ฟิทช์ลดอันดับเครดิตสากลของธนาคารไทยพาณิชย์เป็น 'BBB’ จากผลกระทบของการระบาดโคโรน่าไวรัส

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday April 3, 2020 14:45 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--3 เม.ย.--ฟิทช์ เรทติ้งส์ ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศปรับลดอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว (Long-Term Foreign Currency IDR) ของธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB ลงเป็น 'BBB’ จาก 'BBB+’ และลดอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้น (Short-Term Foreign Currency IDR) พร้อมกันนนี้ฟิทช์คงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ SCB ที่ 'AA+(tha)’ และคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด หรือ SCBS ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ SCB ที่ 'AA(tha)’ โดยทั้ง SCB และ SCBS มีแนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ การปรับลดอันดับเครดิตของ SCB สะท้อนถึงความท้าทายของสภาพแวดล้อมในการดำเนินธุรกิจและผลกระทบที่รุนแรงต่อเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของโคโรน่าไวรัสที่กระจายไปในวงกว้าง โดยผลกระทบดังกล่าวได้เพิ่มแรงกดดันต่อสภาวะแวดล้อมในการดำเนินงานของธนาคารที่อ่อนแอมาอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจทั้งภายในประเทศและทั่วโลกที่ซบเซา แม้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทยจะมีมาตรการผ่อนปรนเพื่อช่วยสนับสนุนการปรับโครงสร้างหนี้ แต่มาตรการเหล่านี้ไม่น่าจะหักล้างความเสี่ยงที่เกิดจากผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำต่อลูกหนี้ที่มีฐานะทางการงินที่อ่อนแอหรือเป็นกลุ่มที่มีความเปราะบางได้ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมในการดำเนินงานของธาคารไทยสามารถดูได้จาก “Coronavirus Outbreak Increases Challenges for Thai Banks’ Operating Environment” ลงวันที่ 2 เมษายน 2563 เนื่องจากระยะเวลาและแนวโน้มความรุนแรงของสถานการณ์การระบาดของโคโรน่าไวรัสยังมีความไม่แน่นอน ซึ่งตามสมมติฐานกรณีฐานของฟิทช์นั้นคุณภาพของสินทรัพย์รวมถึงผลการดำเนินงานของ SCB อาจได้รับผลกระทบอย่างมากในช่วงระยะเวลา 2 ปีข้างหน้าเมื่อเทียบกับผลการดำเนินงานในปี 2562 โดยนอกจากระดับค่าใช้จ่ายการสำรองหนี้สูญ (credit cost) ที่อาจเพิ่มขึ้นแล้ว รายได้ของธนาคารก็อาจจะปรับตัวลดลงจากภาวะอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำรวมถึงรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยที่ชะลอตัว ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต – อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศ อันดับเครดิตภายในประเทศ และอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ อันดับเครดิตของ SCB พิจารณาจากโครงสร้างเครดิตของตัวธนาคารเอง ซึ่งสะท้อนในอันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน (Viability Rating หรือ VR) หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิมีสถานะเป็นภาระผูกพันที่ไม่ด้อยสิทธิและไม่มีหลักประกันของธนาคาร และมีอันดับเครดิตในระดับเดียวกันกับอันดับเคดริของธนาคาร อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้น สอดคล้องกับเกณฑ์การจัดอันดับเครดิตของฟิทช์และสะท้อนถึงการประเมินโครงสร้างการระดมเงินและสภาพคล่องอขงธนาคารที่ระดับ 'bbb’ การคงอันดับเครดิตภายในประเทศและอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิสกุลเงินบาทสะท้อนถึงมุมมองของฟิทช์ว่าโครงสร้างเคดริตโดยรวมของ SCB ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปมากนักเมื่อเทียบกับบริษัทอื่นที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตภายในประเทศในไทย แม้ว่าโครงสร้างเครดิตอาจจะปรับตัวด้อยลงบ้าง ซึ่งบ่งชี้ได้จากการปรับลดอันดับเครดิตสากล ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต – อันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของ SCB สะท้อนถึงความสามารถในการแข่งขันในฐานะที่เป็นธนาคารชั้นนำในประเทศไทย โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้ารายย่อย ซึ่งรวมถึงสินเชื่อที่อาศัย ธนาคารยังมีเครือข่ายธุรกิจที่แข็งแกร่ง โดยธนาคารมีส่วนแบ่งทางการตลาดสูงเป็น 1 ใน 3 อันดับในด้านขนาดสินทรัพย์และเงินฝากที่ประมาณ 14%-15% ในปี 2562 ฟิทช์มองว่า ณ ระดับความแข็งแกร่งทางการเงินปัจจุบัน ธนาคารน่าจะสามารถหลีกเลี่ยงการถูกปรับลดอันดับลงเพิ่มเติมได้ เนื่องจากฟิทช์เชื่อว่า SCB มีความสามารถในการรองรับผลกระทบเชิงลบที่ดีกว่าเมื่อเทียบกับธนาคารอื่นที่มีอันดับเครดิตที่ต่ำกว่า เช่น ในด้านอัตราส่วนเงินกองทุนที่เป็นส่วนของเจ้าของ (Core Equity Tier 1) ที่ 17% ณ สิ้นปี 2562 และอัตราส่วนสำรองหนี้สูญต่อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (2562: 134%) และฐานะสภาพคล่องและความสามารถในการระดมเงิน นอกจากนี้ปัจจัยดังกล่าวจะมีความสำคัญต่อการฟื้นตัวของผลการดำเนินงานของธนาคาร อีกทั้งฟิทช์ยังเชื่อว่ามาตรการผ่อนปรนของธนาคารแห่งประเทศไทยในด้านคุณภาพสินทรัพย์และการปรับโครงสร้างหนี้น่าจะช่วยให้ธนาคารไทย รวมทั้ง SCB ให้สามารถรับมือกับสภาวะแวดล้อมที่ปรับตัวแย่ลงอย่างรุนแรงได้บ้าง แต่คงไม่สามารถหลีกเลี่ยงผลกระทบได้ทั้งหมด ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต – อันดับเครดิตสนับสนุน (Support Rating) และ อันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำ อันดับเครดิตสนับสนุนและอันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำของ SCB สะท้อนถึงความสำคัญของธนาคารต่อระบบเศรษฐกิจและการเงินของประเทศไทย ในฐานะที่ธนาคารมีฐานลูกค้าเงินฝากใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ในระบบธนาคารพาณิชย์ ฟิทช์ยังเชื่อว่ามีความเป็นไปได้สูงที่รัฐบาลจะให้การสนับสนุนช่วยเหลือ (extraordinary support) แก่ธนาคารหากมีความจำเป็น เนื่องจากธนาคารเป็นหนึ่งในธนาคารที่มีนัยต่อระบบเศรษฐกิจ (D-SIB) ของประเทศไทย ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต – อันดับเครดิตบริษัทลูก การคงอันดับเครดิตภายในประเทศของ SCBS สอดคล้องกับการคงอันดับเครดิตของธนาคารแม่ (SCB) SCBS ได้รับการจัดอันดับเครดิตให้อยู่ต่ำกว่าอันดับเครดิตของธนาคารแม่ 1 อันดับ ซึ่งพิจารณาจากการที่ฟิทช์คาดว่า SCBS จะได้รับการสนับสนุนพิเศษที่นอกเหนือจากการดำเนินงานตามปรกติ (extraordinary support) จาก SCB โดยฟิทช์มองว่า SCBS มีสถานะเป็นบริษัทลูกที่สำคัญในเชิงกลยุทธ์ต่อ SCB ซึ่งสะท้อนได้จากการใช้ชื่อและเครื่องหมายทางการค้าร่วมกัน การถือหุ้นทั้งหมดในบริษัทลูกของธนาคารแม่ และการผสานการดำเนินงานและบริหารงานกันอย่างใกล้ชิดมากกับธนาคารแม่ อีกทั้ง SCBS ยังมีบทบาทที่สำคัญในการดำเนินธุรกิจรูปแบบธนาคารครบวงจร (universal banking strategy) ของธนาคารแม่ ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต – อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศ อันดับเครดิตภายในประเทศ และอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงบวกหรือส่งผลให้กิดการปรับเพิ่มอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน) อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศและอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิของ SCB จะได้รับผลกระทบในทิศทางเดียวกันกับการเปลี่ยนแปลงของอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของธนาคาร การปรับเพิ่มอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินน่าจะส่งผลให้อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศและอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิในทิศทางเดียวกัน ในขณะที่อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้นอาจได้รับการปรับเพิ่มอันดับ หากอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวได้รับการปรับเพิ่มอันดับหรือหากฟิทช์ประเมินว่าโครงสร้างการระดมเงินและสภาพคล่องของธนาคารปรับตัวดีขึ้น นอกจากนี้การเปลี่ยนแปลงในมุมมองของฟิทช์ต่อระดับโครงสร้างเครดิตของ SCB เทียบกับโครงสร้างเครดิตของธนาคาร (หรือบริษัท) อื่นในประเทศไทยที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตภายในประเทศจะส่งผลกระทบต่ออันดับเครดิตภายในประเทศของ SCB เช่นกัน แต่อย่างไรก็ตามโอกาสในการปรับเพิ่มอันดับเครดิตภายในประเทศไม่น่าจะเกิดขึ้นในระยะสั้น ด้วยโครงสร้างเครดิตของ SCB ในปัจจุบันเมื่อเทียบกันธนาคารอื่นที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตภายในประเทศ ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบหรือส่งผลให้กิดการปรับลดอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน) การปรับลดอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินจะส่งผลให้อันดับเครดิตสากลถูกปรับลดลงเช่นกัน อย่างไรก็ตามความเสี่ยงดังกล่าวจะถูกจำกัดโดยอันดับเครดิตสนับสนุนและอันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำ (ซึ่งอันหลังอยู่ที่ระดับ 'BBB-’) การปรับลดอันดับเครดิตภายในประเทศลงอาจเกิดได้จากโครงสร้างเครดิตของธนาคารที่ด้อยลงเมื่อเทียบกับธนาคารอื่นที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตภายในประเทศ ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต – อันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงบวกหรือส่งผลให้กิดการปรับเพิ่มอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน) อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของธนาคารอาจได้รับการปรับเพิ่มอันดับเป็น 'bbb+’ หาก SCB มีแนวโน้มอัตรากำไรและคุณภาพสินทรัพย์จัดอยู่ในระดับสอดคล้องกับธนาคารอื่นที่มีอันดับเครดิตสูงกว่าและอยู่ในสภาวะแวดล้อมการดำเนินงานที่ระดับเดียวกัน (ที่ bbb) เช่น อัตราส่วนสินเชื่อคุณภาพต่อสินเชื่อรวมต่ำกว่า 3% อีกทั้งยังมีความสามารถในการรองรับความเสี่ยงที่แข็งแกร่งในด้านของอัตราส่วนสำรองหนี้สูญต่อสินเชื้อคุณภาพและเงินกองทุน เช่น CET1 อยู่ที่ระดับ 16% อย่างต่อเนื่อง ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบหรือส่งผลให้กิดการปรับลดอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน) อันดับความแข็งแกร่งของธนาคารอาจได้รับการปรับลดอันดับเป็น 'bbb-' หากฐานะเงินกองทุนของ SCB ปรับตัวด้อยลงอย่างต่อเนื่องจนไม่เพียงพอที่จะรองรับความเสี่ยงจากคุณภาพสินทรัพย์ที่ด้อยลง เช่น การที่อัตราส่วน CET1 ของธนาคารปรับตัวลดลงต่ำกว่า 13% โดยอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อรวมเพิ่มขึ้นสูงกว่า 6% และอัตราส่วนสำรองหนี้เสียต่อสินเชื้อด้อยคุณภาพต่ำกว่า 120% ใน 2 ปีข้างหน้า ในมุมมองของฟิทช์ เหตุการณ์ดังกล่าวอาจเกิดขึ้นได้จากผลประกอบการและกำไรของ SCB ยังคงปรับตัวลดลงต่อเนื่องจากการลดลงของอัตรากำไรและคุณภาพสินทรัพย์ที่ด้อยลง ที่อาจเกิดจากทั้งความท้าทายของสภาวะแวดล้อมในการดำเนินงานและระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ของธนาคาร ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต – อันดับเครดิตสนับสนุนและอันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำ ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงบวกหรือส่งผลให้กิดการปรับเพิ่มอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน) อันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำอาจได้รับการปรับเพิ่มอันดับหากฟิทช์เชื่อว่ามีโอกาสมากขึ้นที่รัฐบาลจะให้การสนับสนุนแก่ธนาคารที่มีนัยต่อระบบ (D-SIB) ซึ่งรวมถึง SCB อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ดังกล่าวไม่น่าจะเกิดขึ้นในระยะปานกลาง การปรับเพิ่มอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของประเทศไทยที่ 'BBB+’/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ ก็อาจบ่งชี้ได้ว่ารัฐบาลมีความสามารถเพิ่มขึ้นในการสนับสนุนธนาคาร (รวมถึง SCB) แต่การพิจารณาอันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำต้องคำนึงถึงการที่โอกาสในการให้การสนับสนุนธนาคารไม่มีการปรับตัวลดลง ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบหรือส่งผลให้กิดการปรับลดอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน) อันดับเครดิตสนับสนุนและอันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำอาจถูกปรับลดอันดับหากฟิทช์เชื่อว่าความสามารถที่รัฐบาลจะให้การสนับสนุนแก่ธนาคารนั้นลดลง เหตุการณ์ดังกล่าวอาจเกิดขึ้นหากอันอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของประเทศไทยถูกปรับลดอันดับ นอกจากนี้การปรับลดอันดับเครดิตยังอาจเกิดได้หากฟิทช์เชื่อว่ามีโอกาสลดลงที่รัฐบาลจะให้การสนับสนุนแก่ธนาคารที่มีนัยต่อระบบ (รวมถึง SCB) อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ดังกล่าวไม่น่าจะเกิดขึ้นในระยะปานกลาง ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต – อันดับเครดิตบริษัทลูกและบริษัทย่อย ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงบวกหรือส่งผลให้กิดการปรับเพิ่มอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน) อันดับเครดิตภายในประเทศของ SCBS จะได้รับผลกระทบในทิศทางเดียวกันกับการเปลี่ยนแปลงอันดับเครดิตภายในประเทศของธนาคารแม่ อีกทั้งยังอาจได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงมุมมองของฟิทช์เกี่ยวกับโอกาสในการที่ธนาคารแม่ (ซึ่งคือ SCB) จะให้การสนับสนุนแก่บริษัท เช่น หาก SCBS มีขนาดธุรกิจที่ใหญ่ขึ้นอย่างมีนัยสำคัญและมีสัดส่วนการสร้างรายได้ให้กับธนาคารแม่เพิ่มขึ้น ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบหรือส่งผลให้กิดการปรับลดอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน) อันดับเครดิตอาจได้รับกระทบเชิงลบ ในกรณีที่โอกาสที่ธนาคารแม่จะให้การสนับสนุนแก่ SCBS ปรับตัวลดลง เช่นในกรณีที่ธนาคารแม่ลดสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทลูกลงอย่างมากหรือการลดระดับความใกล้ชิดหรือความเชื่อมโยงในด้านการดำเนินงานและการบริหารงาน อย่างไรก็ตามฟิทช์มองว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่น่าจะเกิดขึ้นในระยะปานกลาง การพิจารณาปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) หากไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมในส่วนนี้ แสดงว่าธนาคารมีระดับคะแนนความสัมพันธ์ของ ESG ต่ออันดับเครดิต ไม่เกินระดับ 3 ซึ่งหมายความว่าปัจจัยด้าน ESG จะไม่ส่งผลกระทบหรืออาจมีผลกระทบในระดับที่น้อยมากต่ออันดับเครดิตของธนาคาร ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยจากลักษณะของธุรกิจหรือจากการบริหารจัดการของธนาคารก็ตาม รายละเอียดของอันดับเครดิตทั้งหมดมีดังนี้ SCB: อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว ลดอันดับเป็น 'BBB’ จาก 'BBB+’; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้น ลดอันดับเป็น 'F3’ จาก 'F2’อันดับความเข็งแกร่งทางการเงิน ลดอันดับเป็น 'bbb’ จาก 'bbb+’อันดับเครดิตสนับสนุน คงอันดับที่ '2’อันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำ คงอันดับที่ 'BBB-’อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว คงอันดับที่ 'AA+(tha)’; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้น คงอันดับที่ 'F1+(tha)’อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของหุ้นกู้ ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน ลดอันดับเป็น 'BBB’ จาก 'BBB+’อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน คงอันดับที่ 'AA+(tha)’อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน คงอันดับที่ 'F1+(tha)’ SCBS: อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว คงอันดับที่ 'AA(tha)’; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้น คงอันดับที่ 'F1+(tha)’

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ