น้ำใจกลุ่ม 'เคทิส’ สู้โควิดไปด้วยกัน ช่วยผู้ได้รับผลกระทบ อิ่มทั้งกาย สุขทั้งใจ

ข่าวทั่วไป Wednesday June 10, 2020 13:28 —ThaiPR.net

น้ำใจกลุ่ม 'เคทิส’ สู้โควิดไปด้วยกัน ช่วยผู้ได้รับผลกระทบ อิ่มทั้งกาย สุขทั้งใจ กรุงเทพฯ--10 มิ.ย.--ไอทูซี คอมมิวนิเคชั่นส์ ภาพชินตาของพี่น้องชาวนครสวรรค์หรือผู้ที่สัญจรผ่านด้านหน้าโรงแรมแกรนด์วิษณุ กลางเมืองปากน้ำโพ ตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา คือ ภาพความประทับใจของคนกลุ่มหนึ่งที่เป็น “ผู้ให้” กับคนกลุ่มใหญ่ที่เป็น “ผู้รับ” เป็นความห่วงหาอาทรที่ทำให้เกิดความชุ่มชื่นในหัวใจในยามที่คนไทยและคนทั่วโลกกำลังเผชิญกับวิกฤติโควิด-19 “ผู้ให้” ได้จัดเตรียมอาหารปรุงสดพร้อมรับประทาน รวมถึงของหวานและเครื่องดื่ม วันละ 300 ชุด เพื่อเติมกำลังกายกำลังใจให้กับประชาชนชาวนครสวรรค์ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ดร.สายศิริ ศิริวิริยะกุล ผู้อำนวยการฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์และการสื่อสารองค์กร กลุ่มบริษัท เกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ชูการ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือกลุ่ม KTIS บอกว่า โครงการนี้ เกิดขึ้นจากความตั้งใจของคุณย่า “หทัย ศิริวิริยะกุล” ผู้ก่อตั้งกลุ่ม KTIS มหาวิทยาลัยเจ้าพระยา และวิทยาลัยอาชีวศึกษาวิริยาลัยนครสวรรค์ หรือที่คนนครสวรรค์ส่วนใหญ่เรียกว่า 'คุณแม่หทัย’ ที่ต้องการบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องในจังหวัดนครสวรรค์ตามโครงการ “มอบน้ำใจแด่พี่น้องชาวนครสวรรค์ ดูแลกันก้าวผ่าน โควิด-19” โดยได้เริ่มแจกจ่ายอาหารและเครื่องดื่ม ตั้งแต่วันที่ 26 เมษายน ที่ผ่านมา และทำต่อเนื่องทุกวันจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย “ชาวนครสวรรค์เป็นเหมือนกับพี่น้องของเรา เมื่อมีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สิ่งแรกที่คุณย่าและครอบครัวอยากทำ คือ ต้องช่วยเหลือดูแลคนในบ้านก่อน เราอยากดูแลให้คนที่เดือดร้อน คนที่มีความทุกข์ ขาดรายได้จุนเจือครอบครัว อย่างน้อยที่สุดก็มีอาหารรับประทาน ได้อิ่มท้อง ขณะเดียวกัน เรายังได้ช่วยเหลือผู้ประกอบการร้านอาหารในจังหวัดที่ขาดรายได้เหมือนกัน โดยเราจะสั่งอาหารจากร้านเหล่านี้สลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนกัน ทำให้ผู้ประกอบการมีลูกค้า ลูกจ้างในร้านก็มีงานทำ มีรายได้เข้าร้าน บรรเทาความเดือดร้อนได้อีกทาง” ดร.สายศิริ กล่าว นอกจากการแจกจ่ายอาหารเพื่อเติมกำลังกายเป็นประจำทุกวันแล้ว ยังมีกิจกรรมสันทนาการ เพื่อเติมกำลังใจ สร้างความสุขทางใจให้กับประชาชนที่มารับอาหารด้วย เรียกว่า “อิ่มทั้งกาย สุขทั้งใจ” ส่วนพี่น้องชาวนครสวรรค์ที่อยู่ห่างไกลจากตัวเมืองนั้น กลุ่ม KTIS มหาวิทยาลัยเจ้าพระยา และวิทยาลัยอาชีวศึกษาวิริยาลัยนครสวรรค์ ยังผนึกความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ จัดทำ “ถุงน้ำใจ” ซึ่งเป็นถุงยังชีพ ที่บรรจุของใช้ที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน โดยแจกจ่ายให้กับพี่น้องชาวนครสวรรค์ ในบริเวณชุมชนรอบโรงงานน้ำตาลเกษตรไทยฯ และโรงงานน้ำตาลเกษตรไทยฯ สาขา 3 จำนวนทั้งสิ้น 2,000 ชุด พร้อมมอบ “ซองน้ำใจ” หรือเงินสดจำนวนหนึ่งสำหรับใช้จ่ายในครอบครัวอีกด้วย และเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่งที่ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์และกาชาดจังหวัดนครสวรรค์ รวมถึงสภาอุตสาหกรรมนครสวรรค์ ได้เข้ามามีส่วนร่วมกระจาย “ถุงน้ำใจ” ของกลุ่ม KTIS ไปยังพื้นที่ห่างไกลออกไป โดยได้มอบผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดจำนวน 400 ถุง ผ่านกาชาดจังหวัดอีก 200 ถุง และส่วนที่เหลือนั้นคณะผู้บริหารของกลุ่ม KTIS ได้ลงพื้นที่มอบให้กับชาวบ้านที่อาศัยอยู่รอบๆ โรงงานน้ำตาลทั้ง 2 แห่ง โดยได้ร่วมคัดกรองผู้ที่เข้ารับถุงน้ำใจ ร่วมกับผู้นำชุมชน รวมถึงทีมมวลชนสัมพันธ์กลุ่ม KTIS ซึ่งคลุกคลีกับชาวบ้านในพื้นที่ เพื่อให้ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจริงๆ ได้รับความช่วยเหลือ “ตอนลงพื้นที่ไปมอบถุงน้ำใจให้กับพี่น้องในชุมชนรอบๆ โรงงานน้ำตาลทั้ง 2 แห่ง เราได้รับรู้ถึงความลำบากของทุกครอบครัว และทุกคนก็ดีใจมากที่เราไม่ทอดทิ้งพวกเขา ซึ่งแม้ว่า 'ถุงน้ำใจ’ จะเป็นเพียงความช่วยเหลือเล็กๆ น้อยๆ ที่เราแบ่งปันให้กัน แต่ในภาวะวิกฤติเช่นนี้มันเป็นความสุขที่ยิ่งใหญ่มากสำหรับคนที่ขาดแคลนจริงๆ” นอกจากทั้ง 2 โครงการนี้แล้ว ที่ผ่านมา กลุ่ม KTIS ยังได้ร่วมบริจาคแอลกอฮอล์ที่ผลิตจากโรงงานของบริษัท เคทิส ไบโอเอทานอล จำกัด ให้กับหน่วยงานทางการแพทย์ โรงพยาบาล สถานศึกษา วัด และองค์กรต่างๆ รวมถึงชุมชน เพื่อใช้ในการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นอกจากนี้ยังจำหน่ายแอลกอฮอล์ในราคาถูก เพื่อบรรเทาปัญหาขาดแคลนและแก้ปัญหาการขายแพงเกินราคาอีกด้วย ไม่แต่เพียงเท่านั้น กลุ่ม KTIS มหาวิทยาลัยเจ้าพระยา และวิทยาลัยอาชีวศึกษาวิริยาลัยนครสวรรค์ ยังได้จัดทีมรับฟังปัญหาความเดือดร้อนของผู้ประสบทุกข์จากสถานการณ์การระบาดโควิด-19 และเป็นสื่อกลางประสานความช่วยเหลือด้านต่างๆ กับหน่วยงานของรัฐ ที่จะช่วยบรรเทาเบาบางความเดือดร้อนของประชาชนที่มาร้องเรียนหรือขอความช่วยเหลือด้วย “ไม่มีช่วงเวลาไหนที่จะหยิบยื่นความช่วยเหลือหรือน้ำใจให้กัน ได้ดีไปกว่าช่วงเวลาที่เกิดวิกฤติ โดยเฉพาะวิกฤติที่เกิดจากโรคระบาด และเป็นวิกฤติที่ทุกคนไม่เคยมีประสบการณ์ในการรับมือมาก่อน แม้ว่าวิกฤติโควิด-19 ทำให้เราต้องเว้นระยะห่างระหว่างกัน แต่วิกฤติครั้งนี้ไม่สามารถทำให้เราเว้นวรรคความช่วยเหลือ หรือเว้นว่างจากการหยิบยื่นน้ำใจให้กันได้ เราจะร่วมกันฝ่าฟันและผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปด้วยกันให้ได้” ดร.สายศิริกล่าว
แท็ก ปากน้ำ  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ