UAC ไฟเขียวจ่ายปันผลระหว่างกาล 0.135 บาทต่อหุ้น 30 เม.ย.นี้ แม้เลื่อนประชุมผู้ถือหุ้นเป็น 7 พ.ค.

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday April 9, 2020 09:52 —ThaiPR.net

UAC ไฟเขียวจ่ายปันผลระหว่างกาล 0.135 บาทต่อหุ้น 30 เม.ย.นี้ แม้เลื่อนประชุมผู้ถือหุ้นเป็น 7 พ.ค. กรุงเทพฯ--9 เม.ย.--มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์ บมจ. ยูเอซี โกลบอล (UAC) มีมติเลื่อนจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2563 เป็นวันที่ 7 พ.ค.63 พร้อมอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้แก่ผู้ถือหุ้นตามเดิม ในอัตราหุ้นละ0.135 บาท เพื่อจ่ายปันผลวันที่ 30 เม.ย.นี้ ขณะที่ภาพรวมธุรกิจยังคงเน้นรักษาระดับของกำไร (bottom line) ให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ นายชัชพล ประสพโชค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูเอซี โกล บอล จำกัด (มหาชน) หรือ UAC เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติเลื่อนการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2563 จากวันที่ 10 เมษายน เป็นวันที่ 7 พฤษภาคม เนื่องจากสถานการณ์ COVID-19 ยังไม่คลี่คลาย โดยยังคงใช้วันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิเข้าร่วมประชุมสามัญผู้ถือหุ้นเดิมเป็นวันที่ 17 มีนาคม 2563 ซึ่งการเลื่อนการประชุมดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัทฯรวมทั้งสิทธิของผู้ถือหุ้นในการรับเงินปันผล ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้มีผลกระทบกับสิทธิการรับเงินปันผลของผู้ถือหุ้นคณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติให้มีการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลทดแทนการเสนอจ่ายเงินปันผลประจำปี 2562 ในอัตราหุ้นละ 0.135 บาท โดยยังคงกำหนดรายชื่อสำหรับผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผลระหว่างกาล ซึ่งได้มีการขึ้นเครื่องหมาย XD (ผู้ที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล) ไปในวันที่ 16 มีนาคม 2563 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 30 เมษายน 2563 เช่นเดิม เพื่อเป็นการลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับผู้ถือหุ้นจากการเลื่อนการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นออกไป “อย่างไรก็ตามหากบริษัทฯ ไม่สามารถดำเนินการจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นได้ ในวันที่ 7 พฤษภาคม 2563 นี้ หรือภายใน 2 เดือนนับตั้งแต่วันที่ 17 มีนาคม 2563 ซึ่งเป็นวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิเข้าร่วมประชุมสามัญผู้ถือหุ้นนั้น บริษัทฯจะมีการพิจารณาการประชุมใหม่อีกครั้ง หลังจากที่สถานการณ์คลี่คลายและมีสภาวะเหมาะสมต่อความปลอดภัยของผู้เข้าร่วมประชุมและทีมงานทุกฝ่าย” ส่วนภาพรวมของธุรกิจ นั้น บมจ. ยูเอซี โกลบอล แจ้งว่า แม้ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2563 อาจมีการชะลอตัวของยอดขาย ที่มาจากธุรกิจ Trading ซึ่งชะลอลงเล็กน้อยตามสถานการณ์เศรษฐกิจโลกและผลกระทบจากราคาน้ำมัน ตัวเลข EBITDA ยังเป็นไปตามคาดการณ์เนื่องจากสินค้าของบริษัทฯ มีมาร์จิ้นในระดับสูง และบริษัทฯ ยังพยายามรักษาระดับของกำไร (bottom line) ให้เป็นไปตามเป้าหมาย ในส่วนของกลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรม Manufacturing ประเภทโรงไฟฟ้า และโรงงานกาวนั้น ยังคงมียอดขายปกติตามเป้าหมาย เพราะธุรกิจดังกล่าวถือเป็นสินค้าในกลุ่มที่มีความต้องการเพื่อการอุปโภคและบริโภคในชีวิตประจำวัน อีกทั้งการลงทุนในธุรกิจพลังงานเช่นโรงไฟฟ้าชุมชนและโรงแยกขยะในสปป.ลาวยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้บริษัทฯ มีความเชื่อมั่นว่า UAC จะยังคงมีการเติบโตที่มั่นคงและสม่ำเสมอต่อไป

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ