ผลทดสอบชี้! โพวิโดน ไอโอดีน ฆ่าไวรัสโควิด-19 ได้ ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของวงการการแพทย์

ข่าวทั่วไป Friday July 17, 2020 13:58 —ThaiPR.net

ผลทดสอบชี้! โพวิโดน ไอโอดีน ฆ่าไวรัสโควิด-19 ได้ ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของวงการการแพทย์ กรุงเทพฯ--17 ก.ค.--แบล็คเยิร์ด ผลการทดสอบในห้องปฏิบัติการ โดยโรงเรียนแพทย์ Duke-NUS ในสิงคโปร์ และได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Infectious Disease and Therapy Journal เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ยืนยันถึงประสิทธิภาพของตัวยา โพวิโดน ไอโอดีน (Povidone Iodine หรือ PVP-I) ในการฆ่าเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (SARS-CoV-2) ซึ่งเป็นต้นเหตุของโรคโควิด-19 ระบุว่า ตัวยาโพวิโดน ไอโอดีน (Povidone Iodine หรือ PVP-I) ในรูปแบบน้ำยาบ้วนปาก ความเข้มข้น 1% สเปรย์พ่นปากและคอ ความเข้มข้น 0.45% น้ำยาฆ่าเชื้อความเข้มข้น 10% และ น้ำยาล้างทำความสะอาด ความเข้มข้น 7.5% มีประสิทธิภาพใช้ในการฆ่าเชื้อไวรัส SARS-CoV-2 ในระดับหลอดทดลองได้ถึง 99.99% ภายในระยะเวลา 30 วินาที* ขณะเดียวกัน ตัวยา โพวิโดน ไอโอดีน (Povidone Iodine) ยังได้รับการทดสอบอีกครั้ง โดยศูนย์การวิจัยและการศึกษาโรคติดเชื้อเขตร้อน (TIDREC) ที่มหาวิทยาลัยมาลายา ประเทศมาเลเซีย ซึ่งผลทดสอบแสดงให้เห็นว่า ตัวยา โพวิโดน ไอโอดีน (Povidone Iodine หรือ PVP-I) ในรูปแบบน้ำยาบ้วนปาก ที่ความเข้มข้น 1% สามารถฆ่าเชื้อ SARS-CoV-2 ในหลอดทดลองได้ 99.99% ภายใน 15 วินาที โดยเผยแพร่ผ่าน British Dental Journal (BDJ) เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2563 ในนามของทันตแพทยสมาคมอังกฤษ (British Dental Association)** ที่ผ่านมาตัวยา โพวิโดน ไอโอดีน (Povidone Iodine หรือ PVP-I) ได้รับการยอมรับถึงประสิทธิภาพในหลอดทดลอง ต่อการฆ่าเชื้อไวรัสต่างๆ รวมถึงเชื้อโคโรน่าไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคระบาดสำคัญ อย่างโรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง (MERS) และโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง (SARS) โดยตัวยา โพวิโดน ไอโอดีน (Povidone Iodine หรือ PVP-I) มีประสิทธิภาพสูงในการจัดการกับจุลินทรีย์ประเภทต่าง ๆ ทั้งแบคทีเรีย ไวรัส และเชื้อรา จนมีการนำไปใช้ในโรงพยาบาลอย่างแพร่หลาย ขณะเดียวกันมีข้อแนะนำในการใช้ผลิตภัณฑ์ อย่างเหมาะสมควบคู่ไปกับการป้องกันเชื้อในแบบอื่นๆ เช่น สวมใส่หน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือให้สะอาด ฯลฯ ตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข สามารถช่วยลดความเสี่ยงการแพร่กระจายของเชื้อโรคและโรคติดเชื้อต่างๆ โดยเฉพาะ โรคโควิด19 ที่ยังคงมีการระบาดในหลายพื้นที่ทั่วโลก

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ