CASIO G-SHOCK นำเทรนด์นาฬิกา Must-Haves แห่งปี 2020 สัมผัสคุณค่าของเรือนเวลาคาสิโอ (CASIO)

ข่าวบันเทิง Wednesday July 8, 2020 16:29 —ThaiPR.net

CASIO G-SHOCK นำเทรนด์นาฬิกา Must-Haves แห่งปี 2020  สัมผัสคุณค่าของเรือนเวลาคาสิโอ (CASIO) กรุงเทพฯ--8 ก.ค.--สปาร์ค คอมมิวนิเคชั่นส์ กลับมาอีกครั้งกับนาฬิการุ่นใหม่ เอ็กซ์คลูซีฟ และโปรโมชั่นสุดคุ้มเมื่อล่าสุด บริษัท เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป จำกัด (CMG) ผู้นำเข้านาฬิกา CASIO G-SHOCK อย่างเป็นทางการในประเทศไทยได้ประกาศเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของงานที่สายช้อปเฝ้าคอย กับ สยามพารากอน วอชท์ เอ็กซ์โป 2020 (Siam Paragon Watch Expo 2020) ซึ่งจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 9 กรกฎาคม จนถึงวันที่ 29 กรกฎาคม 2563 ณ บูธ D18 ชั้น 1 Fashion Hall เตรียมตัวพบกับนาฬิกา 6 รุ่นสุดฮิตจากค่าย CASIO ด้วยลิมิเต็ดอิดิชั่นสายลักซ์ชัวรี่ Full Metal Grid GMW-B5000CS ตามด้วย Collaboration Models กับรุ่นพิเศษ Mud Master Burton & British Army, NEW G-SQUAD GBD-100, GM6900 METAL FACE และ G-MS The Classy Collection และพบกับกิจกรรมสุดมันส์ให้ทุกคนได้ร่วมสนุกและตื่นตาตื่นใจไปกับของรางวัลพร้อมโปรโมชั่นสุดพิเศษ เริ่มต้นไฮไลท์สุดพิเศษของงานกันที่นาฬิการุ่นลิมิเต็ด จาก G-SHOCK อย่าง GMW-B5000CS Full Metal GRID ที่มาพร้อมกับโครงสร้างสแตนเลสสตีลแนวลักชัวรี่เต็มรูปแบบ ผสมผสานกับรูปลักษณ์หน้าปัดทรงเหลี่ยมต้นฉบับของนาฬิกา G-SHOCK ที่สืบทอดตำนานมาจากนาฬิการุ่นแรกในปี 1983 นอกจากความเป็นลิมิเต็ดแล้วรุ่นนี้ยังได้รับชื่อเล่นว่า “GRID” ซึ่งได้ที่มาจากการออกแบบพร้อมสลักหน้าปัดตัวเรือนและสายด้วยการยิงเลเซอร์เป็นเส้นลายตาราง GRID ด้วยเทคนิคการยิงเลเซอร์ที่ประณีตเพื่อให้ทุกเส้นมีการเว้นความตรงและต่อเนื่องกันในทุกสัดส่วนของเรือนเวลาแบบ Seamless ด้วยแรงบันดาลใจจากเส้นลายที่เป็นพื้นฐานของงานออกแบบในทุกแขนง เช่น งานสถาปัตยกรรม เป็นต้น โดย GRID เป็นการสื่อให้เห็นว่า นวัตกรรมหรือดีไซน์ที่ดีล้วนเริ่มจากการใส่ใจกับสิ่งที่เป็นพื้นฐานที่สุด และพื้นฐานที่ดีก่อให้เกิดอนาคตที่มั่นคง Gridlines นี้จึงเหมือนอุโมงค์แห่งการเวลาที่ผสานพื้นฐาน G-SHOCK DNA อันแข็งแกร่งกับความหรูหรา โดดเด่น มีเอกลักษณ์ในแบบ Full Metal จนกลายเป็นรุ่นลิมิเต็ดที่น่าจับจองอีกหนึ่งรุ่น ในแง่ของฟังก์ชั่นการใช้งาน Full Metal GRID มาพร้อมเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยไม่ว่าจะเป็น พลังงานแสงอาทิตย์ การเชื่อมต่อกับเสารับสัญญาณวิทยุที่ทำให้เปลี่ยนเวลาได้อัตโนมัติ การเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่าน Bluetooth(R) และกันน้ำได้ลึกถึง 200 เมตร เป็นต้น และจะมาเปิดตัวครั้งแรกในงาน สยามพารากอน วอชท์ เอ็กซ์โป 2020 นี้ โดยมีเพียง 50 เรือนในประเทศไทยเท่านั้น ผู้ที่สนใจ สามารถพบกับ G-SHOCK Full Metal GRID ได้ที่แรกที่เดียวในงานสยามพารากอน วอชท์ เอ็กซ์โป 2020 ในราคา 37,000 บาท พร้อมของแถมกระเป๋า G-Shock x Labrador Leather Soft Case มูลค่า 3,000 บาท อีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจไม่แพ้กัน ซึ่งจะมาเปิดตัวแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ที่แรกในประเทศไทย ณ งานสยามพารากอน วอชท์ เอ็กซ์โป 2020 คือ รุ่น G-SQUAD GBD-100 Training Series นาฬิกาแนวสปอร์ตสุดเท่ห์ที่ได้รับการพัฒนามาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มคนรักการออกกำลังกายโดยเฉพาะ ด้วยเอกลักษณ์ด้านดีไซน์และฟังก์ชันที่เปรียบเสมือนสมาร์ทโฟนและเทรนนิ่งวอทช์ที่ไม่เหมือนใคร ชูความสามารถในการวัดความเร็ว การนับจำนวนก้าว (pedometer) แบบอัตโนมัติ เพื่อคำนวณการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย การจับเวลาที่สามารถแบ่งรอบได้สูงสุดถึง 5 รอบต่อครั้งแบบอัตโนมัติ ซึ่งช่วยในการติดตามเวลาที่ใช้ในระยะทางที่ระบุ พร้อมฟีเจอร์วัดความเร่งในตัวนาฬิกา โดยใช้ความแม่นยำของจีพีเอสในสมาร์ทโฟนเป็นตัววัดระยะทาง ไม่เพียงเท่านี้ G-SQUAD GBD-100 Training Series ยังมาพร้อมกับนวัตกรรมของความทนทานต่อแรงตกกระแทกจากตึกสูง 3 ชั้น ด้วยเทคโนโลยีของแผ่นครอบฝาหลังจากวัสดุเรซิน และยังสามารถกันน้ำลึกได้ถึง 200 เมตร ซึ่งซีรีย์นี้แตกต่างจากรุ่นอื่นที่มีการผลิตออกมาก่อนหน้าในด้านการเชื่อมต่อระบบ Bluetooth(R) เข้ากับสมาร์ทโฟนผ่านแอปพลิเคชั่น G-SHOCK MOVE เพื่อรับการแจ้งเตือนเมื่อมีการโทรและข้อความเข้าได้อย่างต่อเนื่องแม้ขณะออกกำลังกาย ที่พร้อมให้เป็นเจ้าของกับดีไซน์ทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สายสีดำ, สายสีขาว และสายสีน้ำเงิน ในราคาเพียง 7,000 บาท พร้อมโปรโมชั่นสุดเอ็กซ์คลูซีพเฉพาะลูกค้าในงานเท่านั้น นอกจากนี้ สายแฟชั่น Street Luxury พลาดไม่ได้กับซีรี่ส์ใหม่ยอดฮิตอย่าง G-SHOCK Metal Face GM6900 ที่ได้นักร้องหนุ่มสายแฟอย่าง 'โอ๊ต’ ปราโมทย์ ปาทาน มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ สะท้อน DNA ความเท่ห์แบบมีสไตล์ กับเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ “Triple Graph” (ทริปเปิ้ล กราฟ) หรือ “ไอ้สามตา” ซึ่งไฮไลท์ของรุ่นนี้จะอยู่ที่วงกรอบตัวเรือนโลหะ ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Metal Series ยอดนิยมของสายสตรีทแฟชั่น ที่ทำขึ้นเป็นพิเศษเพื่อฉลองวาระครบรอบ 25 ปีของซีรี่ส์ 6900 G-SHOCK Metal Face GM6900 มีให้เลือกถึงสามสีสามสไตล์ ได้แก่ Sterling Soul (GM-6900-1DR) กรอบตัวเรือนโลหะสีเงิน พร้อมสายเรซินสีดำ ราคา 8,000 บาท, Gold Metal (GM-6900G-9DR) กรอบตัวเรือนโลหะสีทอง พร้อมสายเรซินสีดำ ราคา 8,900 บาท และ Red Electro (GM-6900B-4DR) กรอบตัวเรือนโลหะสีดำ พร้อมชุบด้วยเทคนิคพิเศษ มากับสายเรซินสีแดงโปร่งแสง ในราคา 8,900 บาท ซึ่งเป็นรุ่น Limited ของซีรี่ส์นี้ โดยตัวเรือน Metal Face ของ GM6900 นั้นผ่านการหล่อหลอมด้วยกระบวนการสร้างรูปทรงและขึ้นรูปถึง 20 ขั้นตอน ตลอดจนการเคลือบชุบและขัดเงาด้วยเทคนิคพิเศษอีกหลายขั้นตอน ซึ่งจัดให้ G-SHOCK Metal Face GM6900 เป็นนาฬิกาที่มีทั้งความเท่ห์และความหรูหรากลมกลืนอย่างสมบูรณ์แบบในเรือนเดียวกัน แถมพิเศษสุดสำหรับงานสยามพารากอน วอชท์ เอ็กซ์โป ลูกค้าที่ซื้อนาฬิกา GM-6900 Metal Face สีใดก็ได้ จะได้รับฟรีทันที ลำโพง Bluetooth(R) จาก G-SHOCK เอกสิทธิ์เฉพาะของทางแบรนด์ มูลค่า 1,500 บาท ต่อกันด้วยผลงานคอแลประหว่าง CASIO G-SHOCK กับ แบรนด์สโนว์บอร์ดชื่อดังอย่าง BURTON SNOWBOARD กับนาฬิการุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่น G-SHOCK MUDMASTER x BURTON ที่มาพร้อมลวดลายเสมือนหิมะที่ปกคลุมอยู่บนต้นไม้ พร้อมโครงสร้าง Carbon Core Guard กับกรอบตัวเรือนคาร์บอนสามชั้น และปุ่มขนาดใหญ่กันลื่นเพื่อให้ทนทานต่อภูมิทัศน์ที่เป็นภูเขาหิมะ ชูเทคโนโลยีสุดล้ำกับเซ็นเซอร์ 4 ตัว ประกอบด้วย เข็มทิศ มาตรวัดความสูง เทอร์โมมิเตอร์ และมาตรวัดความเร่ง รวมถึงฟังก์ชั่นพิเศษที่เอาใจคนชอบสัมผัสธรรมชาติและสนุกกับกิจกรรม outdoor อย่างการระบุโลเคชั่น, นับก้าว, บอกเวลาพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก ซึ่งสามารถพบได้ผ่านแอปพลิเคชั่นของ G-SHOCK เมื่อเชื่อมต่อนาฬิกาเข้ากับระบบ Bluetooth(R) ในราคา 16,500 บาท พร้อมรับฟรีเก้าอี้แคมป์ปิ้ง G-SHOCK มูลค่า 2,500 บาท เมื่อซื้อภายในงาน อีกหนึ่งรุ่นที่สะท้อน DNA ความเท่ห์และแข็งแกร่งของ G-SHOCK ได้แก่ G-SHOCK MUDMASTER X BRITISH ARMY ซึ่งเป็นผลงานที่ G-SHOCK ได้ออกแบบร่วมกับกระทรวงกลางโหม (HM Armed Forces) ของประเทศอังกฤษ เพื่อให้เหมาะสมกับพื้นที่ที่มีสภาพแวดล้อมที่เลวร้าย เน้นดีไซน์ที่มีความเบาสบายในการสวมใส่ โดยใช้สแตนเลสสตีลแบบบางที่แข็งแกร่ง และเรซินชั้นดีมาประกอบเคสตัวเรือน พร้อมลวดลายพรางเอกลักษณ์ของกองทัพอังกฤษ ที่เข้ากันอย่างลงตัวกับหน้าปัดสีดำ นอกจากนี้ยังมาพร้อมคุณสมบัติใหม่ ๆ มากมายรวมถึงเทคโนโลยีในการบอกตำแหน่งและการติดตามกิจกรรม เช่น ความสามารถในการเชื่อมต่อ Bluetooth(R) ผ่านแอปพลิเคชัน G-SHOCK พร้อมฟังก์ชั่นพิเศษภายในแอปฯ มากมาย รวมถึงการระบุตำแหน่ง หน่วยความจำสำหรับบันทึกกิจกรรมต่าง ๆ หน่วยความจำสำหรับการระบุตำแหน่ง การบอกข้อมูลพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก รวมถึงแคลอรี่ที่ถูกเผาผลาญ และฟังก์ชั่นอื่น ๆ ในราคาเพียง 16,500 บาท พร้อมรับฟรีเก้าอี้แคมป์ปิ้ง G-SHOCK มูลค่า 2,500 บาท เมื่อซื้อภายในงาน ท้ายสุด สำหรับสาว ๆ ที่งาน พลาดไม่ได้กับ G-MS คอลเลกชัน The Classy Collection ที่พร้อมเสริมลุคให้กับการแต่งตัว กับดีไซน์ตัวเรือนและดีเทลที่ปรับแต่งให้เรียบหรูยิ่งขึ้น กับห้าแบบห้าสไตล์ ไม่ว่าจะเป็นแบบคลาสสิคหน้าปัดโลหะสีพิงค์โกลด์ เงิน และทอง ด้วยสายเรซินสี ขาว ดำ และ ครีม หรือสไตล์ใหม่สายคอมโพสิตสีดำและสีขาว (วัสดุผสมระหว่างเรซินและสแตนเลสสตีล) คงคอนเซ็ปต์มินิมอล คล่องตัว และหรูหรา ในราคาเริ่มต้นเพียง 6,400 บาท เสริมด้วยฟังก์ชันครบกับระบบการบอกเวลารอบโลก การชาร์จพลังงานด้วยแสงอาทิตย์โดยไม่ต้องเปลี่ยนถ่าน (Tough Solar) รวมถึงการกันน้ำได้ถึง 100 เมตร ทำให้สาว ๆ หมดห่วงกับไลฟ์สไตล์นิวนอร์มอลที่ต้องล้างมือบ่อย ๆ อีกด้วย เห็นทีจะพลาดไม่ได้กับโปรโมชั่นและของแถมสุดพิเศษที่คัดสรรให้ลูกค้า CASIO G-SHOCK โดยเฉพาะ เมื่อซื้อนาฬิกาภายในงาน สยามพารากอน วอชท์ เอ็กซ์โป 2020 รวมถึงของแจกอีกมากมายสำหรับลูกค้า Early Bird และ Top Spender นอกจากนี้ พลาดไม่ได้กับกิจกรรมแจกนาฬิกาทุกเสาร์-อาทิตย์ กับเกมส์ G-SHOCK G-SQUAD RING FIT ซึ่งผู้ร่วมสนุกจะมีสิทธ์ลุ้นรับนาฬิกา G-SQUAD จำนวน 1 เรือนต่อวัน เรียกได้ว่าสนุกและเพิ่มความฟิตให้กับร่างกายได้อีกด้วย สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับนาฬิกา CASIO และ G-SHOCK สามารถเข้าชมได้ที่งาน สยามพารากอน วอชท์ เอ็กซ์โป 2020 ณ บูธ CASIO G-SHOCK ชั้น 1 Fashion Hall ตั้งแต่วันที่ 9 กรกฎาคม จนถึงวันที่ 29 กรกฎาคม 2563 หรือผ่านทางเว็บไซต์ www.casio-cmg.com และ Facebook/Casio Watches Thailand

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ