GBS ส่อง 6 หุ้นเด่น อานิสงส์ “เราเที่ยวด้วยกัน” ชู ERW – CENTEL – AOT – AAV – BA – ASAP น่าสนใจ

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday July 8, 2020 13:26 —ThaiPR.net

GBS ส่อง 6 หุ้นเด่น อานิสงส์ “เราเที่ยวด้วยกัน”  ชู ERW – CENTEL – AOT – AAV – BA – ASAP น่าสนใจ กรุงเทพฯ--8 ก.ค.--มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์ บล. โกลเบล็ก ประเมินสถานการณ์ตลาดหุ้นไทยมีโอกาสฟื้นตัวในลักษณะ Sideway ให้กรอบดัชนี 1,365-1,400 จุด พร้อมประเมินโครงการ“เราเที่ยวด้วยกัน” สามารถกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ ให้กลับมาครึกครื้น แนะ 6 หุ้น อานิสงส์เตรียมได้ประโยชน์แพ็กเกจ “เราเที่ยวด้วยกัน” ERW-CENTEL-AOT- AAV-BA –ASAP น่าจับตา ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์โกลเบล็ก จำกัด ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยในช่วงนี้ว่า มีโอกาสปรับตัวขึ้นในลักษณะ Sideway Up โดยให้กรอบดัชนีเคลื่อนไหวที่ระดับ 1,365-1,400 จุด หลังนักลงทุนเริ่มกลับมามีความเชื่อมั่น ซึ่งเป็นอานิสงส์จากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในประเทศจีน ขณะเดียวกันหลายประเทศก็เริ่มกลับมาเปิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ทำให้ภาพรวมของดัชนีเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัว อาทิ ดัชนีภาคบริการของสหรัฐดีดตัวขึ้นแข็งแกร่งในเดือนมิ.ย. ดัชนี PMI ภาคบริการของจีน ในเดือนมิ.ย.พุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 53 และยังมีการคาดหวังว่าทางการจีนจะออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มในเร็วๆนี้ ขณะที่ปัจจัยเชิงบวก โดยเฉพาะนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ อย่างโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” เชื่อว่าจะได้การตอบรับที่ดี คาดว่าสามารถกระตุ้นการท่องเที่ยว รวมถึงสภาพคล่องเศรษฐกิจให้หมุนเวียน และกลับมาสะพัดในประเทศได้ดีขึ้น ดังนั้นหากพิจารณาด้านการลงทุน เพื่อให้สอดรับการนโยบายในข้างต้น ทางฝ่ายวิจัยมองว่าหุ้น ERW-CENTEL-AOT- AAV-BA –ASAP จะเป็นหุ้นที่ได้รับอานิสงส์จากภาคกระตุ้นการท่องเที่ยว พร้อมกันนี้ ยังแนะนำหุ้นเด่นที่ทาง IAA Consensus แนะนำตรงกัน อาทิ ADVANC, CK, CPALL, CPF และ INTUCH นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS มองว่า แม้ภาพรวมการลงทุนจะเริ่มมีการฟื้นตัว แต่ทั้งนี้ยังคงต้องให้จับตาปัจจัยต่างๆทั้งในประเทศ และ ต่างประเทศ ที่ยังคงเป็นตัวแปรหลักเพื่อการตัดสินใจในการลงทุน อาทิ ธปท. เผยแพร่รายงานการประชุมคณะกรรมการ นโยบายการเงิน (กนง.) ฉบับย่อ ขณะที่ญี่ปุ่น เตรียมเปิดเผยดุลบัญชีเดินสะพัดเดือนพ.ค. รวมทั้งสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์วันนี้ (8 ก.ค.) และวันที่ 9 ก.ค. ทางญี่ปุ่นเปิดเผยยอดสั่งซื้อเครื่องจักรเดือนพ.ค. ส่วนจีนก็ได้เปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนมิ.ย.และสหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนพ.ค.63 ส่วนในวันที่ 10 ก.ค. จะมีการประชุมครม.เศรษฐกิจคาดจะพิจารณาจัดตั้งกองทุนช่วยเหลือ SMEs และทางญี่ปุ่นเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนมิ.ย. เช่นเดียวกับสหรัฐ รวมทั้งติดตามการรายงานผลการดำเนินงานงวดครึ่งปีแรก 2563 ของหุ้นกลุ่มธนาคารที่จะทยอยประกาศระหว่างวันที่ 13-21ก.ค.นี้ และวันที่ 15 ก.ค. จะเริ่มเปิดลงทะเบียนรับสิทธิโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” “ ล่าสุดทางโกลด์แมน แซคส์ ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจสหรัฐปีนี้ เป็น -4.6% จากเดิม -4.2% และการส่งออกของไทยหดตัวต่อเนื่อง ขณะเดียวกันสภาผู้ส่งออก ปรับลดคาดการณ์ส่งออกในปีนี้เป็นหดตัว 10% จากเดิมที่คาดหดตัว 8% จากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และเงินบาทแข็งค่ากดดันตัวเลขส่งออก 5 เดือนแรกของปีนี้ หดตัว 3.71%YoY” สำหรับราคาทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก ประเมินสัปดาห์นี้ คาดว่า ราคาทองคำยังได้แรงหนุนจากการเข้าซื้อทองคำอย่างต่อเนื่องของกองทุน SPDR และความกังวลการแพร่ระบาดรอบ 2 ของ COVID-19 สำหรับผู้ที่มีสถานะให้ถือสถานะที่มีเพื่อรันเทรน ส่วนผู้ที่รอซื้อเน้นซื้อจังหวะย่อตัว เราคาดกรอบราคาทองคำที่ 1,755 -1,800 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือเทียบเท่าทองคำไทย 25,820-26,540 บาทต่อบาททองคำ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ