ธอส. ส่งมอบสายคล้องหน้ากากอนามัย 250,000 ชิ้น ให้แก่ 5 โรงพยาบาลรัฐ พร้อมมอบเงินสนับสนุนด้านการแพทย์ ร่วมใจ ต้านภัย COVID-19

ข่าวทั่วไป Thursday May 28, 2020 17:13 —ThaiPR.net

ธอส. ส่งมอบสายคล้องหน้ากากอนามัย 250,000 ชิ้น ให้แก่ 5 โรงพยาบาลรัฐ พร้อมมอบเงินสนับสนุนด้านการแพทย์ ร่วมใจ ต้านภัย COVID-19 กรุงเทพฯ--28 พ.ค.--ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารบ้านของคนไทย ส่งมอบสายคล้องหน้ากากอนามัย จำนวน 250,000 ชิ้น ให้แก่ 5 โรงพยาบาลของรัฐ ได้แก่ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โรงพยาบาลรามาธิบดี โรงพยาบาลศิริราช และโรงพยาบาลราชวิถี เพื่อบรรเทาความเจ็บจากการกดทับของสายหน้ากากอนามัยเมื่อใส่เป็นเวลานานให้กับบุคลากรทางการแพทย์ และทุกสาขาอาชีพ ที่ปฏิบัติหน้าที่ดูแลประชาชนในช่วงสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 พร้อมมอบเงินสนับสนุนโรงพยาบาล ร่วมใจ ต้านภัย COVID-19 จำนวนรวม 1,000,000 บาท และบริจาคสมทบทุนโครงการวิจัยและการจัดหาเครื่องมือแพทย์ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า จำนวน 1,500,000 บาท นายปริญญา พัฒนภักดี ประธานกรรมการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ตามที่ธนาคารอาคารสงเคราะห์ได้จัดโครงการ “ร้อยพลังเล็ก สู่ล้านพลังยิ่งใหญ่ โดย ธอส.” เพื่อให้ผู้บริหารและผู้ปฏิบัติงานของ ธอส. ทั่วประเทศ หน่วยงานพันธมิตร ผู้สูงอายุหรือผู้พิการในความดูแลของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และกลุ่มผู้สูงอายุในชุมชนที่ธนาคารให้การสนับสนุน รวมพลังประดิษฐ์สายคล้องหน้ากากอนามัย จำนวน 1,000,000 ชิ้น เพื่อมอบให้แก่บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข รวมถึงผู้ปฏิบัติหน้าที่ให้บริการประชาชนนำไปคล้องหน้ากากอนามัย เพื่อบรรเทาปัญหาการบาดเจ็บจากการถูกสายรัดหน้ากากอนามัยกดทับ เป็นเวลานานระหว่างใส่ปฏิบัติหน้าที่นั้น โดยภายหลังจากที่เริ่ม Kick Off โครงการตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม 2563 ล่าสุด ผู้บริหารและผู้ปฏิบัติงานของ ธอส. ได้ร่วมกันประดิษฐ์สายคล้องหน้ากากอนามัยได้แล้วเป็นจำนวนถึง 250,000 ชิ้น ทำให้ในวันที่ 28 พฤษภาคม และวันที่ 1 มิถุนายน 2563 ธนาคารจึงได้มีกำหนดส่งมอบสายคล้องหน้ากากอนามัยที่ผ่านการอบฆ่าเชื้อ เรียบร้อยแล้วให้แก่บุคลากรทางการแพทย์และผู้ปฏิบัติหน้าที่ให้บริการประชาชนในโรงพยาบาลของรัฐ 5 แห่ง ในพื้นที่กรุงเทพฯ แห่งละ 50,000 ชิ้น แบ่งเป็นการส่งมอบในวันที่ 28 พฤษภาคม 2563 จำนวน 4 แห่ง ได้แก่ 1.โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า 2.โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ 3.โรงพยาบาลรามาธิบดี และ 4.โรงพยาบาลศิริราช ส่วนในวันที่ 1 มิถุนายน 2563 ธนาคารจะนำสายคล้องหน้ากากอนามัยไปส่งมอบให้กับโรงพยาบาลราชวิถีต่อไป พร้อมกันนี้ ธอส. ยังได้มอบเงินสนับสนุนเพื่อร่วมใจ ต้านภัย โควิด-19 ให้แก่ทั้ง 5 โรงพยาบาล ๆ ละ 200,000 บาท รวมเป็นเงิน 1,000,000 บาท และมอบงบประมาณสมทบทุน โครงการ “วิจัยและการจัดหาเครื่องมือแพทย์” ของโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า จำนวนเงิน 1,500,000 บาท ทั้งนี้ เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานที่จำเป็นทางการแพทย์ ซึ่งจะมีส่วนสำคัญต่อการอำนวยความสะดวก ในการรักษาและให้บริการประชาชน รวมถึงป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ได้ดียิ่งขึ้นต่อไป “จากที่ได้ชมคลิปของ คุณยายประเพ็ญ ฮั่นตระกูล วัย 92 ปี นั่งทำสายคล้องหน้ากาอนามัยให้แพทย์ ซึ่งดูเหมือนเป็นเรื่องเล็กๆ แต่ ธอส. คิดว่ามันยิ่งใหญ่และสำคัญ จึงเป็นที่มาของโครงการนี้ ธอส. ขอชื่นชมการทำหน้าที่ของบุคลากรทางการแพทย์ของไทย ซึ่งถือเป็นกลุ่มบุคคลสำคัญที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างทุ่มเทและเต็มกำลัง เพื่อดูแลรักษาให้บริการประชาชนตลอดระยะเวลาที่เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 และเป็นส่วนสำคัญ ที่ทำให้ประเทศไทย มีจำนวนผู้ติดเชื้อลดลงอย่างต่อเนื่อง และเราหวังว่าการจัดทำโครงการ “ร้อยพลังเล็ก สู่ล้านพลังยิ่งใหญ่ โดย ธอส.” จะถือเป็นหนึ่งในกำลังใจและสะท้อนให้เห็นถึงความห่วงใยที่พวกเราได้ส่งผ่านสายคล้องหน้ากากอนามัย ตามแนวคิดในการจัดทำโครงการเพื่อสังคมของ ธอส.คือ “ไม่ใช่แค่หน้าที่ แต่คือความห่วงใย” สอดคล้องกับ “บ้าน ธอส.ที่มีนโยบายสร้างรากฐานแห่งความสุข ความอบอุ่น “ทำให้คนไทยมีบ้าน” และจะเติมเต็มส่วนที่ขาดให้กับ “คนไทย สังคมไทย เศรษฐกิจไทย และ แผ่นดินไทย” ในเชิงคุณภาพชีวิตของคนไทย” นายปริญญา กล่าว ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลาเกือบ 67 ปี ธอส. ได้สนับสนุนสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยแก่ประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและปานกลางให้สามารถมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองตามควรแก่อัตภาพมาแล้วมากกว่า 3.7 ล้านครอบครัว ตามพันธกิจ “ทำให้คนไทยมีบ้าน” ควบคู่ไปกับการให้ความสำคัญกับการดำเนินกิจกรรมด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ทั้งด้านที่อยู่อาศัย การศึกษา สังคมและสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมสถาบันพระมหากษัตริย์/ศาสนา/ศิลปวัฒนธรรม และกีฬา โดยคำนึงถึงการมีส่วนร่วมของชุมชน และปลูกจิตอาสาช่วยเหลือสังคมของพนักงานในองค์กร รวมทั้งการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างชุมชน และสร้างสังคมไทยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีและเติบโตอย่างยั่งยืน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ