กรุงเทพฯ--29 ก.ค.--กรมส่งเสริมสหกรณ์
นายวิวัตห์ชัย พันธุ์วา รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ พร้อมด้วยนายปรัชญา ดิลกสัตยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมสหกรณ์กรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 และคณะเจ้าหน้าที่ ได้ตรวจเยี่ยมกิจกรรมสหกรณ์นักเรียนของโรงเรียนคลองหนองใหญ่ (ทองคำ ปานขำอนุสรณ์) บางแค กรุงเทพฯ เพื่อเตรียมความพร้อมในโอกาสเฝ้ารับเสด็จฯ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมโครงการเสริมสร้างศักยภาพของเด็กและเยาวชนเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีในพื้นที่กรุงเทพมหานครตามพระราชดำริ เมื่อวันที่ 27 กรกรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ โรงเรียนคลองหนองใหญ่ ทองคำ ปานขำอนุสรณ์ เขตบางแค ได้เข้าร่วมโรงเรียนในโครงการตามพระราชดำริฯ เมื่อปี 2550 ปัจจุบัน มีการดำเนินงานประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี และได้มีการพัฒนาเด็กนักเรียน ผ่านการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ตามแผนพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร ตามพระราชดำริฯ อาทิ กิจกรรมห้องสมุด กิจกรรมห้องพยาบาล และกิจกรรมสหกรณ์ ซึ่งได้มีการจัดกิจกรรมสหกรณ์ร้านค้าในโรงเรียน เพื่อให้นักเรียนได้ ฝึกปฏิบัติจริงและเป็นแหล่งเรียนรู้งานด้านสหกรณ์ให้กับเยาวชน ปัจจุบันมีนักเรียนที่เป็นสมาชิกสหกรณ์ 922 ราย จำนวนหุ้น 2,359 หุ้น โดยมีการเปิดรับสมัครนักเรียนเป็นสมาชิกในอัตราหุ้นละ 10 บาท โดยทางโรงเรียนได้ฝึกให้นักเรียนเรียนรู้ระบบสหกรณ์ มีการจัดกิจกรรมถ่ายทอดแนวคิดอุดมการณ์ หลักการและวิธีการสหกรณ์ เพื่อให้รู้จัก การพึ่งพาตนเองและช่วยเหลือผู้อื่น ฝึกให้นักเรียนทำบัญชีรายรับรายจ่ายและทำบัญชีสหกรณ์ การจดบันทึกรายงาน การประชุม และส่งเสริมด้านการผลิต แปรรูปอาหารจากวัตถุดิบและผลผลิตการเกษตรที่ปลูกภายในโรงเรียน เพื่อนำมาจำหน่าย ซึ่งทุกกิจกรรมได้เสริมสร้างนิสัยและประสบการณ์ ทำให้นักเรียนมีความรับผิดชอบ รู้จักช่วยเหลือ ทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข สามารถนำความรู้และประสบการณ์ไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ ซึ่งรายได้จากกิจกรรมสหกรณ์นักเรียน จะนำไปจัดสรรเพื่อปันผลตามหุ้นของสมาชิกและเป็นเงินเฉลี่ยคืนตามส่วนธุรกิจที่สมาชิก ทำกับสหกรณ์ นอกจากนี้ยังมีการจัดสรรเงินส่วนหนึ่งไปทำกิจกรรมเพื่อเป็นประโยชนแก่สมาชิกและชุมชน เช่น จัดสรรเป็นทุนการศึกษา การพัฒนาสถานศึกษา สนับสนุนกิจกรรมต่าง ๆ ของโรงเรียนและเงินสาธารณประโยชน์ให้แก่ชุมชนอีกด้วย
ภาพข่าวโรงเรียนคลองหนองใหญ่ (ทองคำ ปานขำอนุสรณ์) บางแค กรุงเทพฯ ในโครงการส่งเสริมสหกรณ์ตามพระราชดำริ
ข่าวทั่วไป Wednesday July 29, 2020 13:14 —ThaiPR.net
กรุงเทพฯ--29 ก.ค.--กรมส่งเสริมสหกรณ์
นายวิวัตห์ชัย พันธุ์วา รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ พร้อมด้วยนายปรัชญา ดิลกสัตยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมสหกรณ์กรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 และคณะเจ้าหน้าที่ ได้ตรวจเยี่ยมกิจกรรมสหกรณ์นักเรียนของโรงเรียนคลองหนองใหญ่ (ทองคำ ปานขำอนุสรณ์) บางแค กรุงเทพฯ เพื่อเตรียมความพร้อมในโอกาสเฝ้ารับเสด็จฯ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมโครงการเสริมสร้างศักยภาพของเด็กและเยาวชนเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีในพื้นที่กรุงเทพมหานครตามพระราชดำริ เมื่อวันที่ 27 กรกรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ โรงเรียนคลองหนองใหญ่ ทองคำ ปานขำอนุสรณ์ เขตบางแค ได้เข้าร่วมโรงเรียนในโครงการตามพระราชดำริฯ เมื่อปี 2550 ปัจจุบัน มีการดำเนินงานประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี และได้มีการพัฒนาเด็กนักเรียน ผ่านการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ตามแผนพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร ตามพระราชดำริฯ อาทิ กิจกรรมห้องสมุด กิจกรรมห้องพยาบาล และกิจกรรมสหกรณ์ ซึ่งได้มีการจัดกิจกรรมสหกรณ์ร้านค้าในโรงเรียน เพื่อให้นักเรียนได้ ฝึกปฏิบัติจริงและเป็นแหล่งเรียนรู้งานด้านสหกรณ์ให้กับเยาวชน ปัจจุบันมีนักเรียนที่เป็นสมาชิกสหกรณ์ 922 ราย จำนวนหุ้น 2,359 หุ้น โดยมีการเปิดรับสมัครนักเรียนเป็นสมาชิกในอัตราหุ้นละ 10 บาท โดยทางโรงเรียนได้ฝึกให้นักเรียนเรียนรู้ระบบสหกรณ์ มีการจัดกิจกรรมถ่ายทอดแนวคิดอุดมการณ์ หลักการและวิธีการสหกรณ์ เพื่อให้รู้จัก การพึ่งพาตนเองและช่วยเหลือผู้อื่น ฝึกให้นักเรียนทำบัญชีรายรับรายจ่ายและทำบัญชีสหกรณ์ การจดบันทึกรายงาน การประชุม และส่งเสริมด้านการผลิต แปรรูปอาหารจากวัตถุดิบและผลผลิตการเกษตรที่ปลูกภายในโรงเรียน เพื่อนำมาจำหน่าย ซึ่งทุกกิจกรรมได้เสริมสร้างนิสัยและประสบการณ์ ทำให้นักเรียนมีความรับผิดชอบ รู้จักช่วยเหลือ ทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข สามารถนำความรู้และประสบการณ์ไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ ซึ่งรายได้จากกิจกรรมสหกรณ์นักเรียน จะนำไปจัดสรรเพื่อปันผลตามหุ้นของสมาชิกและเป็นเงินเฉลี่ยคืนตามส่วนธุรกิจที่สมาชิก ทำกับสหกรณ์ นอกจากนี้ยังมีการจัดสรรเงินส่วนหนึ่งไปทำกิจกรรมเพื่อเป็นประโยชนแก่สมาชิกและชุมชน เช่น จัดสรรเป็นทุนการศึกษา การพัฒนาสถานศึกษา สนับสนุนกิจกรรมต่าง ๆ ของโรงเรียนและเงินสาธารณประโยชน์ให้แก่ชุมชนอีกด้วย