ภูมิต้านทานดี มีชัยไปกว่าครึ่ง ด้วยเคล็ดลับเสริมภูมิคุ้มกันร่างกายให้แข็งแกร่ง

ข่าวทั่วไป Monday September 14, 2020 15:19 —ThaiPR.net

ภูมิต้านทานดี มีชัยไปกว่าครึ่ง ด้วยเคล็ดลับเสริมภูมิคุ้มกันร่างกายให้แข็งแกร่ง กรุงเทพฯ--14 ก.ย.--แฟรนคอม เอเชีย หน้าที่สำคัญของระบบภูมิคุ้มกันคือ การป้องกันโรคและช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวจากการเจ็บป่วย การรับประทานอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ เช่น อาหารที่มีแคลอรี่สูงจากน้ำตาล เนื้อสัตว์ต่าง ๆ และผลิตภัณฑ์จากนมไขมันเต็ม (full fat dairy product) มักก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมา ได้แก่ โรคอ้วนและโรคที่เกิดจากความผิดปกติของกระบวนการเผาผลาญอาหาร (metabolic diseases) ยิ่งไปกว่านั้น ยังทำให้ภูมิคุ้มกันร่างกายเกิดความไม่สมดุลและอ่อนแอ นิสัยการรับประทานอาหารที่ไม่มีคุณค่าทางโภชนาการจะเป็นตัวทำลายระบบภูมิคุ้มกันของเรา เหมือนเวลาที่ข้าศึกโจมตีและทำลายป้อมปราการจนแตกพ่าย และอาจทำให้ร่างกายมีความเสี่ยงที่จะเจ็บป่วยได้ใหม่และ/หรือกลับมาป่วยโรคเดิมซ้ำได้อีก ทำไมภูมิคุ้มกันจึงเป็นวิธีป้องกันโรคที่ดีที่สุด ดร. เคนท์ แบรดลีย์ ประธานที่ปรึกษาด้านสุขภาพและโภชนาการของเฮอร์บาไลฟ์ นิวทริชั่น ได้ให้คำแนะนำว่า ให้ลองนึกภาพร่างกายของเราเป็นป้อมปราการที่ถูกออกแบบมาเป็นอย่างดี ทุก ๆ วัน ร่างกายจะต่อสู้ป้องกันตัวเองจากอันตรายที่อาจเกิดขึ้นด้วยระบบป้องกันที่ซ้อนกันเป็นชั้นๆ ร่างกายจึงสามารถป้องกันและซ่อมแซมตัวเองไปพร้อม ๆ กันได้เมื่อมีภัยคุกคาม เซลล์ในร่างกายก็เปรียบเหมือนกองทหารป้องกัน แต่ละเซลล์จะได้รับมอบหมายหน้าที่ที่แตกต่างกันเพื่อช่วยร่างกายป้องกันโรคต่าง ๆ ถ้าป้องกันไม่สำเร็จ ทหารเซลล์เหล่านี้จะรักษาซ่อมแซมร่างกายเมื่อจำเป็น โภชนาการจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะเซลล์ในร่างกายล้วนต้องการสารอาหารประเภทต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ กลุ่มสารอาหารหลัก ได้แก่ โปรตีน คาร์โบไฮเดรต และไขมันกลุ่มสารอาหารรอง ได้แก่ วิตามินและเกลือแร่สายพฤกษเคมี หรือไฟโตนิวเทรียนท์ ที่พบเฉพาะในพืช ในประเภทสารอาหารเหล่านี้ เราเข้าใจบทบาทความสำคัญของโปรตีน รวมถึงไขมันที่ดีและจำเป็นต่อสุขภาพอย่างกรดไขมันโอเมก้า 3 และเส้นใยอาหารที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของจุลินทรีย์ไมโครไบโอมในระบบทางเดินอาหาร นอกจากนี้ ยังรวมถึงวิตามิน เกลือแร่ และสารอาหารจากพืชที่ช่วยให้ร่างกายเรามีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง เรื่องจริงจากแรงบันดาลใจของการมีโภชนาการที่ดี แม้เราจะไม่ค่อยพบปัญหาการขาดแคลนอาหารในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว ทว่าผู้คนหลายคนในแถบประเทศกำลังพัฒนากลับไม่ได้รับวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกายมานาน ย้อนกลับไปเมื่อปี 1976 จักษุแพทย์ท่านหนึ่งในอินโดนีเซียได้พยายามรักษาเด็ก ๆ ที่กำลังจะตาบอดเพราะร่างกายขาดวิตามินเอ เขาสังเกตเห็นว่าเมื่อคนเหล่านี้ได้รับวิตามินเออย่างเพียงพอ พวกเขาก็จะไม่เสียชีวิตด้วยโรคที่พบได้ทั่วไปในอินโดนีเซีย เช่น โรคหัดหรือท้องร่วง ข้อสังเกตนี้นำไปสู่งานค้นคว้าวิจัยต่าง ๆ มากมาย รวมถึงองค์การอนามัยโลกที่ออกมาแนะนำเรื่องการให้วิตามินเอเสริมแก่เด็กและกลุ่มคนที่มาจากถิ่นที่มีการขาดวิตามินเอ ธนาคารโลกเองก็ได้ออกมาประกาศว่าการให้วิตามินเอเสริมเป็นหนึ่งในวิธีการแก้ปัญหาสุขภาพที่คุ้มทุนที่สุด สิ่งเหล่านี้สอนเราว่า ไม่ว่าจะเป็นวิตามินเอ ดี หรือซี รวมทั้งเกลือแร่อย่างแมกนีเซียมหรือสังกะสี หรือสารต้านอนุมูลอิสระจากพืชหรือโปรตีน ก็ตาม เซลล์ของเราต้องการปริมาณสารอาหารต่าง ๆ อย่างสมดุลเพื่อทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สิ่งเหล่านี้สอนเราว่า ไม่ว่าจะเป็นวิตามินเอ ดี หรือซี รวมทั้งเกลือแร่อย่างแมกนีเซียมหรือสังกะสี หรือสารต้านอนุมูลอิสระจากพืชหรือโปรตีน ก็ตาม เซลล์ของเราต้องการปริมาณสารอาหารต่าง ๆ อย่างสมดุลเพื่อทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ กดไลค์เราที่เฟซบุ๊ค พร้อมอีกหลากหลายเคล็ดลับดี ๆ เพื่อสุขภาพที่ดีและไลฟ์สไตล์ที่กระฉับกระเฉง ได้ที่ www.facebook.com/HerbalifeThailandOfficial และ www.instagram.com/HerbalifeThailandOfficial
แท็ก แคลอรี่  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ