กรุงเทพฯ--11 พ.ค.--ไออาร์ พลัส
TASCO เผยยอดขายยางมะตอยไตรมาสแรกอยู่ที่ 320,000 ตัน มีรายได้จากการขายและบริการ 5,111 ล้านบาท โดยขาดทุนสุทธิ 784 ล้านบาท เนื่องจากขาดทุนในสต็อกสินค้าคงคลัง และยอดขายที่ลดลงจากการแพร่ระบาดของ Covid-19
นายชัยวัฒน์ ศรีวรรณวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิปโก้แอสฟัลท์ จำกัด (มหาชน) หรือ TASCO ผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยางมะตอย เพื่อใช้ในงานก่อสร้างและซ่อมบำรุงทาง เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2563 บริษัทมียอดขายยางมะตอยอยู่ที่ 320,000 ตัน ลดลงเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่ 398,000 ตัน ส่งผลให้ไตรมาส 1/2563 บริษัทมีรายได้จากการขายและบริการ 5,111 ล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่ 7,091 ล้านบาท และมีผลขาดทุนสุทธิ 784 ล้านบาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 718 ล้านบาท
ผลงานในช่วงไตรมาส 1/2563 ที่ลดลง นั้นเกิดจากยอดขายที่ลดลงทั้งตลาดในประเทศและตลาดต่างประเทศ เนื่องมาจากการเบิกจ่ายงบประมาณประจำปี 2563 ของภาครัฐล่าช้า ซึ่งโดยปกติแล้วในไตรมาส 1 ของทุกๆ ปี จะเป็นช่วงไฮซีซั่นของตลาดในประเทศ ขณะที่ยอดขายในตลาดต่างประเทศก็ลดลงเช่นกัน โดยเฉพาะในประเทศจีนและประเทศมาเลเซียซึ่งได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์ประเทศอันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19
“นอกจากนี้ จากการที่ราคาน้ำมันดิบลดลงอย่างมากจาก 66 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ในช่วงสิ้นไตรมาส 4/62 มาอยู่ที่ 23 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ในช่วงสิ้นไตรมาส 1/2563 ได้ส่งผลให้ราคายางมะตอยลดลงตามไปด้วย ถึงแม้ว่าบริษัทจะมีกำไรจากสัญญาป้องกันความเสี่ยงราคาสินค้าจำนวน 1,313 ล้านบาท แต่บริษัทฯ ต้องบันทึกผลขาดทุนจากสินค้าคงคลังเป็นจำนวนมากถึง 2,163 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทฯ มีผลขาดทุนสุทธิ 784 ล้านบาท”
นายชัยวัฒน์ กล่าว
TASCO เผยไตรมาส 1/63 พลิกขาดทุน 784 ลบ. เหตุขาดทุนจากสต็อกสินค้าคงคลัง จากพิษน้ำมันดิบที่ปรับตัวลง
ข่าวเศรษฐกิจ Monday May 11, 2020 09:31 —ThaiPR.net
กรุงเทพฯ--11 พ.ค.--ไออาร์ พลัส
TASCO เผยยอดขายยางมะตอยไตรมาสแรกอยู่ที่ 320,000 ตัน มีรายได้จากการขายและบริการ 5,111 ล้านบาท โดยขาดทุนสุทธิ 784 ล้านบาท เนื่องจากขาดทุนในสต็อกสินค้าคงคลัง และยอดขายที่ลดลงจากการแพร่ระบาดของ Covid-19
นายชัยวัฒน์ ศรีวรรณวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิปโก้แอสฟัลท์ จำกัด (มหาชน) หรือ TASCO ผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยางมะตอย เพื่อใช้ในงานก่อสร้างและซ่อมบำรุงทาง เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2563 บริษัทมียอดขายยางมะตอยอยู่ที่ 320,000 ตัน ลดลงเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่ 398,000 ตัน ส่งผลให้ไตรมาส 1/2563 บริษัทมีรายได้จากการขายและบริการ 5,111 ล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่ 7,091 ล้านบาท และมีผลขาดทุนสุทธิ 784 ล้านบาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 718 ล้านบาท
ผลงานในช่วงไตรมาส 1/2563 ที่ลดลง นั้นเกิดจากยอดขายที่ลดลงทั้งตลาดในประเทศและตลาดต่างประเทศ เนื่องมาจากการเบิกจ่ายงบประมาณประจำปี 2563 ของภาครัฐล่าช้า ซึ่งโดยปกติแล้วในไตรมาส 1 ของทุกๆ ปี จะเป็นช่วงไฮซีซั่นของตลาดในประเทศ ขณะที่ยอดขายในตลาดต่างประเทศก็ลดลงเช่นกัน โดยเฉพาะในประเทศจีนและประเทศมาเลเซียซึ่งได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์ประเทศอันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19
“นอกจากนี้ จากการที่ราคาน้ำมันดิบลดลงอย่างมากจาก 66 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ในช่วงสิ้นไตรมาส 4/62 มาอยู่ที่ 23 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ในช่วงสิ้นไตรมาส 1/2563 ได้ส่งผลให้ราคายางมะตอยลดลงตามไปด้วย ถึงแม้ว่าบริษัทจะมีกำไรจากสัญญาป้องกันความเสี่ยงราคาสินค้าจำนวน 1,313 ล้านบาท แต่บริษัทฯ ต้องบันทึกผลขาดทุนจากสินค้าคงคลังเป็นจำนวนมากถึง 2,163 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทฯ มีผลขาดทุนสุทธิ 784 ล้านบาท”
นายชัยวัฒน์ กล่าว