กรุงเทพฯ--24 มี.ค.--เพอร์มา คอร์ปอเรชั่น
บริษัท เพอร์มา คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมสิ่งทอ ผู้คิดค้นและเจ้าของนวัตกรรม “เส้นใยเพอร์มา” เทคโนโลยีขั้นสูงของวงการสิ่งทอ ที่ผสานนาโนซิงค์ออกไซด์ฝังแน่นเข้าไปในเส้นใย สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียได้อย่างคงทนถาวร (Permanent Functional Textile) และปลอดภัยตั้งแต่กระบวนการผลิตไปจนถึงการใช้งาน ล่าสุด เดินหน้าช่วยชาติ ด้วยการผลิตหน้ากากผ้าที่ได้รับการยอมรับโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ อีกทั้งยังช่วยยับยั้งแบคทีเรียและป้องกันฝุ่น PM2.5 โดยซักได้มากกว่าร้อยครั้ง เพื่อใช้ทดแทนหน้ากากอนามัยในภาวะขาดแคลนและราคาสูง หวังเป็นส่วนหนึ่งที่ได้ช่วยเหลือคนไทยรอดพ้นจากสถานการณ์ COVID-19 ไปด้วยกัน
นายไชยยศ รุ่งเจริญชัย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เพอร์มา คอร์ปอเรชั่น จำกัด บริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมสิ่งทอ ผู้คิดค้นและเจ้าของนวัตกรรม “เส้นใยเพอร์มา” (Perma Fiber) กล่าวว่า “เพอร์มา ได้รับการยอมรับและได้รับความไว้วางใจจากคู่ค้าและลูกค้ามากมายทั้งในประเทศและในภูมิภาค ซึ่งความโดดเด่นของ “เพอร์มา” อยู่ที่การเป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญขั้นสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเป็นผู้คิดค้นและเป็นเจ้าของนวัตกรรม "เส้นใยเพอร์มา" ที่เป็นการผสมผสานระหว่างนาโนเทคโนโลยี และ เทคโนโลยีสิ่งทอ ได้เป็นเส้นใยที่มี “นาโนซิงค์ออกไซด์” เข้าไปฝังตัวแน่นอยู่ในเส้นใย โดยไม่หลุดลอกออกมาและคงประสิทธิภาพอย่างถาวรแม้จะผ่านการซักเป็นร้อยครั้ง ซึ่งเทคโนโลยีที่เราคิดค้นถือได้ว่าเป็นรายแรกของภูมิภาคเอเชียและเป็นรายต้น ๆ ของโลก”
“นาโนซิงค์ออกไซด์” ได้ผ่านการทดสอบและยอมรับจากการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ว่ามีคุณสมบัติในการกำจัดและยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ซึ่งเป็นสาเหตุของกลิ่นไม่พึงประสงค์ โรคผิวหนัง ไซนัส และภูมิแพ้ อีกทั้งยังมีความปลอดภัยสูงกว่าเทคโนโลยีอื่น พร้อมกับเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตลอดทั้งกระบวนการผลิตและการใช้งาน โดยทุกขั้นตอนของกระบวนการผลิต ตั้งแต่การผลิตเส้นใยไฟเบอร์ การปั่นเป็นเส้นด้าย การทอหรือถักเป็นผ้า ตลอดจนเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ จึงไม่มีการปนเปื้อนของ นาโนซิงค์ออกไซด์ สู่สิ่งแวดล้อม เพราะการฝังนาโนซิงค์ออกไซด์ในเส้นใยทำให้ไม่มีสารเคมีโลหะหนักหลุดลอกออกมาปนเปื้อนสู่สิ่งแวดล้อม ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์คงประสิทธิภาพอย่างถาวรทั้งในการดูแลสุขภาพของผู้สวมใส่และการดูแลโลกไปพร้อม ๆ กัน โดยได้รับการรับรองมาตรฐานการทดสอบประสิทธิภาพในการยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียจากสถาบันรับรองคุณภาพมาตรฐานอุตสาหกรรมญี่ปุ่น JIS, BOKEN , KAKEN Test และ QTEC จากสถาบันเทคโนโลยีและมาตรฐานสิ่งทอ THTI และผ่านการรับรองคุณสมบัติในการยับยั้งแบคทีเรียอย่างมีประสิทธิภาพจาก SGS และนอกจากนี้ยังได้รับรางวัล INTERNATIONAL INNOVATION AWARDS และ CSR จากENTERPRISE ASIA
นายไชยยศ กล่าวเพิ่มเติมว่า “จากภาวะขาดแคลนหน้ากากอนามัย บริษัทฯ จึงได้ผลิตหน้ากากผ้า ซึ่งพัฒนาร่วมกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อหวังให้คนไทยได้มีหน้ากากผ้าใช้ทดแทนหน้ากากอนามัยที่หายากในช่วงสถานการณ์ COVID-19 โดยหน้ากากผ้าของเพอร์มามีทั้งสำหรับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ และแบบทั่วไป ซึ่งทั้ง 2 แบบสามารถยับยั้งแบคทีเรีย ทำให้ไม่มีกลิ่นเหม็นอับของน้ำลายและสารคัดหลั่ง กรองและป้องกันรังสียูวี ซึ่งเป็นตัวการที่เป็นอันตรายต่อเซลล์ผิวหนัง ระบายความชื้น เบาสบาย ถ่ายเทอากาศได้ดี และจากการทดสอบด้วยเครื่องวัด PM2.5 ในเบื้องต้น หน้ากากผ้าเพอร์มายังสามารถป้องกันฝุ่น PM2.5 ได้อีกด้วย มีอายุการใช้งานยาวนานกว่า 3 เดือน หรือซักได้มากกว่าร้อยครั้ง ซึ่งนอกจากสามารซักใช้ได้ซ้ำ ลดการสิ้นเปลืองแล้ว ยังเป็นการช่วยลดปริมาณขยะที่จะเกิดขึ้นจากหน้ากากอนามัยแบบใช้แล้วทิ้งได้อีกด้วย โดยหน้ากากผ้าเพอร์มา หรือ PERMA MASK จะเริ่มทยอยเข้าบางส่วนให้สั่งซื้อได้ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม และจะมีสินค้าเข้ามาเพิ่มเติมมากขึ้น ตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม เป็นต้นไป ในราคาชิ้นละ 100 บาท สามารถสั่งซื้อได้ทางออนไลน์ที่ https://perma.bentoweb.com/th”
“สำหรับแผนธุรกิจของเพอร์มา ปัจจุบันมุ่งเน้นในเรื่องการผลิตนวัตกรรมสิ่งทอเพื่อการแพทย์เพิ่มมากขึ้น เช่น หน้ากากอนามัยป้องกันแบคทีเรีย กางเกงชั้นในบรรเทาอาการติดเชื้อในช่องคลอด ผ้าปูที่นอนในโรงพยาบาลที่ป้องกันการเกิดแผลกดทับ ผ้าพันแผลลดการติดเชื้อในผู้ป่วยเบาหวานและผู้ป่วยทั่วไป ทำให้เชื้อแบคทีเรียไม่เติบโตบนแผลและทำให้แผลแห้งไวมากขึ้น เครื่องนอนป้องกันเชื้อดื้อยา ถุงเท้าสำหรับผู้ป่วยเบาหวานเพื่อยกระดับสุขภาพอนามัยให้กับผู้บริโภคทั่วไป รวมทั้งนำไปใช้ในโรงพยาบาลต่าง ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาได้ดีขึ้น เป็นต้น ซึ่งสิ่งทอเพื่อการแพทย์ถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพ และบริษัทฯ เองก็มีศักยภาพในการผลิตสิ่งทอคุณภาพที่ตอบโจทย์ความต้องการขั้นสูงนั้นได้เป็นอย่างดี โดยผลิตภัณฑ์ทั้งหมดได้ผ่านการทดสอบจากโรงพยาบาลชั้นนำจนเป็นที่ยอมรับในวงการ”
“เพอร์มา” ผู้คิดค้นและเจ้าของนวัตกรรม “เส้นใยเพอร์มา” รายเดียวในเอเชีย ผลิตหน้ากากผ้าทางการแพทย์ ช่วยคนไทยสู้ศึก COVID-19
ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday March 24, 2020 10:26 —ThaiPR.net
กรุงเทพฯ--24 มี.ค.--เพอร์มา คอร์ปอเรชั่น
บริษัท เพอร์มา คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมสิ่งทอ ผู้คิดค้นและเจ้าของนวัตกรรม “เส้นใยเพอร์มา” เทคโนโลยีขั้นสูงของวงการสิ่งทอ ที่ผสานนาโนซิงค์ออกไซด์ฝังแน่นเข้าไปในเส้นใย สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียได้อย่างคงทนถาวร (Permanent Functional Textile) และปลอดภัยตั้งแต่กระบวนการผลิตไปจนถึงการใช้งาน ล่าสุด เดินหน้าช่วยชาติ ด้วยการผลิตหน้ากากผ้าที่ได้รับการยอมรับโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ อีกทั้งยังช่วยยับยั้งแบคทีเรียและป้องกันฝุ่น PM2.5 โดยซักได้มากกว่าร้อยครั้ง เพื่อใช้ทดแทนหน้ากากอนามัยในภาวะขาดแคลนและราคาสูง หวังเป็นส่วนหนึ่งที่ได้ช่วยเหลือคนไทยรอดพ้นจากสถานการณ์ COVID-19 ไปด้วยกัน
นายไชยยศ รุ่งเจริญชัย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เพอร์มา คอร์ปอเรชั่น จำกัด บริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมสิ่งทอ ผู้คิดค้นและเจ้าของนวัตกรรม “เส้นใยเพอร์มา” (Perma Fiber) กล่าวว่า “เพอร์มา ได้รับการยอมรับและได้รับความไว้วางใจจากคู่ค้าและลูกค้ามากมายทั้งในประเทศและในภูมิภาค ซึ่งความโดดเด่นของ “เพอร์มา” อยู่ที่การเป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญขั้นสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเป็นผู้คิดค้นและเป็นเจ้าของนวัตกรรม "เส้นใยเพอร์มา" ที่เป็นการผสมผสานระหว่างนาโนเทคโนโลยี และ เทคโนโลยีสิ่งทอ ได้เป็นเส้นใยที่มี “นาโนซิงค์ออกไซด์” เข้าไปฝังตัวแน่นอยู่ในเส้นใย โดยไม่หลุดลอกออกมาและคงประสิทธิภาพอย่างถาวรแม้จะผ่านการซักเป็นร้อยครั้ง ซึ่งเทคโนโลยีที่เราคิดค้นถือได้ว่าเป็นรายแรกของภูมิภาคเอเชียและเป็นรายต้น ๆ ของโลก”
“นาโนซิงค์ออกไซด์” ได้ผ่านการทดสอบและยอมรับจากการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ว่ามีคุณสมบัติในการกำจัดและยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ซึ่งเป็นสาเหตุของกลิ่นไม่พึงประสงค์ โรคผิวหนัง ไซนัส และภูมิแพ้ อีกทั้งยังมีความปลอดภัยสูงกว่าเทคโนโลยีอื่น พร้อมกับเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตลอดทั้งกระบวนการผลิตและการใช้งาน โดยทุกขั้นตอนของกระบวนการผลิต ตั้งแต่การผลิตเส้นใยไฟเบอร์ การปั่นเป็นเส้นด้าย การทอหรือถักเป็นผ้า ตลอดจนเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ จึงไม่มีการปนเปื้อนของ นาโนซิงค์ออกไซด์ สู่สิ่งแวดล้อม เพราะการฝังนาโนซิงค์ออกไซด์ในเส้นใยทำให้ไม่มีสารเคมีโลหะหนักหลุดลอกออกมาปนเปื้อนสู่สิ่งแวดล้อม ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์คงประสิทธิภาพอย่างถาวรทั้งในการดูแลสุขภาพของผู้สวมใส่และการดูแลโลกไปพร้อม ๆ กัน โดยได้รับการรับรองมาตรฐานการทดสอบประสิทธิภาพในการยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียจากสถาบันรับรองคุณภาพมาตรฐานอุตสาหกรรมญี่ปุ่น JIS, BOKEN , KAKEN Test และ QTEC จากสถาบันเทคโนโลยีและมาตรฐานสิ่งทอ THTI และผ่านการรับรองคุณสมบัติในการยับยั้งแบคทีเรียอย่างมีประสิทธิภาพจาก SGS และนอกจากนี้ยังได้รับรางวัล INTERNATIONAL INNOVATION AWARDS และ CSR จากENTERPRISE ASIA
นายไชยยศ กล่าวเพิ่มเติมว่า “จากภาวะขาดแคลนหน้ากากอนามัย บริษัทฯ จึงได้ผลิตหน้ากากผ้า ซึ่งพัฒนาร่วมกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อหวังให้คนไทยได้มีหน้ากากผ้าใช้ทดแทนหน้ากากอนามัยที่หายากในช่วงสถานการณ์ COVID-19 โดยหน้ากากผ้าของเพอร์มามีทั้งสำหรับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ และแบบทั่วไป ซึ่งทั้ง 2 แบบสามารถยับยั้งแบคทีเรีย ทำให้ไม่มีกลิ่นเหม็นอับของน้ำลายและสารคัดหลั่ง กรองและป้องกันรังสียูวี ซึ่งเป็นตัวการที่เป็นอันตรายต่อเซลล์ผิวหนัง ระบายความชื้น เบาสบาย ถ่ายเทอากาศได้ดี และจากการทดสอบด้วยเครื่องวัด PM2.5 ในเบื้องต้น หน้ากากผ้าเพอร์มายังสามารถป้องกันฝุ่น PM2.5 ได้อีกด้วย มีอายุการใช้งานยาวนานกว่า 3 เดือน หรือซักได้มากกว่าร้อยครั้ง ซึ่งนอกจากสามารซักใช้ได้ซ้ำ ลดการสิ้นเปลืองแล้ว ยังเป็นการช่วยลดปริมาณขยะที่จะเกิดขึ้นจากหน้ากากอนามัยแบบใช้แล้วทิ้งได้อีกด้วย โดยหน้ากากผ้าเพอร์มา หรือ PERMA MASK จะเริ่มทยอยเข้าบางส่วนให้สั่งซื้อได้ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม และจะมีสินค้าเข้ามาเพิ่มเติมมากขึ้น ตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม เป็นต้นไป ในราคาชิ้นละ 100 บาท สามารถสั่งซื้อได้ทางออนไลน์ที่ https://perma.bentoweb.com/th”
“สำหรับแผนธุรกิจของเพอร์มา ปัจจุบันมุ่งเน้นในเรื่องการผลิตนวัตกรรมสิ่งทอเพื่อการแพทย์เพิ่มมากขึ้น เช่น หน้ากากอนามัยป้องกันแบคทีเรีย กางเกงชั้นในบรรเทาอาการติดเชื้อในช่องคลอด ผ้าปูที่นอนในโรงพยาบาลที่ป้องกันการเกิดแผลกดทับ ผ้าพันแผลลดการติดเชื้อในผู้ป่วยเบาหวานและผู้ป่วยทั่วไป ทำให้เชื้อแบคทีเรียไม่เติบโตบนแผลและทำให้แผลแห้งไวมากขึ้น เครื่องนอนป้องกันเชื้อดื้อยา ถุงเท้าสำหรับผู้ป่วยเบาหวานเพื่อยกระดับสุขภาพอนามัยให้กับผู้บริโภคทั่วไป รวมทั้งนำไปใช้ในโรงพยาบาลต่าง ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาได้ดีขึ้น เป็นต้น ซึ่งสิ่งทอเพื่อการแพทย์ถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพ และบริษัทฯ เองก็มีศักยภาพในการผลิตสิ่งทอคุณภาพที่ตอบโจทย์ความต้องการขั้นสูงนั้นได้เป็นอย่างดี โดยผลิตภัณฑ์ทั้งหมดได้ผ่านการทดสอบจากโรงพยาบาลชั้นนำจนเป็นที่ยอมรับในวงการ”