บลจ.ไทยพาณิชย์ ต่อยอดกองทุน “คอมเพล็กซ์ รีเทิร์น 1YE” ลดความเสี่ยงจากการขาดทุนเงินต้น พร้อมโอกาสสร้างผลตอบแทนเพิ่มในตลาดทองคำโลก

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday August 18, 2020 11:23 —ThaiPR.net

บลจ.ไทยพาณิชย์ ต่อยอดกองทุน “คอมเพล็กซ์ รีเทิร์น 1YE” ลดความเสี่ยงจากการขาดทุนเงินต้น พร้อมโอกาสสร้างผลตอบแทนเพิ่มในตลาดทองคำโลก กรุงเทพฯ--18 ส.ค.--บลจ.ไทยพาณิชย์ นายณรงค์ศักดิ์ ปลอดมีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่าบริษัทฯ เตรียมเสนอขายกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ คอมเพล็กซ์ รีเทิร์น 1YE (SCB Complex Return 1YE : SCBCR1YE) ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย อายุ 1 ปี มูลค่าโครงการ 4,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นกองทุนที่ช่วยลดความเสี่ยงจากการขาดทุนของเงินต้น พร้อมเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนตามราคาทองคำโลกจากการลงทุนในสัญญาวอร์แรนต์ที่อ้างอิงกับ ETF ทองคำต่างประเทศ คือ SPDR Gold Shares โดยเปิดขายหน่วยลงทุนครั้งเดียวระหว่างวันที่ 18-24 สิงหาคม 2563 ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำ 500,000 บาท กองทุนนี้มีกลยุทธ์การลงทุนแบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่ 1 นำเงินต้นประมาณ 98% ของทรัพย์สินกองทุนไปลงทุนในตราสารหนี้และเงินฝากทั้งในและต่างประเทศที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับลงทุนได้ขึ้นไป เมื่อครบกำหนดอายุกองทุนจะได้รับเงินลงทุนคืนพร้อมผลตอบแทนซึ่งมีมูลค่าเทียบเท่ากับเงินต้น การลงทุนส่วนนี้มีความผันผวนต่ำช่วยลดความเสี่ยงการขาดทุนเงินต้นได้ โดยเบื้องต้นคาดว่าพอร์ตการลงทุนในส่วนนี้จะประกอบไปด้วย เงินฝากธนาคาร Doha Bank (DOHA) – กาตาร์, เงินฝากธนาคาร Ahli Bank (AHL) – กาตาร์, ตราสารหนี้ธนาคาร Al Khaliji Bank (ALK) – กาตาร์, ตราสารหนี้ธนาคาร The Commercial Bank (CBQ) – กาตาร์ ตราสารหนี้ธนาคาร Qatar National Bank (QNB) –กาตาร์ และตราสารหนี้ China Merchants Bank (CMB) – จีน ซึ่งกองทุนจะเข้าทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ส่วนที่ 2 ประมาณ 2% ของทรัพย์สินกองทุน จะนำไปลงทุนในสัญญาวอร์แรนต์ที่อิงกับผลตอบแทนของ ETF - SPDR Gold Shares จดทะเบียนและซื้อขายในสหรัฐอเมริกา เน้นสร้างผลตอบแทนให้สอดคล้องกับราคาทองคำ LBMA Gold Price PM ที่ได้รับการประเมินจาก London Bullion Market Association (LBMA) ผู้นำของโลกในการซื้อขายกำหนดมาตรฐานรูปแบบและแหล่งที่มาของโลหะรวมถึงทองคำ โดยสัญญาวอแรนต์ดังกล่าวมีลักษณะการจ่ายผลตอบแทนแบบ Shark fin ซึ่งเป็นส่วนสร้างผลตอบให้กับกองทุน โดยแบ่งการจ่ายผลตอบแทนเป็น 3 กรณี คือ กรณีที่ 1 จ่ายผลตอบแทน 60% ของผลตอบแทนของ ETF เมื่อ ETF ปรับตัวขึ้นระหว่าง 0 ถึง 15% กรณีที่ 2 จ่ายผลตอบแทนชดเชยประมาณ 0.25% เมื่อ ETF ปรับตัวขึ้นเกิน 15% ระหว่างอายุกองทุน และกรณีที่ 3 ไม่จ่ายผลตอบแทนหาก ETF ปรับตัวลงต่ำกว่าราคา ณ วันลงทุนเมื่อครบกำหนดอายุกองทุน โดย ETF - SPDR Gold Shares มีผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันอยู่ที่เฉลี่ย 15.87% ต่อปี ย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 9.78% ต่อปี และย้อนหลัง1 ปีอยู่ที่ 24.99% ต่อปี (ที่มา Bloomberg ข้อมูล ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2562) นายณรงค์ศักดิ์ กล่าวว่า ทองคำถือเป็นสินทรัพย์ทางเลือกที่สามารถนำมาผสมไว้ในพอร์ตการลงทุนเพื่อเป็นการช่วยกระจายความเสี่ยงในการลงทุน เนื่องจากทองนั้นเป็นสินทรัพย์ที่มักจะทำได้ดีในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง หรือมีความกังวลด้านเศรษฐกิจ อย่างในปัจจุบันที่ยังคงมีความเสี่ยงในเรื่องการแพร่ระบาดรอบที่สองของไวรัส COVID-19 ที่อาจเป็นปัจจัยลบต่อตลาดโลก อย่างไรก็ตาม ควรระมัดระวังการลงทุนในทองคำเนื่องจากราคาทองคำปรับขึ้นมาค่อนข้างมากตั้งแต่ช่วงต้นปีเนื่องจากมีนักลงทุนเข้าไปเก็งกำไรเป็นจำนวนมาก ดังนั้นกองทุน SCBCR1YE ที่มีรูปแบบช่วยลดความเสี่ยงจากการขาดทุนของเงินต้น จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกการลงทุนที่น่าสนใจ ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและรับหนังสือชี้ชวนได้ทุกวันทำการ ได้ที่ SCBAM Call Center โทร.02-777-7777 กด 0 กด 6 หรือผู้สนับสนุนการขายทุกราย หรือ https://scbam.link/SCBCR1YE

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ