กรุงเทพฯ--30 ก.ย.--เอ็มดีเค คอนซัลแทนส์
ชาวจีนเชื่อว่า ชาขาว คือ ส่วนผสมสำคัญของน้ำอมฤตว่ากันว่าจักรพรรดิจีนแห่งราชวงศ์ซ้อง ทรงโปรดปรานการดื่มน้ำชาขาวเป็นชีวิตจิตใจ เพราะนอกจากกลิ่นอาโรมาที่หอมสดชื่นแล้ว ยังทรงเห็นประโยชน์ที่ลึกซึ้งที่ว่า การดื่มน้ำชาขาว เปรียบเสมือนการผ่อนคลาย ช่วยฟื้นฟูจิตใจ และทำให้เกิดสมาธิในการทำงาน สาเหตุที่ชาขาว คือสุดยอดแห่งชา ก็ด้วยองค์ประกอบ 4 ประการ ดังนี้
ความสมบูรณ์ของแหล่งดิน
แม้ว่าแหล่งปลูกชาจะมีอยู่ทั่วไปในดินแดนพื้นที่สูง แต่แหล่งภูเขาสูงแห่งมณฑลฟูเจี้ยน ยูนนาน และกวางสี ประเทศจีน กลับเป็นพื้นที่ปลูกชาเพียงไม่กี่แห่งในโลก ที่สามารถให้ผลผลิตชาที่ถือเป็นสุดยอดแห่งชา ด้วยพื้นที่สูงจากระดับน้ำทะเลถึง 1,000 เมตร สภาพภูมิอากาศและผืนดินที่อุดมด้วยแร่ธาตุสมบูรณ์เหมาะสมแก่การปลูกชา
จากสายพันธุ์บริสุทธิ์สู่สุดยอดแห่งชา
กล่าวกันว่าสายพันธุ์ชาขาวที่มีชื่อเสียง ได้แก่ White Peony หรือ Bai Mudan และ Silver Needle เป็นสายพันธุ์ที่หายาก และได้รับความนิยมมากที่สุด ด้วยลักษณะเฉพาะที่บอบบางและขนาดที่เล็กของตูมชาขาวของสายพันธุ์ดังกล่าว ในขณะที่ชาเขียวคือส่วนที่เป็นยอดอ่อนของใบชาเท่านั้น ส่วนชาดำคือใบชาทั่วๆ ไป
48 ชั่วโมงในช่วงฤดูใบไม้ผลิ
ชาขาวที่มีคุณภาพ หมายถึง ตูมชา (Tea Bud) จะถูกเก็บภายใน 48 ชั่วโมงนับตั้งแต่วินาทีของช่อสีขาวแรกเพิ่งผลิออกมา การคัดเลือกด้วยมือเก็บเกี่ยวอย่างทะนุถนอม เฉพาะใบที่อ่อนที่สุดและยังปกคลุมด้วยปุยขนอ่อนสีขาวเท่านั้น รวมไปถึงยอดอ่อน 2 ใบแรกของต้นชา นั่นคือในช่วงวันแรกของฤดูใบใม้ผลิ ชาขาวจึงกลายเป็นของที่หายาก และราคาแพง
ขั้นตอนผลิตที่อิงพลังธรรมชาติ
“ชาขาว — เพียวริคุ” ผ่านการเก็บยอดอ่อนแต่ละยอดด้วยมือเปล่า จากนั้นจึงนำไปตากให้แห้งด้วยแสงแดดธรรมชาติ ต้องเก็บเกี่ยวยอดอ่อนๆจากแต่ละต้นด้วยมือเปล่าด้วยความทะนุถนอม จำนวนถึง 80,000 ยอดจึงจะสามารถนำมาผลิตเป็นชากลิ่นหอมได้น้ำหนัก 1 ปอนด์ ขั้นตอนการผลิตที่เรียบง่ายและอิงธรรมชาตินี้เองที่ทำให้ตูมและใบชาขาวไม่ถูกทำลายระหว่างขั้นตอนการผลิต และคงคุณค่าด้านประโยชน์ต่อสุขภาพไว้ได้อย่างเต็มที่ ในขณะที่ชาเขียวและชาดำหลังเก็บจากต้นและนำใบไปม้วนผ่านกระบวนการอบด้วยไอน้ำและความร้อน
รูป กลิ่น รส และ คุณประโยชน์
ธรรมชาติที่รู้สึกได้ด้วยประสาทสัมผัส รูป-กลิ่น-รส
สีของน้ำชาขาวนั้นจะเป็นสีเหลืองทองเหมือนอำพัน รวมทั้งกลิ่นสัมผัสที่รัญจวนด้วยไอธรรมชาติจากยอดตูมชาที่แรกแย้มในช่วงเริ่มต้นของฤดูกาล จากกลิ่นอาโรมาหอมรื่นชื่นใจ ทำให้การดื่มน้ำชาขาวนั้นเปรียบเสมือนการผ่อนคลาย ช่วยฟื้นฟูจิตใจ ขับไล่ความเหนื่อยอ่อน ในขณะที่รสชาตินุ่มนวล กลมกล่อม หวานชุ่มคอแบบธรรมชาติ พร้อมกระตุ้นความเข้มแข็งให้กลับคืนมา และทำให้เกิดสมาธิตั้งมั่นในการทำงาน ต่างจากชาเขียวที่ให้รสชาติฝาดของใบไม้
ชาขาว 1 ถ้วยเทียบเท่าน้ำส้มคั้น 12 แก้ว
สารสกัดจากใบชาขาวมีปริมาณสารต่อต้านอนุมูลอิสระอยู่เป็นจำนวนมากกว่าชาเขียวและชาดำถึง 3 เท่า หรือเปรียบเทียบได้ว่าชาขาว 1 ถ้วยนั้นมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระเท่ากับน้ำส้มคั้น 12 แก้ว
หยุดยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียและไวรัส ซึ่งเป็นบ่อเกิดของโรคหัวใจ โรคมะเร็ง (โดยเฉพาะมะเร็งในช่องท้อง และลำไส้ใหญ่) และโรคร้ายต่างๆ อาทิเช่น Streptococcus infections และโรคปอดบวม เป็นโล่ป้องกันสารอนุมูลอิสระไม่ให้แพร่เข้ามาทำปฎิกิริยากับเซลล์บนผิวหน้า ซึ่งเป็นบ่อเกิดของการที่ใบหน้ามีริ้วรอยเหี่ยวย่น คุณสมบัติชำระล้าง และเพิ่มสมดุลแก่สภาพผิวหนัง
สารสกัดจากชาขาวยังถูกนำไปใช้ในวงการทันตกรรมในรูปแบบของสารสกัดในยาสีฟัน เพื่อช่วยยับยั้งแบคทีเรียในช่องปากและป้องกันฟันผุ
ชาขาวให้คาเฟอีนในปริมาณน้อยที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับชาเขียว และชาดำ (ชาขาวมีคาเฟอีนประมาณ 15 มิลลิกรัม ชาเขียว 20 มิลลิกรัม และชาดำมีปริมาณคาเฟอีนประมาณ 40 มิลลิกรัม)
ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นของชาขาวบริสุทธิ์นี้เอง เป็นที่มาและกำเนิดของเครื่องดื่มชาขาวบริสุทธิ์ แหล่งพลังธรรมชาติที่ผ่านกระบวนการผลิตที่บรรจงสร้างสรรค์ขึ้นมา จากต้นกำเนิดธรรมชาติแรกแย้มแห่งฤดูกาลใบไม้ผลิ พร้อมมอบคุณค่าเหล่านี้แก่ร่างกายคุณ เพื่อสะท้อนความสดชื่นภายในสู่ภายนอกด้วย “ชาขาว - เพียวริคุ” พลังธรรมชาติบริสุทธิ์ สดใสจากภายใน
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net--จบ--