair : BIG & BIH) ขึ้น จึงเป็นการต่อยอดและเป็นโอกาสที่ดีของผู้ประกอบการสามารถนำสินค้ามาแสดงในงานระดับสากลให้ผู้สนใจทั้งในและต่างประเทศ
ที่ผ่านมาสามารถผลักดันยอดขายให้มีอัตราการเติบโตขึ้นประมาณ 10-15% คาดว่างาน BIG & BIH 2005 จะช่วยให้ยอดขายโตขึ้นในระดับเดียวกันกับปีที่ผ่านๆ มา
ปัจจุบันมูลค่าตลาดรวมของเล่นไทยมีทั้งสิ้นประมาณ 12,000 ล้านบาท แบ่งเป็น การส่งออกในต่างประเทศประมาณ 8,000 ล้านบาท และในประเทศประมาณ 4,000 ล้านบาท โดยตลาดส่งออกหลักอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา 30% ส่วน 70% ที่เหลือได้แก่ประเทศญี่ปุ่น อังกฤษ และตลาดอื่นๆ ซึ่งมีอัตราการเติบโตคงที่ 0.5-1%
สำหรับนโยบายการทำตลาด ทางสมาคมฯ มีเป้าหมายจะผลักดันการทำตลาดเชิงรุกทุกด้าน โดยในส่วนของตลาดต่างประเทศจะยังคงรักษาตลาดเก่าไว้ เนื่องจากเป็นตลาดที่ให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ของเล่นมากและมีการบริโภคในสัดส่วนที่ดี โดยสมาคมฯ จะร่วมมือกับกรมส่งเสริมการส่งออกจัดเป็น Trade Mission หรือคณะผู้แทนทางการค้า ซึ่งจะทำตลาดเฉพาะกลุ่มของเล่นใหญ่ นอกจากนี้ยังได้รับการสนับสนุนจากกรมฯ ในการทำตลาดที่ประเทศญี่ปุ่นด้วย โดยกรมฯ ได้จัดหาผู้เชี่ยวชาญในประเทศญี่ปุ่นให้ข้อมูลทางการตลาดกับสมาคมฯ ขณะนี้ได้มีการนัดหมายเจรจาเรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะช่วยการทำตลาดให้กับธุรกิจระดับเอสเอ็มอีได้มาก โดยจะเป็นการสร้างเลือดใหม่ให้กับอุตสาหกรรมของเล่นไทย คาดว่าจะส่งผลให้ตลาดส่วนนี้มีปริมาณส่งออกเพิ่มขึ้น 5-10%
ขณะเดียวกันสมาคมฯ มีแผนจะเข้าไปทำตลาดใหม่ในต่างประเทศเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นการเจาะตลาดเชิงลึกที่จะช่วยผลักดันยอดขายส่งออก ประเทศแรกที่จะเข้าไปทำตลาดในปีนี้คือ ดูไบ เนื่องจากเป็นตลาดที่มีศักยภาพการเติบโตสูง และเป็นประเทศที่จะนำไปสู่การทำตลาดในภูมิภาคตะวันออกกลางทั้งหมด โดยปลายเดือนพฤษภาคมนี้ สมาคมฯ จะนำสมาชิกไปร่วมงาน Middle East Toy Fair ที่ประเทศดูไบ ส่วนใน 3-5 ปีข้างหน้าจะเน้นเจาะตลาดประเทศแถบละติน ลักษณะคล้ายกับการทำตลาดในประเทศญี่ปุ่น
ส่วนการทำตลาดในประเทศ สมาคมฯ มีนโยบายผลักดันตลาดในประเทศให้มีคุณภาพมาตรฐานสากลมากขึ้น เนื่องจากตลาดในประเทศในปัจจุบันมีแนวโน้มที่จะมีอัตราการเติบโตมากขึ้น โดยในงาน BIG & BIH เดือนเมษายนปีที่แล้ว สมาคมฯ ได้เริ่มจัดโครงการประกวด Good Toy Awards 2004 ขึ้นเป็นครั้งแรก เป้าหมายเพื่อต้องการประชาสัมพันธ์เผยแพร่สร้างการรับรู้ทั้งในและต่างประเทศว่า ประเทศไทยซึ่งเป็นประเทศแรกในเอเชียที่ยกระดับสร้างคุณภาพและมาตรฐานในการผลิตของเล่น อีกทั้งจะเป็นกลไกสำคัญที่จะกระตุ้นผู้ประกอบการหันมาใส่ใจในเรื่องการผลิตของเล่นให้มีคุณภาพและมาตรฐานมากขึ้น
“การดำเนินงานที่ผ่านมาได้รับผลสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ โดยมีผู้ประกอบการในประเทศเข้าร่วมโครงการประกวดมากถึง 28 รายการ ซึ่งทางสมาคมฯ จะผลักดันและให้ความสำคัญกับโครงการ Good Toy Awards อย่างต่อเนื่อง คาดว่าโครงการนี้จะส่งผลให้การทำตลาดในประเทศใน 3-5 ปีมีอัตราการเติบโตขึ้นได้อีกประมาณ 10-15 %” นางสาวดวงใจกล่าวทิ้งท้าย
รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
บริษัท อินดัสเทรียล ดีไซน์ เน็ทเวิร์ค จำกัด
โทร 02 — 203 0522--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ