SSP เฮ! โรงไฟฟ้ายามากะ COD ก่อนกำหนด หนุนกำลังการผลิตตามสัญญาพุ่งแตะ 135 MW ดันผลงานปี 63 สร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday June 2, 2020 14:56 —ThaiPR.net

SSP เฮ! โรงไฟฟ้ายามากะ COD ก่อนกำหนด หนุนกำลังการผลิตตามสัญญาพุ่งแตะ 135 MW ดันผลงานปี 63 สร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ กรุงเทพฯ--2 มิ.ย.--เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น SSP ไม่ทำให้ผิดหวัง! เสียบปลั๊กโรงไฟฟ้า Yamaga ประเทศญี่ปุ่น กำลังการผลิตตามสัญญา 30 เมกะวัตต์ ก่อนกำหนด ดันกำลังการผลิตไฟฟ้าในมือเพิ่มขึ้นเป็น 135 เมกะวัตต์ หนุนผลงานปี 63 ทุบสถิติสูงสุดใหม่ บิ๊กบอส “วรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์” แย้มอยู่ระหว่างศึกษาลงทุนโรงไฟฟ้าเพิ่มเติม คาดปิดจ๊อบภายในปีนี้ รองรับแผน 3-5 ปี ข้างหน้ากำลังการผลิตแตะ 400 เมกะวัตต์ นายวรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น (SSP) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2563 โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Yamaga ประเทศญี่ปุ่น กำลังการผลิตตามสัญญา 30 เมกะวัตต์ ได้ขายไฟเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) เร็วกว่ากำหนด จากเดิมคาดภายในเดือนกรกฎาคม 2563 เมื่อรวมกับการรับรู้รายได้เต็มปีของโซลาร์ฟาร์มเวียดนามและมองโกเลีย จะทำให้ปี 2563 มีกำลังการผลิตตามสัญญาโรงไฟฟ้าในมือจำนวน 135 เมกะวัตต์ ผลักดันผลการดำเนินงานในปีนี้เติบโตอย่างก้าวกระโดด สร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง “โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Yamaga ประเทศญี่ปุ่น ที่สร้างเสร็จก่อนกำหนด ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จ และตอกย้ำถึงความเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานทดแทนของ SSP ที่มุ่งเน้นพัฒนาโครงการตั้งแต่ต้น ไม่เน้นการซื้อโครงการที่เสร็จแล้วมาดำเนินการต่อ ซึ่งทำให้ได้ผลตอบแทนในแต่ละโรงไฟฟ้าดีกว่าอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม SSP ก็ไม่ได้ปิดโอกาส หากมีโครงการที่ผลตอบแทนดี ความเสี่ยงต่ำก็พร้อมเข้าลงทุนเช่นเดียวกัน เพื่อเพิ่มแหล่งที่มาของรายได้ สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น” นายวรุตม์ กล่าวว่า ที่ผ่านมา SSP พยายามมองหาโครงการใหม่มาเติมในพอร์ตการลงทุนอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับรายได้และกำไรที่เติบโตสูงมาตลอด โดยในปัจจุบันอยู่ระหว่างศึกษาลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าเพิ่มเติม คาดว่าจะมีความชัดเจนภายในปี 2563 เพื่อไปสู่เป้าหมายกำลังการผลิตไฟฟ้าในมือเพิ่มเป็น 400 เมกะวัตต์ภายใน 3-5 ปีข้างหน้า ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SSP กล่าวอีกว่า แนวโน้มรายได้ในช่วง 3 ปีข้างหน้า คาดว่ายังมีโอกาสเติบโตอีกมาก จากการมีโรงไฟฟ้าใหม่ๆเริ่มขายไฟมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากฐานจำนวนโรงไฟฟ้าที่ยังไม่สูง เมื่อมีโรงไฟฟ้าใหม่ๆ เริ่มดำเนินการก็จะมีอัตราเติบโตต่อรายได้และกำไรมากขึ้น ทั้งนี้ โรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่จะเข้ามาในรอบ 3 ปีข้างหน้า อาทิ โรงไฟฟ้าพลังงานลมกำลังการผลิต 48 เมกะวัตต์ในเวียดนาม โรงไฟฟ้าพลังงานแสงแดดในญี่ปุ่นอีก 2 โรง กำลังการผลิต 26 เมกะวัตต์ และ 22 เมกะวัตต์ ตามลำดับ ทุกโครงการเดินหน้าปกติตามแผนงาน ไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่อย่างใด

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ