มกอช. ออกมาตรการคุมเข้มรับมือ COVID-19

ข่าวทั่วไป Friday March 27, 2020 13:25 —ThaiPR.net

มกอช. ออกมาตรการคุมเข้มรับมือ COVID-19 กรุงเทพฯ--27 มี.ค.--มกอช. มกอช. ออกมาตรการคุมเข้มรับมือ COVID-19 ตั้งศูนย์เฝ้าระวัง คัดกรองคนเข้าออก เหลื่อมเวลาปฏิบัติงาน ป้องกันการแพร่ระบาดของโรค มกอช. สนองนโยบายรัฐบาล ออกประกาศฯ หลักเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ COVID-19 เน้นย้ำให้ถือปฏิบัติโดยเคร่งครัด เพื่อลดความเสี่ยงและหยุดยั้งการแพร่ระบาดของโรค ดร.จูอะดี พงศ์มณีรัตน์ เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) เปิดเผยว่า เนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ COVID-19 (Coronavirus Disease 2019 : COVID-19) ที่ประเทศไทยได้ประกาศให้เป็นโรคติดต่ออันตราย ซึ่งปัจจุบันมีแนวโน้มการระบาดรุนแรงขึ้น และมีผู้ติดเชื้อในวงกว้างเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลจึงได้สั่งการให้ส่วนราชการเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ และปฏิบัติตามมาตรการข้อสั่งการอย่างเคร่งครัด เพื่อชะลอและหยุดยั้งการระบาดของโรค ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2563 มกอช. จึงได้ออกประกาศฯ เรื่อง หลักเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ COVID-19 ตามนโยบายของรัฐบาล โดยมีมาตรการและแนวทางเพื่อเป็นการเฝ้าระวัง ป้องกัน และเตรียมความพร้อมในการรองรับสถานการณ์การระบาดโรคติดเชื้อ COVID-19 ตามแนวทางที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด โดยให้มีคณะทำงานเฉพาะกิจ และให้จัดตั้ง “ศูนย์เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)” รวมทั้งจัดให้มีจุดคัดกรองและควบคุมการเข้าออก โดยผู้ที่จะเข้ามาภายในสำนักงานต้องผ่านการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายที่จุดตรวจ ณ บริเวณประตูทางเข้าสำนักงาน ทั้งนี้ หากผลการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายพบว่ามีไข้ จะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาภายในอาคารสำนักงาน โดยให้รายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นโดยเร่งด่วน เพื่อสั่งการให้หยุดปฏิบัติงาน นอกจากนี้ ยังมีมาตรการให้เหลื่อมเวลาการปฏิบัติงาน โดยกำหนดเวลาทำงานเป็น 3 ช่วงเวลา รวมทั้งให้งดกิจกรรมรวมคนจำนวนมากที่มีความเสี่ยงสูงต่อการแพร่ระบาดของโรค เช่น การจัดประชุมสัมมนาที่มีผู้เข้าร่วมตั้งแต่ 50 คนขึ้นไป การจัดงานแสดงสินค้าเกษตร เป็นต้น งดกิจกรรมที่มีการเคลื่อนย้ายคนข้ามจังหวัดของหน่วยงานที่มีคนจำนวนมาก หรือหากจำเป็นต้องเคลื่อนย้ายต้องมีมาตรการป้องกันการแพร่ของโรค ส่งเสริมให้ใช้งานระบบอินเตอร์เน็ต เช่น การประชุมทางไกล เป็นต้น ให้บุคลากรใช้หน้ากากผ้าเมื่อเดินทางเข้าสถานที่ที่มีคนจำนวนมาก รวมถึงการลดความเสี่ยงของการแพร่เชื้อ เช่น การวางเจลล้างมือในจุดที่มีการใช้ร่วมกัน การทำความสะอาดพื้นผิวและห้องสุขา รวมไปถึงการจัดสถานที่ทำงานไม่ให้แออัดและจัดที่นั่งให้ห่างกันอย่างน้อย 1 เมตร เลขาธิการ มกอช. กล่าวต่อไปว่า หากมีความจำเป็นที่จะต้องปฏิบัติราชการนอกสถานที่ ให้ผู้บังคับบัญชาชั้นต้นรายงานและเสนอให้หัวหน้าส่วนราชการพิจารณาสั่งการให้ข้าราชการ พนักงานราชการ ปฏิบัติราชการนอกสถานที่ พร้อมทั้งระบุเป้าหมายของงานที่ปฏิบัติในช่วงเวลาที่ไม่ได้เข้ามาปฏิบัติราชการ ณ สำนักงานฯ โดยให้ข้าราชการ พนักงานราชการ ทำบันทึกข้อตกลงกับผู้บังคับบัญชาชั้นต้น และระบุเป็นผลสำเร็จของงานที่ชัดเจนเป็นรูปธรรม ทั้งนี้ ให้ผู้บังคับบัญชาชั้นต้นกำกับและติดตามอย่างสม่ำเสมอ โดยข้าราชการ พนักงานราชการ จะต้องรายงานความก้าวหน้าการดำเนินงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบเป็นระยะ ซึ่งการกำกับและติดตามการปฏิบัติงานอาจดำเนินการโดยผ่านระบบหรือช่องทางดิจิทัล และเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาการปฏิบัติราชการนอกสถานที่ ข้าราชการ พนักงานราชการ จะต้องรายงานผลการปฏิบัติงานต่อผู้บังคับบัญชา โดยผู้บังคับบัญชาจะต้องประเมินผลการปฏิบัติงานของข้าราชการ พนักงานราชการ พร้อมทั้งรายงานผลสำเร็จของงานต่อหัวหน้าส่วนราชการ “ให้บุคลากรในสังกัดถือปฏิบัติตามประกาศฉบับนี้โดยเคร่งครัด หากไม่ดำเนินการตามประกาศฉบับนี้ ถือเป็นการกระทำผิดวินัย กรณีไม่ปฏิบัติตามระเบียบแบบแผนของทางราชการ และในกรณีที่มีการรายงานเท็จ หรือปกปิดข้อมูล อันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการ ถือเป็นการกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง” เลขาธิการ มกอช. กล่าว...

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ