อินเวสคอร์ปเข้าซื้อหุ้นวิซแบรนซ์ผู้นำธุรกิจซีเรียล และกาแฟสำเร็จรูปในจีนและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday November 17, 2020 14:49 —ThaiPR.net

อินเวสคอร์ป (Investcorp) ประกาศในวันนี้ว่า บริษัทได้เข้าร่วมสัญญาเข้าซื้อสัดส่วนหุ้นข้างมากในบริษัทวิซแบรนซ์โฮลดิ้ง (Viz Branz Holdings Pte Ltd.) (วิซแบรนซ์ หรือ บริษัท) จากผู้ถือหุ้นปัจจุบันและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร นาย เบ็น ช็อง โดยมีเอเชีย ฟู้ด โกรท ฟันด์ 1 (Asia Food Growth Fund I) เข้าร่วมธุรกรรม

วิซแบรนซ์ ได้รับการก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2531 เป็นธุรกิจครอบครัวที่ผลิตและจัดจำหน่ายซีเรียลและเครื่องดื่มสำเร็จรูปชั้นนำในประเทศจีนและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งรวมถึงแบรนด์โกลด์โรสต์ (Gold Roast) คาลซัม (Calsome) ชารอยัลเมียนมา (Royal Myanmar Tea) และคาเฟ่ 21 (Cafe 21) วิซแบรนซ์มีสำนักงานใหญ่ที่ประเทศสิงคโปร์ ด้วยพนักงานประมาณ 1,300 คน และฐานการผลิตและดำเนินการในประเทศจีนและเมียนมา วิซแบรนซ์มีรายได้ 3,800 ล้านบาท (170 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์) ในปีที่ผ่านมา ข้อมูล ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2563

ตลาดที่สำคัญที่สุดสำหรับวิซแบรนซ์คือประเทศจีน ซึ่งทำรายได้มากกว่า 65% ให้บริษัท แบรนด์โกลด์โรสต์มีส่วนแบ่งการตลาด 35% ในตลาดซีเรียลสำเร็จรูปทางตอนใต้ของประเทศจีน ซึ่งมีประชากรรวมกันมากกว่า 220 ล้านคน วิซแบรนซ์มีธุรกิจที่เข้มแข็งด้วยตลาดซีเรียลสำเร็จรูปที่ใหญ่ในประเทศจีน ซึ่งมีมูลค่ากว่า 3 หมื่นล้านบาท และคาดว่าจะเติบโตได้ปีละ 7% ไปถึง 43,000 ล้านบาทภายในปี 2567 ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมาบริษัทเข้าสู่การเป็นผู้นำในตลาดด้วยผลิตภัณฑ์กว่า 10 แบรนด์ในประเทศจีนและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ฮาเซ็ม เบ็น กาเซ็ม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วมของอินเวสคอร์ป และประธานกรรมการของคณะกรรมการการลงทุน เอเชีย ฟู้ด โกรท ฟันด์ กล่าวว่า "เราภูมิใจอย่างยิ่งที่การลงทุนในเอเชียของเราเติบโตขึ้น ในวันนี้อินเวสคอร์ปได้ลงทุนมากกว่า 3 หมื่นล้านบาทในเอเชีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศจีน ธุรกรรมนี้นำเสนอถึงโอกาสที่น่าตื่นเต้นในการลงทุนในบริษัทที่เป็นผู้นำของตลาด รวมถึงธุรกิจที่เราเชื่อว่ามีศักยภาพดึงดูดการลงทุนและมีการเติบโตที่แข็งแกร่งและมั่นคง เราเชื่อมั่นว่าวิซแบรนซ์จะสามารถเติบโตได้ดีด้วยการทำธุรกิจในประเทศจีนและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และการนำเสนอนวัตกรรมของบริษัทจากธุรกรรมการซื้อกิจการในครั้งนี้"

นาย เบ็น ชง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารวิซแบรนซ์และผู้ถือหุ้นปัจจุบันในบริษัท จะยังคงสัดส่วนการถือหุ้นอย่างมีนัยสำคัญไว้ กล่าวว่า "เราทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยที่วิซแบรนซ์ เพื่อนำเสนออาหารและเครื่องดื่มที่มีคุณค่าทางโภชนาการและมีคุณภาพให้ทุกครอบครัวได้รับประทานด้วยความสะดวก การร่วมงานกับอินเวสต์คอร์ป ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของไชน่า รีซอร์ส แอนด์ ฟุง อินเวสท์เมนต์ นับเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาของเราและจะสร้างโอกาสที่ดียิ่งขึ้นให้กับธุรกิจ จากการร่วมเป็นพันธมิตรนี้ วิซแบรนซ์จะได้ประโยชน์จากทรัพยากรและความรู้ความเชี่ยวชาญที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วยเร่งการเติบโตของธุรกิจเราต่อไปในอีกหลายปีข้างหน้า"

การซื้อกิจการวิซแบรนซ์นี้นับเป็นการลงทุนของอินเวสต์คอร์ปครั้งที่ 16 ในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา ทั้งในสหรัฐอเมริกา ยุโรป ภูมิภาคเอเชียตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ และเอเชีย

อินเวสต์คอร์ปได้จัดตั้งกิจการร่วมทุนกับ ซีอาร์แคปปิตอล ซึ่งเป็นธุรกิจลงทุนของไชน่า รีสอร์ซ กรุ๊ป ซึ่งได้รับการจัดอันดับในฟอร์จูนโกลบอล 500 และเป็นเจ้าของกลุ่มธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ตที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน และไชน่า รีสอร์ซ แวนการ์ด และ ฟุง สตราทีจิก โฮลดิ้งส์ ซึ่งเป็นบริษัทลงทุนของครอบครัว นายวิคเตอร์ ฟุง และนายวิลเลียม ฟุง กิจการลงทุนนี้มุ่งเน้นที่การเติบโตที่มีศักยภาพสูงและตลาดที่มีโอกาสในธุรกิจอาหารซึ่งมีผู้เล่นสำคัญหลายรายในภูมิภาคเอเชีย

เกี่ยวกับอินเวสต์คอร์ป
อินเวสต์คอร์ปเป็นผู้จัดการลงทุนระดับโลก มีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษในหุ้นเอกชนทุกประเภท อสังหาริมทรัพย์ สินเชื่อ การลงทุนที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้โดยมีความสัมพันธ์กับตลาดต่ำ การซื้อหุ้นสัดส่วนน้อยในกิจการ และสาธารณูปโภค นับตั้งแต่การก่อตั้งในปี 2526 เรามุ่งเน้นในการสร้างผลตอบแทนที่น่าดึงดูดใจสำหรับลูกค้า และในขณะเดียวกันก็มุ่งสร้างมูลค่าในระยะยาวให้กับบริษัทที่เป็นผู้รับการลงทุน และสำหรับนักลงทุนที่มีความรอบคอบและรับผิดชอบสำหรับผู้ถือหุ้น

เราใช้เงินกองทุนของเราด้วยสัดส่วนที่มีนัยสำคัญในการลงทุนในผลิตภัณฑ์ที่เรานำเสนอแก่ลูกค้า เพื่อให้มั่นใจว่าความสนใจของเราเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับผู้มีส่วนได้เสีย รวมถึงชุมชนที่เราทำธุรกิจอยู่ เพื่อไปสู่การสร้างมูลค่าอย่างยั่งยืน เรามีความภูมิใจในการร่วมพันธมิตรกับลูกค้าในการส่งมอบทางออกที่คัดสรรสำหรับความต้องการของลูกค้า โดยใช้กระบวนการลงทุนที่มีวินัย บุคลากรที่มีความสามารถในระดับโลก ผนวกกับทรัพยากรที่มีจากการเป็นสถาบันระดับโลกโดยใช้นวัตกรรมและแนวทางที่เอื้อต่อธุรกิจ

ในปัจจุบันอินเวสต์คอร์ปมีธุรกิจใน 12 ประเทศทั่วโลก ทั้งในสหรัฐอเมริกา ยุโรป กลุ่มประเทศคณะมนตรีความร่วมมือแห่งอ่าวอาหรับ และเอเชีย ซึ่งรวมถึงประเทศอินเดีย จีน และสิงคโปร์ ข้อมูล ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2563 อินเวสเตอร์คอร์ป กรุ๊ป มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารทั้งสิ้น 32,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งรวมการบริหารโดยผู้จัดการสินทรัพย์นอกบริษัทด้วย และมีพนักงานประมาณ 450 คน จาก 44 เชื้อชาติทั่วโลก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ