NDR เผยบ.ย่อยในมาเลเซีย กลับมาเปิดทำการปกติ หลัง COVID-19 คลี่คลาย

กรุงเทพฯ--11 พ.ค.--เอ็น.ดี.รับเบอร์ บมจ.เอ็น.ดี.รับเบอร์ เผย Fung Keong Rubber Manufactory (M) Sdn. Bhd. (FKRMM) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยในมาเลเซีย กลับมาเปิดทำการปกติเมื่อวันที่ 5 พ.ค.ที่ผ่านมา หลังสถานการณ์ COVID-19 เริ่มคลี่คลาย "ชัยสิทธิ์ สัมฤทธิวณิชชา" กรรมการผู้จัดการ ระบุเน้นให้ความสำคัญต่อการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 และให้พนักงานทุกคนของ FKRMM ให้ความร่วมมือกับทางภาครัฐให้ปฏิบัติตามมาตรการต่างๆ เช่น การสวมใส่หน้ากากอนามัย และการรักษาระยะห่างทางสังคม เป็นต้น พร้อมเชื่อมั่นถ้าสถานการณ์ COVID-19 ไม่ยืดเยื้อ งบปีนี้จะกลับมามีกำไร หลังคุมเข้มค่าใช้จ่าย-ปรับแผนมุ่งตลาดออนไลน์เพิ่ม นายชัยสิทธิ์ สัมฤทธิวณิชชา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ดี. รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) (NDR) เปิดเผยว่า ตามที่ Fung Keong Rubber Manufactory (M) Sdn. Bhd. (FKRMM) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยในมาเลเซีย ได้ปิดทำการชั่วคราวจากการที่รัฐบาลมาเลเซียได้บังคับใช้มาตรการจำกัดการเคลื่อนไหว (The Movement Control Order (MCO) ตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคม 2563 ถึง วันที่ 12 พฤษภาคม 2563 นั้น ล่าสุดเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2563 รัฐบาลมาเลเซียมีการผ่อนปรนการบังคับใช้ MCO และได้ประกาศคำสั่งควบคุมความเคลื่อนไหวแบบมีเงื่อนไข หรือ The Conditional Movement Control Order (CMCO) มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 4 พฤษภาคม 2563 โดยมีการระบุรายชื่อธุรกิจที่ยังไม่อนุญาตให้เปิดทำการ ทั้งนี้บริษัทย่อยของ NDR ในประเทศมาเลเซีย ได้แก่ Fung Keong Rubber Manufactory (M) Sdn. Bhd. (FKRMM)ไม่อยู่ในรายชื่อของ CMCO และได้รับอนุญาตให้กลับมาเปิดทำการได้ตามปกติ ดังนั้น ในวันที่ 5 พฤษภาคม 2563 FKRMM จึงได้เริ่มเปิดทำการตามปกติ อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังคงให้ความสำคัญต่อการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 จึงมีคำสั่งให้พนักงานทุกคนของ FKRMM ให้ความร่วมมือกับทางภาครัฐให้ปฏิบัติตามมาตรการต่างๆ เช่น การสวมใส่หน้ากากอนามัย และการรักษาระยะห่างทางสังคม เป็นต้น ทั้งนี้ หากรัฐบาลประเทศมาเลเซียมีการประกาศหรือบังคับใช้มาตรการใดๆ เพิ่มเติม บริษัทฯ จะดำเนินการแจ้งให้ทราบต่อไป "เรายังคงติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 อย่างใกล้ชิดทั้งในประเทศไทยและประเทศมาเลเซีย เพื่อปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยที่ผ่านมาเราได้เพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าทางออนไลน์ เพื่อลดผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวและยังเป็นการขยายช่องทางการจำหน่ายให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้ามากขึ้น พร้อมกับเน้นการควบคุมค่าใช้จ่ายภายในองค์กรให้มีประสิทธิภาพ ทำให้เรายังเชื่อมั่นว่าถ้าสถานการณ์ COVID-19 ไม่ยืดเยื้อ ผลประกอบการในปีนี้จะสามารถกลับมามีกำไรได้จากปีก่อนที่มีผลขาดทุน" นายชัยสิทธิ์ กล่าวทิ้งท้าย

---