Good Night Stories for Rebel Girls…ความเท่าเทียมที่จะฝันแด่เด็กสาวในตัวเราทุกคน

ข่าวเศรษฐกิจ Friday August 28, 2020 11:38 —ThaiPR.net

Good Night Stories for Rebel Girls…ความเท่าเทียมที่จะฝันแด่เด็กสาวในตัวเราทุกคน กรุงเทพฯ--28 ส.ค.--นานมีบุ๊คส์ สมมติว่าคุณเป็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง เกิดในเมืองเล็ก ๆ หรือในจังหวัดที่ห่างไกลจากเมืองหลวงของประเทศ คุณจะกล้า “ฝัน” ถึงการเป็นนักเขียนหญิงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศในรอบทศวรรษหรือไม่ หรือคุณเคย “นึกเล่น ๆ” ว่าอยากเป็นนายกเทศมนตรี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือหัวหน้าพรรคการเมืองที่จะกลับไปช่วยพัฒนาบ้านเกิดของตัวเองหรือเปล่า คุณจะ “จินตนาการ” ภาพตัวเองอยู่ในห้องทดลองชีววิศวกรรมที่กำลังค้นพบยารักษาโรคร้ายเป็นครั้งแรกหรือเปล่า ถ้าไม่… คุณเคยถามตัวเองไหมว่าเพราะอะไร ความสำเร็จหนึ่งของสังคมโลกในทศวรรษ 2020 คือกระแสการเรียกร้องความเท่าเทียมกลายมาเป็นประเด็นที่ชัดเจนและเป็นที่ยอมรับมากขึ้น กระนั้นในความเป็นจริงก็ยังมีความเหลื่อมล้ำในแง่มุมต่าง ๆ ที่ทำให้การดำรงชีวิตของคนบางกลุ่มยังคงได้รับผลกระทบ ได้รับความลำบาก ตัวอย่างที่เราเห็นในข่าวอยู่เสมอคือการเลือกปฏิบัติหรือเอารัดเอาเปรียบด้วยข้ออ้างด้านเพศ ฐานะ หรือชาติพันธุ์ การสร้างความตระหนักรู้และเรียกร้องให้เกิดความเท่าเทียมขั้นพื้นฐานสำหรับคนทุกคนจึงเป็นเรื่องสำคัญ ประเด็นหนึ่งที่นักเคลื่อนไหวในปัจจุบันให้ความสนใจคือ การผลักดันให้เด็กและเยาวชนเข้าใจศักยภาพและเห็นคุณค่าของตัวเองโดยไม่มีข้อจำกัดที่เกิดจากอคติ ซึ่งหนังสือทั้ง 2 เล่มในชุด ร้อยเรื่องเล่าของผู้หญิงเปลี่ยนโลก (Good Night Stories for Rebel Girls) ก็เป็นงานเขียนที่เกิดขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ดังกล่าว หนังสือชุดนี้รวบรวมเรื่องราวของผู้หญิง 100 คนทั่วโลกที่สร้างแรงบันดาลใจ (ตอนนี้มี 2 เล่มจึงรวมเป็น 200 คนเลยทีเดียว!) คัดเลือกเอาเหตุการณ์ในชีวิต หรือความรู้สึกนึกคิดสำคัญของผู้หญิงเหล่านั้นมาปรุงใหม่และเล่าให้เป็นนิทานก่อนนอนขนาดสั้นสำหรับเด็ก ๆ พร้อมภาพประกอบสีสันสดใสของผู้หญิงแต่ละคน เพื่อสะท้อนตัวตนและความสามารถอันน่าประทับใจของพวกเธอ ตัวแทนผู้หญิงที่มาปรากฏอยู่ในหนังสือเล่มนี้มีทั้งบุคคลที่มีชื่อเสียงโด่งดัง เป็นที่รู้จักกันทั่วไป เช่น มิเชล โอบามา อดีตสุภาพสตรีหมายเลข 1 ของสหรัฐอเมริกา มารี กูรี นักเคมีชาวฝรั่งเศสเจ้าของรางวัลโนเบล หรือสองพี่น้อง เซรีนาและวีนัส วิลเลียมส์ นอกจากนี้ก็ยังมีบุคคลที่อาจไม่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางแต่เป็นผู้สร้างคุณูปการสำคัญให้แก่โลกอย่าง ซาฮา ฮาดิด ยอดสถาปนิกที่สร้างแรงบันดาลใจผ่านการออกแบบอาคารอันงดงามแปลกตา ออดรีย์ เฮปเบิร์น นักแสดงชื่อดังของฮอลลีวู้ดที่ผันตัวมาเป็นนักเคลื่อนไหวเพื่อมนุษยธรรม มาร์กาเร็ต แฮมิลตัน นักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ที่ช่วยให้นาซาส่งกระสวยอวกาศไปดวงจันทร์ หรือเคต เชปพาร์ด นักเรียกร้องสิทธิที่สร้างความเปลี่ยนแปลงเพื่อให้หญิงชาวนิวซีแลนด์ได้รับสิทธิ์ในการเลือกตั้ง นอกเหนือจากตัวอย่างผู้หญิงเก่งข้างต้น ภายในเล่มยังมีตัวแทนผู้หญิงอีกมากมายที่เรื่องราวของพวกเธอได้มอบแรงบันดาลใจในสิ่งที่เราอาจไม่เคยนึกฝัน (หรือนึกฝันไปไม่ถึง) ไม่ว่าจะเป็นสายลับ เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า นักภูเขาไฟวิทยา นักดาราศาสตร์ฟิสิกส์ นักการเมือง ตุลาการศาล ประสาทศัลยแพทย์ และนักปีนเขาผาดโผน ฯลฯ เรื่องราวส่วนนี้อาจไม่ใช่เรื่องน่าตื่นเต้นหรือยิ่งใหญ่จนเปลี่ยนประวัติศาสตร์โลก แต่เมื่อถ่ายทอดออกมาในรูปแบบนิทานขนาดสั้นสำหรับอ่านให้เด็ก ๆ ฟังก่อนนอนแล้ว กลับมีพลังจุดประกายเล็ก ๆ ให้หลายคนเห็นว่า “ผู้หญิงก็เป็นกำลังสำคัญอีกครึ่งหนึ่งของโลก” เป็นทั้งคนตัวเล็ก ๆ ที่เป็นตัวต่อสำคัญซึ่งรองรับอารยธรรมของเราไว้ เป็นผู้บุกเบิกพรมแดนใหม่ ๆ ในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติเรื่อยมา แม้แต่ผู้ใหญ่ที่ได้อ่านเองก็ยังได้ก้าวสู่โลกอีกใบที่เห็นว่า “ความฝันและแรงบันดาลใจไม่เคยจำกัดด้วยเพศของเรา” สมมติว่าตอนนี้มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง เธอเกิดในเมืองเล็ก ๆ หรือจังหวัดที่ห่างไกลจากเมืองหลวงของประเทศ หรือเธออาจอาศัยอยู่กลางกรุงที่เต็มไปด้วยตึกระฟ้า พวกเธออยู่ภายใต้เงื้อมเงาของอะไรบางอย่าง… อย่าเลย ไม่ใช่หน้าที่ของผู้หญิง ให้ผู้ชายเขาไปทำดีกว่า” “เป็นผู้หญิงจะไปเรียนอะไรแบบนั้นได้ยังไง” “รอโตก่อน เดี๋ยวก็แต่งงานมีครอบครัวและเลิกสนใจไปเอง” คุณคิดว่านักเขียนหญิงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศในรอบทศวรรษจะเกิดขึ้นภายใต้เงาของสิ่งเหล่านี้ได้หรือไม่ นายกเทศมนตรีหญิงหรือนายกรัฐมนตรีหญิงจะกลับไปช่วยพัฒนาบ้านเกิดของตัวเองได้หรือเปล่า หรือประเทศของเราจะให้กำเนิดวิศวกรเคมีหญิงที่ค้นพบยารักษาโรคร้ายเป็นครั้งแรกสักคนไหม ลูกสาวของคุณ หลานสาวของคุณ พี่สาวของคุณ น้องสาวของคุณ หรือเพื่อนผู้หญิงของคุณอาจเป็นบุคคลเหล่านั้นได้หรือไม่ ถ้าคุณเปลี่ยนข้อความข้างต้นให้พูดถึง “เด็กผู้ชาย” แทน คุณจะรู้สึกว่าทุกอย่างเป็นไปได้ง่ายขึ้นหรือเปล่า หากเป็นเช่นนั้น บรรดา “นิทาน” ทั้ง 200 เรื่องจากหนังสือชุด ร้อยเรื่องเล่าของผู้หญิงเปลี่ยนโลก (Good Night Stories for Rebel Girls) อาจเป็นมากกว่าจินตนาการเพ้อฝันก่อนนอน และอาจเป็นเทียนเล่มน้อยที่เริ่มต้นจุดไล่เงามืดของอะไรบางอย่าง ช่วยเปิดหนทางใหม่ ความฝันใหม่ ๆ ที่จะเปลี่ยนแปลงโลกนี้ให้กลายเป็นโลกแห่งความฝันที่เท่าเทียมสำหรับเด็กสาวที่อยู่รอบข้างและอยู่ในตัวพวกเราทุกคน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ