กรุงเทพฯ--10 ก.ค.--สมอลล์รูม
วงดนตรีชื่อประหลาดอย่าง The Jukks และเนื้อเพลงท่อนฮิตติดปาก “อยู่คนเดียว อยู่ลำพัง หว่าเว้..” คงคุ้นหูใครหลายๆคนอยู่ไม่น้อย ทั้งสไตล์เพลง Alternative กับดนตรีที่สาดไม่ยั้งและคาแรคเตอร์กวนๆสนุกสนานของ “แกน, แมว และ เตอร์” เป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้ The Jukks ดูแปลกและเป็นที่น่าจดจำถูกอกถูกใจเด็กอัลเทอร์ จากผลงานอัลบั้มชุดแรก Cup D เมื่อปี 2011 ที่มีเพลงฮิตมากมาย อาทิ หว่าเว้, อรนงค์, นม, หลักหน่วย, สุดเขต (เธอ get ก็ ok) และกลับมาในอัลบั้มชุดที่สองในปี 2017 กับอัลบั้ม Clips ที่เป็นการเปลี่ยนโฉมครั้งสำคัญ ทั้งความคลีนของแฟชั่นการแต่งตัวไปจนถึงความซอฟท์ทางดนตรีกับมุมมองที่โตขึ้นในเพลงเนื้อหา Feel good ที่มีทั้งสดใสและเศร้าหมองแต่ยังคงให้กำลังใจอย่างเพลง ความเป็นจริง (Fact), อยู่คนเดียว (Island), ขยะ (Drop), ทำไมโก (Why Lies) และอีกหลายเพลงที่ถ่ายทอดผ่านงาน Artwork รูปแบบการ์ตูนทั้งมิวสิควิดีโอและแพ็กเกจอัลบั้มที่น่าสะสม
ตลอดระยะเวลาเกือบ 10 ปีที่โลดแล่นบนเส้นทางดนตรี แม้รอยต่อระหว่างทางจะมีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้น มีทั้งการเปลี่ยนแปลง ทดลอง เรียนรู้ในหลายรูปแบบ ในปีนี้ The Jukks กลับมาพร้อมจัดเต็มดนตรีอัลเทอร์เนทีฟเสิร์ฟถึงหูกันอีกครั้ง ชวนให้นึกถึง The Jukks ในยุคแรก นำเอาความซ่าส์ในแบบอัลบั้มชุดหนึ่งมาผสมผสานกับแนวคิดอัลบั้มสองไว้ได้อย่างลงตัว กับผลงานใหม่ล่าสุด “Innocent (ไม่มีเหตุผล)” เมื่อตอนเด็กเรามักจะถูกพร่ำสอนให้ทำอะไรอย่างมีเหตุผลเสมอ แต่เมื่อได้รู้จักกับความรัก กลับกลายเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้เราทำอะไรไปโดยไม่มีเหตุผล ราวกับว่าเราไม่ประสีประสากับมัน ยังรักอยู่อย่างนั้นแม้จะรักข้างเดียวก็ตาม มาในดนตรีชุดคอร์ดวนที่เข้าใจง่าย ฟังง่าย แต่แฝงไปด้วยความขี้เล่นตามสไตล์ด้วยลูกเล่นของเบสและสาดเสียงกีต้าร์ไม่ยั้ง อัดแน่นรัวๆกับซาวด์กลองที่วิ่งวนกับความรู้สึกให้ยังคงทำอยู่อย่างนั้นรักอยู่อย่างนั้น พร้อมด้วยมิวสิควิดีโอที่ได้เหล่านักแสดงรับเชิญรุ่นจิ๋ว (ลูกๆของเพื่อนๆพี่ๆศิลปินในค่ายสมอลล์รูม) มาถ่ายทอดความสดใสของวัยเด็กที่ได้เล่นและทำอะไรโดยไม่ต้องมีเหตุผล ตัดสลับกับแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ของทั้งสามคนแบบยุคอัลเทอร์และความพังค์เท่ๆ เป็นการกลับมาครั้งใหม่ที่ยังคงจัดจ้านเต็มเปี่ยมด้วยอรรถรสทางดนตรีสะท้อนตัวตนของ The Jukks ชวนให้อินไปกับเนื้อหาด้วยภาษาเพลงประโยคตรงๆที่มีเอกลักษณ์อิมแพคไปถึงข้างในตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้ฟัง
3 ปีที่รอคอยกับ 'The Jukks’ พร้อมซาวด์ดนตรีที่คิดถึงกับผลงานใหม่ล่าสุด 'Innocent (ไม่มีเหตุผล)’ เสิร์ฟความจัดจ้านที่ไม่ไร้เดียงสาทางดนตรี
ข่าวบันเทิง Friday July 10, 2020 13:15 —ThaiPR.net
กรุงเทพฯ--10 ก.ค.--สมอลล์รูม
วงดนตรีชื่อประหลาดอย่าง The Jukks และเนื้อเพลงท่อนฮิตติดปาก “อยู่คนเดียว อยู่ลำพัง หว่าเว้..” คงคุ้นหูใครหลายๆคนอยู่ไม่น้อย ทั้งสไตล์เพลง Alternative กับดนตรีที่สาดไม่ยั้งและคาแรคเตอร์กวนๆสนุกสนานของ “แกน, แมว และ เตอร์” เป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้ The Jukks ดูแปลกและเป็นที่น่าจดจำถูกอกถูกใจเด็กอัลเทอร์ จากผลงานอัลบั้มชุดแรก Cup D เมื่อปี 2011 ที่มีเพลงฮิตมากมาย อาทิ หว่าเว้, อรนงค์, นม, หลักหน่วย, สุดเขต (เธอ get ก็ ok) และกลับมาในอัลบั้มชุดที่สองในปี 2017 กับอัลบั้ม Clips ที่เป็นการเปลี่ยนโฉมครั้งสำคัญ ทั้งความคลีนของแฟชั่นการแต่งตัวไปจนถึงความซอฟท์ทางดนตรีกับมุมมองที่โตขึ้นในเพลงเนื้อหา Feel good ที่มีทั้งสดใสและเศร้าหมองแต่ยังคงให้กำลังใจอย่างเพลง ความเป็นจริง (Fact), อยู่คนเดียว (Island), ขยะ (Drop), ทำไมโก (Why Lies) และอีกหลายเพลงที่ถ่ายทอดผ่านงาน Artwork รูปแบบการ์ตูนทั้งมิวสิควิดีโอและแพ็กเกจอัลบั้มที่น่าสะสม
ตลอดระยะเวลาเกือบ 10 ปีที่โลดแล่นบนเส้นทางดนตรี แม้รอยต่อระหว่างทางจะมีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้น มีทั้งการเปลี่ยนแปลง ทดลอง เรียนรู้ในหลายรูปแบบ ในปีนี้ The Jukks กลับมาพร้อมจัดเต็มดนตรีอัลเทอร์เนทีฟเสิร์ฟถึงหูกันอีกครั้ง ชวนให้นึกถึง The Jukks ในยุคแรก นำเอาความซ่าส์ในแบบอัลบั้มชุดหนึ่งมาผสมผสานกับแนวคิดอัลบั้มสองไว้ได้อย่างลงตัว กับผลงานใหม่ล่าสุด “Innocent (ไม่มีเหตุผล)” เมื่อตอนเด็กเรามักจะถูกพร่ำสอนให้ทำอะไรอย่างมีเหตุผลเสมอ แต่เมื่อได้รู้จักกับความรัก กลับกลายเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้เราทำอะไรไปโดยไม่มีเหตุผล ราวกับว่าเราไม่ประสีประสากับมัน ยังรักอยู่อย่างนั้นแม้จะรักข้างเดียวก็ตาม มาในดนตรีชุดคอร์ดวนที่เข้าใจง่าย ฟังง่าย แต่แฝงไปด้วยความขี้เล่นตามสไตล์ด้วยลูกเล่นของเบสและสาดเสียงกีต้าร์ไม่ยั้ง อัดแน่นรัวๆกับซาวด์กลองที่วิ่งวนกับความรู้สึกให้ยังคงทำอยู่อย่างนั้นรักอยู่อย่างนั้น พร้อมด้วยมิวสิควิดีโอที่ได้เหล่านักแสดงรับเชิญรุ่นจิ๋ว (ลูกๆของเพื่อนๆพี่ๆศิลปินในค่ายสมอลล์รูม) มาถ่ายทอดความสดใสของวัยเด็กที่ได้เล่นและทำอะไรโดยไม่ต้องมีเหตุผล ตัดสลับกับแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ของทั้งสามคนแบบยุคอัลเทอร์และความพังค์เท่ๆ เป็นการกลับมาครั้งใหม่ที่ยังคงจัดจ้านเต็มเปี่ยมด้วยอรรถรสทางดนตรีสะท้อนตัวตนของ The Jukks ชวนให้อินไปกับเนื้อหาด้วยภาษาเพลงประโยคตรงๆที่มีเอกลักษณ์อิมแพคไปถึงข้างในตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้ฟัง