ฟิทช์คงอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของธนาคารยูโอบี (ไทย)ที่ 'A-’ และอันดับเครดิตภายในประเทศที่ 'AAA(tha)’; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday May 14, 2020 17:27 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--14 พ.ค.--ฟิทช์ เรทติ้งส์ ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศคงอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว (Long-Term Foreign-Currency Issuer Default Rating) ของ ธนาคารยูโอบี (ไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ UOBT ที่ 'A-’ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ และอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว (National Long-Term Rating) ได้รับการคงอันดับเครดิตที่ 'AAA(tha)’ โดยมีแนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ นอกจากนี้ฟิทช์ประกาศคงอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของ UOBT ที่ 'bbb-’ อันดับเครดิตภายในประเทศของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ภายใต้หลักเกณฑ์บาเซล 3 สกุลเงินบาทของ UOBT ถูกปรับลดอันดับเป็น 'AA(tha)’ จาก 'AA+(tha)’ โดยการปรับลดอันดับเป็นผลมาจากการปรับเกณฑ์การจัดอันดับเครดิตของฟิทช์สำหรับหุ้นกู้ด้อยสิทธิในกรณีพื้นฐานตามเกณฑ์การจัดอันดับเครดิตฉบับปรับปรุงล่าสุด สำหรับรายละเอียดของอันดับเครดิตทั้งหมดแสดงไว้ในส่วนท้าย ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต อันดับเครดิตสากล อันดับเครดิตภายในประเทศ และอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ อันดับเครดิตสากลของ UOBT พิจารณาจากปัจจัยสนับสนุนจากธนาคารแม่ซึ่งคือ United Overseas Bank Limited ("UOB"; อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศ AA-/เครดิตพินิจเป็นลบ) จากประเทศสิงคโปร์ UOBT มีบทบาทสำคัญมาอย่างยาวนานต่อกลยุทธ์ของธนาคารแม่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกจากนี้ธนาคารแม่ยังเป็นผู้ถือหุ้นเกือบทั้งหมดในบริษัทลูก อีกทั้งยังมีการเชื่อมโยงในการบริหารงานและมีการผสานการดำเนินงานอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ UOBT มีการใช้ชื่อ สัญลักษณ์ทางการค้าและทำการตลาดร่วมกันกับธนาคารแม่ อันดับเครดิตภายในประเทศของ UOBT สะท้อนถึงความเสี่ยงในเชิงเปรียบเทียบกับธนาคารอื่นที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตเครดิตภายในประเทศจากฟิทช์ ฟิทช์เชื่อว่าโครงสร้างอันดับเครดิตของ UOBT ซึ่งพิจารณาจากปัจจัยสนับสนุน มีความสอดคล้องกับอันดับเครดิตที่แข็งแกร่งที่สุดในประเทศ โดยอันดับเครดิตของ UOBT ได้รับการสนับสนุนจาก UOB ซึ่งมีอันดับเครดิตสูงกว่าอันดับเครดิตของประเทศไทยที่ 'BBB+' และเพดานอันดับเครดิต (country ceiling) ที่ 'A-’ อยู่หลายอันดับ อันดับเครดิตของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิของ UOBT ได้รับการจัดอันดับเครดิตให้อยู่ในระดับเดียวกันกับอันดับเครดิตภายในประเทศของธนาคารเนื่องจากหุ้นกู้ดังกล่าวเป็นภาระผูกพันที่ไม่ด้อยสิทธิและไม่มีหลักประกันของธนาคาร อันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของ UOBT ที่ 'bbb-' สะท้อนถึงฐานะทางการเงินของตัวธนาคารเอง ซึ่งรวมถึงฐานะเงินกองทุนและสภาพคล่องที่แข็งแกร่งและโครงสร้างเครือข่ายธุรกิจ (company profile) ที่เหมาะสม UOBT มีขนาดที่ค่อนข้างเล็กเมื่อเทียบกับตลาดในประเทศไทย โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดด้านเงินฝากที่ประมาณ 3% ซึ่งส่งผลให้มีข้อจำกัดในด้านความหลากหลายในการดำเนินธุรกิจและการได้เปรียบเชิงขนาด อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินยังได้พิจารณาถึงการสนับสนุนในด้านการดำเนินงานตามปรกติจาก UOB เช่นในด้านการบริหารความเสี่ยงและความเชี่ยวชาญในด้านผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินยังได้สะท้อนถึงสภาวะแวดล้อมในการดำเนินงานที่ยากลำบากมากขึ้นและผลกระทบในวงกว้างต่อระบบเศรษฐกิจอันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า ซึ่งปัจจัยดังกล่าวได้เพิ่มแรงกดดันต่อสภาวะแวดล้อมในการดำเนินงานที่อ่อนแอมาอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจทั้งภายในประเทศและทั่วโลกที่ซบเซา แม้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทยจะมีมาตรการผ่อนปรนเพื่อช่วยสนับสนุนการปรับโครงสร้างหนี้ แต่มาตรการเหล่านี้ไม่น่าจะหักล้างความเสี่ยงที่เกิดจากผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำต่อลูกหนี้ที่มีฐานะทางการงินที่อ่อนแอหรือเป็นกลุ่มที่มีความเปราะบางได้ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมในการดำเนินงานของธนาคารไทยสามารถดูได้จาก “Coronavirus Outbreak Increases Challenges for Thai Banks’ Operating Environment” ลงวันที่ 2 เมษายน 2563 ที่ http://www.fitchratings.com/site/pr/10116671 เนื่องจากระยะเวลาและแนวโน้มความรุนแรงของสถานการณ์การระบาดของโคโรน่าไวรัส ยังมีความไม่แน่นอน อย่างไรก็ตามฟิทช์คาดว่าตามสมมติฐานกรณีฐาน ผลการดำเนินงานของ UOBT จะได้รับผลกระทบในช่วง 2 ปีข้างหน้าเป็นอย่างน้อย โดยอัตราส่วนที่สำคัญในด้านการเงินจะอ่อนตัวลงจากในปี 2562 อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อรวมของ UOBT อยู่ในระดับที่ดีกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมและฟิทช์คาดว่าจะยังคงอยู่ระดับที่ดีกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากระดับการยอมรับความเสี่ยงของธนาคาร (risk appetite) ที่มีความระมัดระวัง กำไรของธนาคารจะได้รับแรงกดดันจากค่าใช้จ่ายที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น สภาวะแวดล้อมอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ และรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยที่น้อยลง หุ้นกู้ด้อยสิทธิ อันดับเครดิตของตราสารหนี้ด้อยสิทธิ (ที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2) ของ UOBT ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ต่ำกว่าอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของธนาคารอยู่ 2 อันดับ ซึ่งสอดคล้องวิธีการปรับลดอันดับเครดิตสำหรับตราสารหนี้ด้อยสิทธิจากอันดับเครดิตอ้างอิงตามหลักเกณฑ์การจัดอันดับเครดิตสำหรับธนาคารที่ปรับปรุงล่าสุดของฟิทช์และสะท้อนถึงความเสี่ยงที่สูงขึ้นเมื่อเทียบกับตราสารหนี้ไม่ด้อยสิทธิ ทั้งนี้ไม่ได้มีการปรับลดอันดับเพิ่มเติมสำหรับความเสี่ยงที่ผู้ถือหุ้นกู้จะไม่ได้รับผลตอบแทนตามที่ดาดการณ์ (non-performance risk) เนื่องจากหุ้นกู้ดังกล่าวไม่มีคุณสมบัติรองรับผลขาดทุนระหว่างการดำเนินกิจการ (going-concern loss absorption) ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศ อันดับเครดิตภายในประเทศ และอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงบวกหรือส่งผลให้กิดการปรับเพิ่มอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน) อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวไม่สามารถปรับเพิ่มอันดับได้ เนื่องจากอยู่ในระดับเดียวกันกับเพดานอันดับเครดิตของประเทศทไทยที่ 'A-' อันดับเครดิตสนับสนุน อันดับเครดิตภายในประเทศ หรืออันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ เป็นอันดับเครดิตที่อยู่ในระดับสูงสุด จึงไม่สามารถปรับเพิ่มอันดับเครดิตได้ ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบหรือส่งผลให้กิดการปรับลดอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน) หากความสามารถที่ธนาคารแม่จะให้การสนับสนุนแก่ UOBT มีการปรับตัวลดลง อาจส่งผลให้อันดับเครดิตของ UOBT ถูกปรับลดอันดับเช่นกัน แต่ทั้งนี้ธนาคารแม่ต้องถูกปรับลดอันดับเครดิตลงหลายอันดับ เนื่องจาก ณ ปัจจุบันอันดับเครดิตของธนาคารแม่ยังอยู่ในระดับที่สูงกว่าอันดับเครดิตสากลของ UOBT และเพดานอันดับเครดิตของประเทศไทยอยู่หลายอันดับ ซึ่งฟิทช์ไม่คาดว่าจะเกิดขึ้นในระยะปานกลาง การปรับตัวลงลงอย่างมากของโอกาสที่ UOBT จะได้รับการสนับสนุนจาก UOB อาจส่งผลให้มีการปรับลดอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว อันดับเครดิตสนับสนุน อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว และอันดับเครดิตตราสารหนี้ไม่ด้อยสิทธิ ของธนาคารลูก ตัวอย่างเช่น การลดลงของสัดส่วนการถือหุ้นของธนาคารแม่ลงต่ำกว่า 75% รวมถึงการลดการควบคุมการบริหารงานและการผสานการดำเนินงานที่ลดลง อย่างไรก็ตามฟิทช์ไม่คาดว่าจะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวในระยะสั้น อันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงบวกหรือส่งผลให้กิดการปรับเพิ่มอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน) อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของ UOBT อาจได้รับการปรับเพิ่มอันดับเครดิตหากเครือข่ายทางธุรกิจของ UOBT ปรับตัวดีขึ้น ส่งผลให้กำไรปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่นการปรับตัวเพิ่มขึ้นของอัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานต่อสินทรัพย์เสี่ยงโดยที่ธนาคารยังคงรักษามาตรฐานการยอมรับความเสี่ยงอย่างระมัดระวังและอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อรวมที่ดีกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมโดยรวม อย่างไรก็ตามสภาวะแวดล้อมในการดำเนินงานที่ท้าทายน่าจะจำกัดโอกาสในการปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้นในช่วงสองปีข้างหน้า ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบหรือส่งผลให้กิดการปรับลดอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน) อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินอาจได้รับการปรับลดอันดับหากมีการปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องของอัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญในด้านคุณภาพสินทรัพย์และด้านผลกำไรลงไปต่ำกว่าระดับที่ฟิทช์คาดการณ์ ซึ่งอาจส่งผลให้มีการทบทวนมุมมองของฟิทช์ต่อระดับการยอมรับความเสี่ยงของธนาคารและความเพียงพอของเงินกองทุน ตัวอย่างเช่น การปรับตัวแย่ลงของคุณภาพสินทรัพย์ซึ่งอาจสะท้อนโดยอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อรวมที่สูงเกินระดับ 4% อย่างต่อเนื่องในขณะที่ด้านกำไรซึ่งสะท้อนโดยอัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานต่อสินทรัพย์เสี่ยงที่ต่ำกว่า 1% หุ้นกู้ด้อยสิทธิ ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงบวกหรือส่งผลให้กิดการปรับเพิ่มอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน) ไม่มีปัจจัยใดที่จะทำให้อันดับเครดิตของตราสารหนี้ด้อยสิทธิ (ที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2) ของ UOBT ได้รับการปรับเพิ่มอันดับเนื่องจากอันดับเครดิตอ้างอิงซึ่งคืออันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของธนาคารเป็นอันดับเครดิตที่อยู่ในระดับสูงสุด ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบหรือส่งผลให้กิดการปรับลดอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน) อันดับเครดิตตราสารหนี้ด้อยสิทธิ (ที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2) ของ UOBT จะถูกปรับลดอันดับหากอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของธนาคารซึ่งเป็นอันดับเครดิตอ้างอิงได้รับการปรับลดอันดับ รายละเอียดของอันดับเครดิตมีดังต่อไปนี้: อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวคงอันดับที่ 'A-’; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้นคงอันดับที่ 'F1’อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินคงอันดับที่ 'bbb-’อันดับเครดิตสนับสนุนคงอันดับที่ '1’อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวคงอันดับที่ 'AAA(tha)’; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นคงอันดับที่ 'F1+(tha)’อันดับเครดิตในประเทศของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกันคงอันดับที่ 'AAA(tha)’อันดับเครดิตในประเทศของหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ตามเกณฑ์บาเซล 3 ปรับลดอันดับเป็น 'AA (tha)’ จาก 'AA+ (tha)’

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ