วิศวฯ ธรรมศาสตร์ ผนึก กสอ. ดึงเทคโนโลยี IoT ต้นทุนต่ำ ช่วยเอสเอ็มอีไทย ลดต้นทุน เพิ่มรายได้

ข่าวทั่วไป Monday July 20, 2020 11:47 —ThaiPR.net

วิศวฯ ธรรมศาสตร์ ผนึก กสอ. ดึงเทคโนโลยี IoT ต้นทุนต่ำ ช่วยเอสเอ็มอีไทย ลดต้นทุน เพิ่มรายได้ กรุงเทพฯ--20 ก.ค.--เจซีแอนด์โค พับลิครีเลชั่นส์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (TSE) ผนึก กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) ดึง “อินเตอร์เน็ตออฟ ติงส์” เทคโนโลยีต้นทุนต่ำ ช่วยเอสเอ็มอีปรับกระบวนการทำงานภาคการผลิต “ลดต้นทุน-เพิ่มรายได้” หนุนผู้ประกอบมีรายได้มั่นคง ภายใต้โครงการ “การปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานในภาคอุตสาหกรรม SMEs” ผ่านเทคโนโลยี IoT อาทิ ระบบเฝ้าตรวจแรงงานอัจฉริยะ ระบบเฝ้าตรวจเครื่องจักรอัจฉริยะ ตอกย้ำวิสัยทัศน์ “เป็นมากกว่าวิศวกร” ทั้งนี้ ผู้ประกอบการที่สนใจขอรับคำปรึกษาสามารถติดต่อได้ที่ กองพัฒนาดิจิทัลอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) โทรศัพท์ 02 202 4562 เว็บไซต์ https://ddi.dip.go.th สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มธ. โทรศัพท์ 094-664-7146 ติดตามความเคลื่อนไหวกิจกรรมของ TSE ได้ที่ www.facebook.com/ENGR.THAMMASAT และ www.engr.tu.ac.th ผศ. ดร. ศุภกิจ พฤกษอรุณ อาจารย์ประจำภาควิชาไฟฟ้าและคอมพิวเตอร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (TSE) เปิดเผยว่า TSE ได้ร่วมมือกับ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) โดย กองพัฒนาดิจิทัลอุตสาหกรรม เปิดโครงการ “การปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานในภาคอุตสาหกรรม SMEs” การให้คำปรึกษาแนะนำผู้ประกอบการ ผ่านการเลือกใช้เทคโนโลยีทางวิศวกรรมที่เหมาะสมกับรูปแบบธุรกิจ โดยมุ่งยกระดับศักยภาพกระบวนการผลิตของผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมให้มีความมั่นคงทางรายได้ และพร้อมขับเคลื่อนมูลค่าทางเศรษฐกิจไทยอย่างเข้มแข็ง อันตอกย้ำวิสัยทัศน์ “เป็นมากกว่าวิศวกร” ที่มิได้โฟกัสเพียงการพัฒนาวิศวกรรุ่นใหม่เท่านั้น แต่ยังมุ่งถ่ายทอดและเชื่อมโยงองค์ความรู้ด้านวิศวกรรมศาสตร์เข้ากับทุกบริบทของประเทศไทย โดยที่ผ่านมา TSE ได้ร่วมถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการประยุกต์เทคโนโลยี “อินเตอร์เน็ตออฟ ติงส์” (Internet of Things) หรือไอโอที (IoT) ในการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานในภาคอุตสาหกรรม SMEs อย่างต่อเนื่อง ด้วยการลงพื้นที่สำรวจกระบวนการทำงานภายในโรงงานของผู้ประกอบการ พร้อมให้คำปรึกษาในการปรับปรุงกระบวนการทำงานของแรงงานได้อย่างตรงจุด ผ่านการพัฒนาระบบเฝ้าตรวจแรงงานอัจฉริยะ ระบบเฝ้าตรวจเครื่องจักรอัจฉริยะ ปรับใช้ในกระบวนการผลิต อาทิ ธุรกิจฟาร์มไข่ไก่ เดิมที่ต้องสูญเสียพนักงาน ในการนับไข่และติดตามสุขภาพแม่ไก่ในโรงเรือน จำนวน 6-7 คน ก็สามารถไปทำงานในส่วนอื่น ๆ ได้ ธุรกิจผลิตภัณฑ์เครื่องใช้เมลามีน เดิมที่มีข้อจำกัดด้านทักษะการปฏิบัติงานและมาตรฐานเวลาในการทำงาน ก็สามารถทำงานได้รวดเร็วและมีมาตรฐานเดียวกัน ทั้งนี้ IoT ถือเป็นเทคโนโลยีต้นทุนต่ำ ที่ผู้ประกอบการสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับธุรกิจของตนได้อย่างสะดวก เพียงมี ระบบตรวจจับ (IoT board) ที่ทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์ติดตามการทำงาน และนับจำนวนชิ้นงาน/นับรอบการผลิต เช่น ไข่ไก่ แผ่นคอนกรีต พร้อมประมวลผลเพื่อช่วยให้การนับจำนวนแม่นยำยิ่งขึ้น ระบบแจ้งเตือนผ่านสมาร์ทโฟน การส่งข้อความแจ้งเตือน อาทิ การทำงานของอุปกรณ์ การเริ่มกะการทำงาน ผลผลิตสินค้าในแต่ละกะการทำงาน พร้อมแสดงผลผ่านระบบ Line Notify บนสมาร์ทโฟนของผู้ประกอบการ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และประหยัดเวลาของผู้ประกอบการในการควบคุม ตลอดจนหาแนวทางแก้ไขได้อย่างทันท่วงที อย่างไรก็ตาม ภาคอุตสาหกรรม นับเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญในการเพิ่มขีดความสามารถและขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ แต่ทั้งนี้ ในการบริหารจัดการอุตสาหกรรม โดยเฉพาะภาคการผลิตของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี (SMEs) กลับเผชิญกับข้อจำกัดจำนวนมาก อาทิ การสูญเสียโอกาสทางรายได้ อันเนื่องมาจากความชำนาญในการผลิตของแรงงาน การมีข้อมูลเชิงสถิติการที่คลาดเคลื่อน ซึ่งเกิดจากการขาดความแม่นยำในการนับจำนวนของบุคคล ดังนั้น การมีเทคโนโลยีที่เข้ามาช่วยในการตรวจสอบและควบคุมคุณภาพ อย่าง IoT เทคโนโลยีที่เชื่อมโยงทุกสิ่งสู่ระบบอินเตอร์เน็ต ก็จะช่วยให้ผู้ประกอบการมีผลผลิตที่ได้คุณภาพและมาตรฐาน สามารถพัฒนากระบวนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีรายได้ที่เพิ่มขึ้น ลดต้นทุนการผลิต ตลอดจนพัฒนาทักษะและฝีมือแรงงานอย่างเป็นระบบ และเกิดกระบวนการทำงานใหม่ที่มีเสถียรภาพยิ่งขึ้น ผู้ศาสตราจารย์ ดร.ศุภกิจ กล่าวทิ้งท้าย ด้าน รองศาสตราจารย์ ดร. ธีร เจียศิริพงษ์กุล คณบดี คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (TSE) กล่าวเสริมว่า TSE มุ่งส่งเสริมและผลักดันบุคลากรนักวิจัย ผู้มีความเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมเชิงลึกในสาขาต่าง ๆ รวมถึงนักศึกษา เข้าไปมีส่วนร่วมในการพัฒนาอุตสาหกรรมไทย ซึ่งครอบคลุมโรงงานอุตสาหกรรมในระดับเอสเอ็มอี ภายใต้กระบวนการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem-based Learning : PBL) เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านกระบวนการทำงานในเชิงบวก และการประยุกต์ใช้จริงในภาคอุตสาหกรรม นอกจากนี้ นักศึกษายังได้รับประสบการณ์นอกห้องเรียน จากการลงมือปฏิบัติจริง อย่างไรก็ดี นอกเหนือจากการผลักดันบุคลากรนักวิจัยและนักศึกษาแล้ว TSE ยังเดินหน้าถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านวิศวกรรมศาสตร์เพื่อร่วมขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทย ผ่านการผนึกความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐอย่าง “กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม” เพื่อร่วมยกระดับภาคอุตสาหกรรมไทย ให้พร้อมก้าวสู่ “อุตสาหกรรมยุคใหม่” อย่างยั่งยืน สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจขอคำแนะนำ สามารถติดต่อได้ที่ กองพัฒนาดิจิทัลอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) โทรศัพท์ 02 202 4562 เว็บไซต์ https://ddi.dip.go.th หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มธ. โทรศัพท์ 094-664-7146 ติดตามความเคลื่อนไหวกิจกรรมของ TSE ได้ที่ www.facebook.com/ENGR.THAMMASAT และ www.engr.tu.ac.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ